

บทที่ 1
พื้นผิวแม่น้ำ แสงคลื่นระยิบระยับ ชายหนุ่มคนหนึ่งสวมชุดธรรมดา ผมยุ่งเหยิงเล็กน้อย ดูแล้วอายุไม่เกินยี่สิบห้าปี ยืนริมแม่น้ำมองแม่น้ำที่ไหลหลากไม่หยุดพัก ในดวงตามีร่องรอยความโชกโชนไม่สมวัย
ข้างๆ มีหญิงสาวโฉมงามคนหนึ่ง หน้าตาสวยสดงดงาม เป็นใบหน้าที่ทำให้ผู้คนชื่นชอบอย่างยิ่ง แต่สีหน้านั้นไม่น่าชมเชยเลยจริงๆ
“กลับไปซะ เมื่อก่อนยังรู้จักพูด ตอนนี้โง่ไปแล้วหรือไง?" หญิงสาวมองชายหนุ่มขณะพูดอย่างไม่สบอารมณ์!
ไอ้หมอนี่นั่งอยู่ที่นี่สามวันแล้ว คิดจะทำอะไร? อยากตายหรือไง?
หยางเทียนเงยหน้าขึ้นแผ่วเบาท่ามกลางน้ำเสียงชิงชังของหญิงสาว มองหญิงสาวเรียบๆ แวบหนึ่ง แววตาสงบนิ่ง มั่นคงไม่แปรเปลี่ยน
“มองอะไร? อยากตายจริงๆ ก็กระโดดลงไป ดีกว่าขายขี้หน้าอยู่ตรงนี้” หญิงสาวกล่าวอย่างชั่วร้ายสุดขีด!
หยางเทียนเงยหน้ามองหญิงสาวเรียบๆ ไม่สนใจหญิงสาว ก้มหน้าลง ราวกับพระภิกษุเฒ่าเข้าฌาน
หยางเทียนคือเขยแต่งเข้าตระกูลเซียว หญิงสาวตรงหน้าคือน้องภรรยาของเขา เห็นได้ชัดว่ารังเกียจเขาสุดขีด มาที่นี่ได้ไม่ใช่เพราะเป็นห่วงเขา แค่ไม่อยากให้เขาตายอยู่ที่นี่ขายขี้หน้าคนตระกูลเซียวก็เท่านั้น
หยางเทียนในอดีตหากถูกติเตียนแบบนี้ส่วนใหญ่ก็จะโอนอ่อนผ่อนตาม ก้มหน้ากลับบ้าน ลูกเขยแต่งเข้าไร้ค่ายิ่งกว่าสุนัข ประโยคนี้ไม่ใช่แค่พูดเฉยๆ แต่เหมาะสำหรับหยางเทียนที่ไม่ประสบความสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันโดยเฉพาะ
ที่มานั่งอยู่ตรงนี้ล้วนแล้วเป็นเหตุมาจากสามวันก่อน ในความฝันหนึ่ง ความฝันหนึ่งที่แสนพิลึกพิลั่น พิลึกจนหยางเทียนไม่กล้าเชื่อจนถึงตอนนี้
ฝันย้อนไปเมื่อห้าพันปีก่อน ในยุคสมัยดึกดำบรรพ์ หยางเทียนใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก
ได้เห็นศึกใหญ่ระหว่างจักรพรรดิเหลืองกับซือโหยว เป็นประจักษ์พยานเสินหนงชิมพืชนานาพรรณ ผ่านประสบการณ์พระเจ้าอวี่จัดการน้ำท่วม เป็นประจักษ์พยานทุกการเปลี่ยนผ่านราชวงศ์ สนทนาหลักปรัชญาเปี่ยนเชว่และฮัวโต๋ ชี้แนะซุนซือเหมี่ยว จางจ้งจิ่ง ท่ามกลางประวัติศาสตร์อันยาวนาน เขาเหมือนเป็นผู้ที่ผ่านมา และเหมือนจะไม่ใช่
จนถึงใกล้ยุคปัจจุบัน ฝึกบำเพ็ญตนบนโลกฆราวาสห้าพันปีสู่แดนสวรรค์ทั้งหก ห้วงฝันหวนคืน เวลากลับมาสู่จุดกำเนิด
ไม่อยากจะเชื่อ แต่พบว่าทุกอย่างเป็นเรื่องจริง การย้อนเวลาอันน่าอัศจรรย์ การหวนกลับมาอันน่าอัศจรรย์ รู้สึกน่ายินดีหรืออาลัยอาวรณ์ ความทรงจำผสมปนเปในสมอง ทำให้หยางเทียนเหมือนไม้ใกล้ฝั่งในชั่วพริบตา
“นายคิดว่านายไม่พูดก็ได้ใช่ไหม” เสียงแสบแก้วหูของหญิงสาวดังขึ้นอีกครั้ง
ส้นสูงกระทบเป็นจังหวะเดินมาตรงหน้าหยางเทียน สะบัดมือตบไปทางหยางเทียนทันที หยางเทียนเอื้อมมือข้างหนึ่งไปจับมือเซียวยี่ฉิงโดยที่ไม่เงยหน้าขึ้น เป็นเพียงจิตใต้สำนึกเท่านั้น ทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่าเบื้องหน้าเป็นเพียงหญิงสาวคนหนึ่ง หยางเทียนจึงคลายแรงส่วนใหญ่ แต่ก็ทำให้เซียวยี่ฉิงเบ้าตาแดงก่ำอยู่ดี “หยางเทียนนายกล้าตอบโต้เหรอ”เซียวยี่ฉิงกุมข้อมือ น้ำตาคลอเบ้า กล่าวอย่างคับข้องใจสุดขีด!
มองหญิงสาวตรงหน้าเรียบๆ หยางเทียนยักไหล่แล้วลุกขึ้นโดยไม่พูดไม่จา น้องภรรยารังเกียจเขาไม่ใช่แค่วันสองวัน สรุปแล้วเป็นตนนี่แหละที่น่าผิดหวัง
แม่ยายไม่ชอบ พ่อตาดูถูก น้องภรรยารังเกียจ ญาติสนิทมิตรสหายนินทาลับหลัง สำหรับหยางเทียนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว
แต่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิม ใบหน้านั้น เป็นอาลัยรักสุดซึ้งในใจเขาเสมอมา ที่เขาอยู่ต่อก็เพราะเธอ ไม่ว่าจะได้รับความคับข้องใจมากแค่ไหน เขาก็ไม่ยินยอมจากไป
ชีวิตมีขึ้นมีลงเป็นเวลาห้าพันปี สุดท้ายก็เดาคำว่ารักไม่ถ่องแท้ ไม่ใช่แค่เขา วีรบุรุษและผู้ครองอำนาจมากมายล้วนเป็นเช่นนี้ “ยังไงก็เป็นน้องสาวของเธอ” หยางเทียนเอ่ยปากในที่สุด ในสุ้มเสียงจืดชืดธรรมดา มีความทะนงตนยากจะเอื้อนเอ่ย
เห็นดวงตามั่นคงคู่นั้น เซียวยี่ฉิงตระหนักได้ว่าพี่เขยคนนี้ดูแตกต่างจากในวันวาน แต่พูดไม่ถูกว่าแตกต่างตรงไหน
“วันนี้เป็นวันสังสรรค์ของคนในครอบครัว พี่สาวฉันอยากให้นายกลับไป” เซียวยี่ฉิงมองหยางเทียนพลางพูด สิ้นเสียง ก็หมุนตัวเดินไป เธอไม่อยากพูดคุยกับหยางเทียนในตอนนี้มากนัก
