บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 ทำร้ายเธอให้ตาย

ในฤดูร้อน อากาศร้อนจนแทบทนไม่ไหว

สวี่อันอันปาดเหงื่อ แล้วเทซุปบีทรูทลงในขวดรักษาอุณหภูมิ เธอปิดฝาแล้วก็ออกจากบ้านไป แล้วเดินไปที่ทางโรงพยาบาลประชาชน

ขณะที่เดินไปถึงหน้าประตูคนไข้ ก็มีเสียงของแม่ลูกสองคนดังขึ้นมา

“คุณแม่ ทำไมหนูถึงเป็นโรคนี้คะ? ถ้าไม่มีไตบริจาคมาให้ หนูก็จะต้องตาย แล้วจะทำยังไงดีคะ?”

สวี่ฉาฉาถือผลการตรวจที่อยู่ถืออยู่ในมือ และสั่นไปทั้งตัว และร้องไห้ฟูมฟายจนไม่เป็นผู้เป็นคน

ฟางหงหลันก็กระวนกระวายใจขึ้น แล้วก็ปลอบใจเธอขึ้นว่า “พี่รองของแกเป็นถึงหมอ ให้เขาใส่ใจเพิ่มอีกนิด ต้องหาคนบริจาคได้ในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน”

“หนูกลัวว่าจะรอไม่ถึงเวลานั้นสิคะ แม่ หนูยังสาว ยังต้องเลี้ยงลูก หนู……” สวี่ฉาฉาพูดขึ้นแล้วก็นิ่งไป แต่เธอสื่อความหมายออกมาได้ชัดเจนเป็นอย่างมาก ว่าเธอไม่อยากตาย

ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้ทุกอย่างมาก ชีวิตดีๆของเธอยังเหลืออีกเยอะ จะมาตายเวลาแบบนี้ไม่ได้

ถึงแม้จะป่วยหนักถึงเพียงนี้ ยังคิดที่จะตอบแทนเธอ ยังดีกว่าลูกแท้ๆที่เธอคลอดมาเอง ฟางหงหลันรู้สึกเอ็นดูเธอเป็นอย่างมาก แล้วจู่ๆตาเธอก็ประกายขึ้น เหมือนคิดอะไรบางอย่างออกมา

“ใช่แล้ว สวี่อันอันเป็นโรคมะเร็งกระเพาะหรือเปล่า ไหนๆเธอก็จะตายอยู่แล้ว ให้เธอเอาไตออกมาบริจาค ถือว่ายังมีประโยชน์อยู่”

เป็นคำตอบที่สวี่ฉาฉานั้นอยากได้ แต่ก็ยังทำเหมือนกังวลและพูดขึ้นว่า “แต่ว่าเธอไม่ได้รับปาก พวกพี่ชายก็คงไม่กล้าไปพูด!”

ฟางหงหลันกุมมือของสวี่ฉาฉาแล้วพูดปลอบขึ้น “แกทำใจให้สบายในการผ่าตัด พวกพี่ชายแกต่างก็รักแก คงไม่ปฏิเสธหรอก ส่วนเรื่องของสวี่อันอัน แม่มีวิธีของแม่”

สวี่อันอันที่ยืนอยู่หน้าประตูเมื่อได้ยินบทสนทนาเหล่านั้น เหมือนทั้งตัวนั้นได้ตกลงไปอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง

เป็นเพราะเธอเป็นคนที่เข้ามาทีหลังสุด หลายปีมานี้ เธอพยายามทำตัวให้ทุกคนในบ้านนั้นรักเธอ เป็นทุกอย่างในบ้านตระกูลสวี่ ทำตัวอ่อนน้อมถ่อมตนตลอดเวลา แต่สิ่งที่เธอได้กลับมากลับกลายเป็นเช่นนี้หรือ

ตอนที่แธออายุ10ขวบ ตระกูลสวี่เพิ่งรู้ว่าเธอเป็นลูกคนร่ำรวยที่อุ้มผิดไป จึงไปรับเธอกลับมาจากบ้านนอก ดังนั้นทำให้ทุกคนต่างคิดว่าชีวิตที่ดีของเธอนั้นกำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว เธอก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน

แต่เป็นเพราะสภาพแวดล้อมที่ต่างกันมาก เธอปรับตัวเข้ากับคนบ้านนี้ได้ยากมาก สวี่อันอันจึงพยายามทำตัวให้ดี เพื่อทุกคนในบ้านจะได้ชอบเธอ ถึงแม้จะไม่ได้การยอมรับจากคนในบ้าน แต่เป็นเพราะนิสัยที่อ่อนน้อมของเธอ ทำให้เธอนั้นสามารถ “สนิทสนม” กับคนในบ้านได้

สวี่อันอันมีพี่ชายสี่คน ไม่เพียงแต่เป็นคนที่มีความสามารถโดดเด่น แต่ยังรักและเอ็นดูน้องสาวเป็นอย่างมาก แต่น้องสาวที่ถูกรักและเอ็นดูนั้นไม่ใช่น้องสาวแท้ๆเช่นเธอ แต่กลับเป็นน้องสาวที่ถูกอุ้มมาผิด สวี่ฉาฉา

ขอเพียงสวี่ฉาฉาร้องไห้ขึ้นมา ทุกคนในบ้านต่างก็จะเข้าไปโอ๋ ไม่ว่าจะเป็นความผิดของสวี่อันอันหรือไม่ ก็จะเข้ามาต่อว่าสวี่อันอันเป็นอันดับแรก ต้องให้เธอพูดคำว่าขอโทษ เมื่อสวี่ฉาฉาทำผิด ก็ยังเป็นความผิดทั้งหมดของสวี่อันอัน ไม่ว่าสวี่ฉาฉาจะหกล้มหรือชนอะไรเข้าให้ ก็จะเป็นความผิดของสวี่อันอันทั้งนั้น…… 

จนบางครั้งเธอยังคิดว่าสวี่ฉาฉานั้นเป็นลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลสวี่เสียอีก ส่วนเธอเป็นเพียงคนนอกเท่านั้น

ตระกูลสวี่ค้าขายร่ำรวยขึ้นในยุค90 ทำให้ฐานะทางครอบครัวนั้นอยู่ในระดับที่ดี แต่ตลาดที่เติบโตขึ้น ทำให้ตระกูลสวี่นั้นต้องพบเจอกับปัญหาเรื่องเงินทุนหมุนเวียน 

แต่สวี่อันอันทำงานหามรุ่งหามค่ำ จนสามารถแก้ปัญหาช่วงวิกฤตการเงินของครอบครัวได้ เพื่อจะให้ตระกูลสวี่นั้นยอมรับในตัวเธอ เธอทำงานจนป่วย แต่ไม่เพียงแต่จะได้รับความเห็นใจจากพวกเขา พวกเขายังจะเอาชีวิตเธออีก 

สวี่อันอันรู้สึกขำกับชีวิตตัวเอง เธอควรจะคิดได้ตั้งนานแล้ว ไม่ว่าหลายปีนี้เธอจะพยายามยังไง ก็ไม่ได้รับความเมตตาจากพวกเขา ไม่เคยได้รับแม้แต่เสี้ยวเดียว 

กระเพาะของเธอนั้นปวดขึ้นมา มือของสวี่อันอันนั้นสั่นขึ้นมา จนทำให้ขวดรักษาอุณหภูมิในมือนั้นตกลงบนพื้น ทำให้คู่แม่ลูกที่พูดคุยอยู่ข้างในนั้นตกใจขึ้นมา มีเสียงฝีเท้าเดินมาจากด้านใน สวี่อันอันรีบหันตัวจะหนีออกไป แต่เป็นเพราะความปวดนั้นเริ่มทวีความรุนแรง ทำให้เธอนั้นวิ่งได้ไม่เร็วนัก

ฟางหงหลันตามสวี่อันอันไปได้ทันตรงทางลงบันได เมื่อมองเห็นสภาพของสวี่อันอันที่เจ็บปวดอยู่นั้น แต่เธอกลับไม่ได้แยแสกับสิ่งที่เห็น ยังพูดจารุนแรงขึ้นอีก 

“อันอัน แกฟังแม่พูด ตัวแกเกิดมาเพียงคนเดียว ไม่มีพันธะอะไร แล้วยังมาเป็นมะเร็งกระเพาะอีก แต่ฉาฉาไม่เหมือนแก เธอมีครอบครัวมีลูก แกจะใจร้ายแบบนี้ไม่ได้ ที่เห็นคนจะตายโดยไม่ยื่นมือมาช่วย!”

สวี่อันอันยิ้มขึ้น ยิ้มด้วยน้ำตานองหน้า ใจเธอนั้นแหลกสลาย เพื่อลูกเลี้ยงแล้วมาสาปแช่งลูกสาวแท้ๆของตัวเอง แม้แต่หมอก็บอกแล้วว่าเธอตรวจเจอมะเร็งได้เร็ว ถ้าให้ความร่วมมือในการรักษา สามารถรักษาได้ไม่มีปัญหา แต่แม่ของเธอกลับพูดแต่จะให้เธอนั้นตายไปซะ

ใครกันแน่ที่ใจร้าย? สวี่ฉาฉาแย่งทุกสิ่งที่เป็นของเธอไป แย่งความรักที่พ่อแม่และพี่ชายทั้งสี่คนนั้นไป แล้วยังแย่งคู่หมั้นของเธอไปอีก และยังร่วมมือกับซูจิ่งเฉิงเพื่อแย่งหุ้นในมือของเธอไป ตอนนี้ไม่ละเว้นแม้แต่ชีวิตของเธอ

เมื่อเห็นสวี่อันอันไม่พูดอะไร ฟางหงหลันเดินขึ้นไปดึงมือของเธอ สวี่อันอันที่กำลังโมโหอยู่นั้นพยายามสะบัดหนี แต่คิดไม่ถึงตัวเธอที่ยืนไม่นิ่งนั้น จะกลิ้งตกลงบันไดนั้นลงไป

ทุกอย่างนั้นโครงเครงหมุนไปมา สวี่อันอันชนเข้าไปที่มุมกำแพง ปากกระอักเลือด แล้วเธอก็ค่อยๆสลบไป

ฟางหงหลันรีบวิ่งลงไป เธอตกใจจนหน้าซีดเซียว 

แต่ผ่านไปพริบตาเดียว คำพูดของฟางหงหลันที่พูดออกมา ทำให้ใจของสวี่อันอันนั้นเจ็บปวดมากกว่าร่างกายนั้น 

สายตาของหางหงหลันนั้นจริงจังขึ้นมา “ตกจากบันไดที่สูงขนาดนี้ คงไม่กระทบถึงไตมั้ง? กระอักเลือดออกมาเยอะขนาดนี้ ไม่น่าจะรอดแล้ว แบบนี้ก็ดี พี่สาวแกจะได้มีโอกาสหายซะที”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ตาของของสวี่อันอันนั้นลืมตาจ้องอยู่ จ้องไปที่ฟางหงหลัน ความเกลียดและความไม่พอใจที่อยู่ในใจ ถึงแม้เธอจะตายก็ตายแบบไม่ลืมตาไม่ลง

……

ขณะที่เธอลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง สวี่อันอันรู้สึกสะลึมสะลือ เธอต้องใช้เวลาสักพัก ถึงจะสามารถเปิดตาขึ้นมองภาพตรงหน้าได้ 

ภาพกากบาทสีแดงบนผนังสีเทาด่างนั้น ข้างเตียงมีโต๊ะที่ไม่ได้เก่ามากนั้นวางอยู่ กลิ่นของยาที่ฉุนนั้นลอยไปที่ปลายจมูกของเธอ ทำให้สมองของเธอที่เจ็บปวดอยู่แล้วนั้น ยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีก

เธอตายไปแล้วไม่ใช่หรือ? ทำไมมาอยู่ในโรงพยาบาลได้?

ประตูนั้นถูกผลักออกอย่างแรง ทำให้ฝุ่นที่เกาะอยู่กำแพงนั้นสะเทือนตกลงมา แล้วก็มีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งเดินเข้ามา

สวี่กั๋วจื้อเหลือบไปมองสวี่อันอัน แล้วก็เอ่ยปากถามขึ้น: “สวี่อันอัน ทำไมเธอถึงให้พวกอันธพาลพวกนั้นรังแกพี่สาวเธอ? เธอรู้ไหมทำแบบนี้อาจจะทำให้เธอตายได้!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel