บท
ตั้งค่า

บทที่ 10 เหยาเอ๋อร์ต่อจากนี้พวกเราจะอยู่ด้วยกัน... [2/2]

บทที่ 10

เหยาเอ๋อร์ต่อจากนี้พวกเราจะอยู่ด้วยกัน... [2/2]

ยามรุ่งสางแสงแดดอ่อนสาดทาบพื้นลานหน้าบ้านสกุลฉู่ จ้าวหว่านชิงกุมมือเล็กของซูเหยาก้าวเดินเข้ามาด้านในลานบ้านตามที่ได้นัดหมายไว้

หากแต่ครั้งนี้…มิใช่เพื่อส่งตัวเด็กน้อย แต่เพื่อมาบอกพวกเราถึงความต้องการของนางเท่านั้น จ้าวหว่านชิงคิดว่าสกุลฉู่เดิมทีก็ไม่เคยใส่ใจซูเหยาตั้งแต่แรก หากนางบอกอีกฝ่ายว่าจะขอเลี้ยงดูซูเหยาด้วยตนเองพวกเขาคงไม่เป็นปัญหาอะไร

แต่ใครจะคิดว่าสิ่งที่นางคิดไว้ดันผิด...

“ไม่ได้!” หญิงชราผู้เป็นย่าของซูเหยาเอ่ยกระแทกเสียงแข็ง “ซูเหยาเป็นสายเลือดของสกุลฉู่ จะให้คนนอกเช่นเจ้ามาเลี้ยงดูได้อย่างไร”

ลูกสะใภ้ที่จัดเตรียมของสำหรับเดินทางเรียบร้อยแล้วได้ยินเสียงทะเลาะจึงรีบเดินเข้ามาสมทบ นางมองจ้าวหว่านชิงดวงตาเต็มไปด้วยความดูแคลน

“เจ้าบอกแล้วมิใช่หรือว่าจะส่งตัวซูเหยาไปเมืองหลวงกับพวกเรา เหตุใดกลับมาผิดคำพูดเช่นนี้!”

จ้าวหว่านชิงที่ได้เห็นสถานการณ์เกิดความคาดหมายของนางก็ขมวดคิ้วแน่น นางก้าวไปข้างหน้าพลางเอ่ยเสียงเรียบแต่แฝงความขมขื่น

“มิใช่ว่าพวกท่านเห็นซูเหยาเป็นภาระมาตลอดหรือเหตุใดวันนี้ถึงมาหวงแหนนางเล่า ข้าตัดสินใจแล้วว่าจะรับเลี้ยงซูเหยาเป็นบุตร พวกท่านก็ไปใช้ชีวิตสุขสบายที่เมืองหลวงเสียเถิด”

“หว่านชิงนี่เจ้าคงไม่ได้จะใช้ซูเหยารั้งน้องสามีให้อยู่กับเจ้าหรอกใช่ไหม พอรู้ว่าเขาได้ตำแหน่งขุนนางเจ้าก็เลยไม่อยากได้หนังสือหย่าแล้วใช่หรือไม่!”

คำพูดนั้นของลูกสะใภ้คนโตกลับกลายเป็นเชื้อไฟในใจของหญิงชรา ความโกรธพุ่งขึ้นเต็มอกหลงเข้าใจไปเองว่าจ้าวหว่านชิงคิดวางแผนรั้งตัวเด็กไว้เพื่อจะเกาะบุตรชายของนาง

“เจ้ามันจิ้งจอกเจ้าเล่ห์! คิดใช้เด็กเป็นตัวประกันอย่างนั้นหรือไร้ยางอายยิ่งนัก!” หญิงชราพูดจบก็พุ่งเข้ามาฉุดกระชากตัวซูเหยาที่กำลังยืนจับมือจ้าวหว่านชิงอยู่

“เหยาเอ๋อร์!”

จ้าวหว่านชิงรีบก้าวขวางพลางยื่นแขนโอบปกป้องร่างเล็กไว้เต็มกำลัง แต่ฝ่ายหญิงชราที่รู้ว่าไม่อาจแย่งเด็กหญิงมาได้ก็หันไปสั่งลูกสะใภ้คนโตที่ยืนอยู่ให้เข้ามาช่วย สุดท้ายแรงดึงรั้งสองทางทำให้เสียงร้องเจ็บปวดของซูเหยาดังก้องไปทั่วลาน

“เจ็บ...ข้าเจ็บ!”

ความชุลมุนวุ่นวายจากการแย่งตัวเด็กหญิงเกิดขึ้นที่ลานหน้าบ้าน เมื่อได้ยินเสียงร้องบ่งบอกถึงความเจ็บปวดหัวใจของจ้าวหว่านชิงแทบขาด หญิงสาวพยายามดึงตัวลูกกลับมาแต่เพราะกลัวซูเหยาจะบอบช้ำจึงไม่อาจออกแรงเต็มที่

“พวกท่านไม่ได้บอกเสมอหรือว่าไม่ต้องการซูเหยา หากพวกท่านไม่ต้องการก็ยกนางให้ข้าเถอะ ข้าสัญญาว่าจะเลี้ยงนางเหมือนกับบุตรแท้ ๆ ของตัวเอง”

“จ้าวหว่านชิง! เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร! ซูเหยาและเจ้าไม่ได้เป็นแม่แท้ ๆ ของนางด้วยซ้ำ ปล่อยมือจากหลานสาวของข้าเดี๋ยวนี้!”

หญิงชราตวาดลั่นน้ำเสียงสั่นสะท้านไปด้วยโทสะและความเกลียดชัง เมื่อเห็นว่าจ้าวหว่านชิงยังคงไม่ยอมปล่อยมือจากเด็กน้อยความอดทนที่มีอยู่เพียงน้อยนิดพลันขาดผึง นางสะบัดแขนขึ้นก่อนจะผลักอีกฝ่ายออกไปด้วยแรงทั้งหมดที่มี

ปึก!

ร่างของจ้าวหว่านชิงถูกผลักจนเสียหลักเซล้มไปด้านหลังจนกระแทกเข้ากับก้อนหินใหญ่ที่อยู่บนพื้นอย่างแรง ความปวดแปลบแล่นปราดไปทั่วร่างในพริบตาเลือดแดงสดทะลักออกจากขมับย้อมแก้มซีดขาวให้เปรอะเปื้อน

ดวงตาคมสวยเริ่มพร่าเลือนมองภาพตรงหน้าแปรเปลี่ยนเป็นเงาเลือนราง ร่างเล็กของซูเหยาที่กำลังดิ้นรนในอ้อมแขนของอดีตพี่สะใภ้ หว่านชิงพยายามฝืนร่างกายให้ลุกขึ้นแต่ทว่ากลับทำไม่ได้จึงทำได้เพียงมองซูเหยาที่พยายามเอื้อมมือมาหานาง ริมฝีปากสั่นระริกเอื้อนเอ่ยชื่อเด็กหญิงด้วยเสียงแผ่วพร่า

“เหยา…เอ๋อร์…”

ถ้อยคำสุดท้ายคล้ายสะท้อนความสิ้นหวังและอาลัยอาวรณ์ก่อนที่สติสัมปชัญญะทั้งหมดจะดับวูบลงราวกับถูกดึงเข้าสู่ห้วงมืดมิดไร้ที่สิ้นสุด…
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel