บท
ตั้งค่า

บทที่ 25 ถูกตราหน้าว่าเป็นขโมย 1/3

เหวินเสียนได้ยินประโยคนี้ก็เดินมายืนขวางหลินหว่านเอาไว้ หยุนเหลียงเองก็ทำเช่นเดียวกับที่เหวินเสียนทำ แต่เป็นหลินหว่านที่บอกให้ทั้งสองคนหลีกทางไปเสีย ในเมื่อมีคนมาหาเรื่องถึงที่มีหรือคนที่ชอบต่อยตีอย่างหลินหว่าน จะไม่อยากสั่งสอนอันธพาลปากดีพวกนี้ให้ยอมสงบปากสงบคำเสียบ้าง ยามนี้ต้องยืดเส้นยืดสายเสียหน่อยมิเช่นนั้นจะลืมไปเสียหมด

“คิดจะใช้กำลังข่มขู่คนอย่างข้าด้วยงั้นสินะได้เลย ฮั้ยย่ะ!! ฮึบ ๆ ลองดูหน่อยก็ไม่เสียหายกระมัง คนไหนก่อนดีล่ะที่อยากสั่งสอนข้าเพื่อสูตรขนมนั่นเข้ามาให้ไว เข้ามาซะทีอย่าให้คนอย่างโจวหลินหว่านโมโหไปมากกว่านี้ ถ้ายังไม่อยากนอนหยอดน้ำข้าวต้มเล่น ๆ” หลินหว่านยกมือสองข้าตั้งการ์ดป้องกันตนเองรอแล้ว

“หึ อวดเก่งเสียด้วยน่าเสียดายที่ใบหน้างดงามเช่นนี้ จะต้องมีรอยนิ้วมือของข้าฝากไว้เป็นที่ระลึก กลายเป็นสตรีอัปลักษณ์คงไม่มีบุรุษกล้าแต่งเจ้าเข้าจวนแล้วล่ะ ฮ่า ๆ ๆ”

“มั่นใจถึงเพียงนั้นก็เข้ามาลองดูสักตั้งเถิด หึ”

“ปากดีนักนะนี่แหนะ ฟิ้วววว หมับ!! ปึก  ผัวะ!! ตุบ อั่ก แค่ก ๆ ๆ”

“พวกเจ้ายืนเฉยอยู่ทำไมเข้าไปช่วยกันจัดการนางสิ ไป๊!” เถ้าแก่เนี้ยจิ่วสั่งคนที่เหลือให้เข้าไปจัดการหลินหว่านอีกครั้ง

“ขอรับ!!”

“ย๊ากกก ฮะ ฮะ เฮ้ยยยย กร๊อบบบ!! อ๊ากกกกก ปึก ตุบ”

“กึก! อึก อะ เอ่อ.....”

“หืม จะหยุดอยู่ตรงนั้นไปทำไมเจ้านายสั่งให้เจ้าทำอะไร กล้าขัดคำสั่งของนางประเดี๋ยวก็ถูกไล่ออกจากงานหรอก สำหรับคนสุดท้ายเช่นเจ้าข้าจะพยายามเบามือให้ก็แล้วกัน”

“มะ มะ ผัวะ!! ปึก อ่ะ! ปึก ผัวะ!! อั่ก ตุบ”

“นี่ท่านป้าคิดว่าคนอย่างข้าจัดการได้ง่ายเช่นนั้นหรือ คิดว่าเป็นคนต่างแคว้นที่เพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่จะไม่มีพิษมีภัย หรือโต้ตอบกลับเพราะเกรงจะกลัวชื่อเสียงเสื่อมเสีย นั่นไม่ใช่นิสัยของคนเช่นข้าผู้นี้แน่ ร้ายมาร้ายกลับไม่โกง ในเมื่อท่านป้าลงมือหนักกับข้าก่อน จะมาโทษว่าข้าใจร้ายทีหลังไม่ได้เด็ดขาดคนของท่านต้องเจ็บตัว ก็เป็นเพราะท่านออกคำสั่งให้พวกเขาทำแทนตัวท่าน อยากได้สูตรขนมของข้ามากนักสิท่าถึงได้วางแผนมาทำเรื่องไร้สาระ แต่ขออภัยด้วยที่ชาวเมืองหยางหลิวมิใช่คนหูเบาไร้เหตุผล ท่านเองก็อยู่เมืองหยางหลิวมานานหลายปีแล้วนะ ควรรู้ว่าผู้คนเป็นเช่นไรมากกว่าคนที่มาใหม่เช่นข้าสิ เอาล่ะไหน ๆ วันนี้ก็มีเรื่องมาขัดระหว่างทำขนมจนหลายชิ้นไหม้เกรียม ไม่สามารถขายให้ลูกค้าทานได้อย่างแน่นอน

ท่านลุงท่านป้าท่านน้าท่านอาทั้งหลายที่อยู่ที่นี่และพวกท่านที่ต่อแถวอยู่ เพื่อรอซื้อขนมรอบสุดท้ายแต่ก็ต้องอดกินไปเสียอย่างนั้น ข้าโจวหลินหว่านขอรบกวนเวลาของพวกท่านสักเล็กน้อย ช่วยจับตัวคนพวกนี้ไปที่ศาลาว่าการด้วยเถิดเจ้าค่ะ เพราะข้าจะทำการฟ้องร้องท่านป้าผู้นี้กับท่านเจ้าเมืองเรียกร้องความเป็นธรรม ที่ถูกกล่าวหาว่าขโมยสูตรขนมของนางมาทำขายให้กับพวกท่าน และท่านน้าท่านอาทั้งสิบคนที่จ่ายเงินไว้แล้วกลับไม่ได้ขนมไป พวกท่านต้องได้รับค่าชดเชยด้วยเช่นกันเจ้าค่ะ” หลินหว่านอาศัยลูกค้าที่เข้าข้างตนเองและยังจ่ายเงินไว้ล่วงหน้าอีก เพื่อให้พวกเขาไปเป็นพยานเกี่ยวกับการค้าขายขนมในครั้งนี้ โดยหลินหว่านจะเรียกร้องค่าชดเชยให้ลูกค้าทั้งสิบคนด้วย

“ได้สิแม่ค้าพวกข้าไม่ยอมแน่เพราะนางกับคนพวกนั้น ทำให้ข้ากับคนอื่นอีกหลายคนอดกินขนมที่มีผักโรยหน้าวันแรก เป็นถึงเจ้าของร้านขนมของเมืองหยางหลิวแท้ ๆ แต่ทำตัวได้ไร้ยางอายหน้าด้านและน่ารังเกียจที่สุด”

“ต่อไปข้าจะไม่ให้คนในครอบครัวไปซื้อขนมที่ร้านของนางอีกแล้ว ไม่รู้ว่าในขนมแอบใส่อะไรให้คนติดใจต้องหาซื้อมาทานทั้งวัน แม่ค้าข้าจะไปกับเจ้าด้วยนะและจะร้องเรียนเรื่องขนมของนางเพิ่มอีกเรื่อง”

“เจ้าค่ะท่านน้า”

ส่วนคนที่คิดว่าตนเองควรทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากเจ้านาย คือการปกป้องแม่นางน้อยผู้มีร่างกายซูบผอมตรงหน้า แต่เขายังไม่ทันได้ทำเช่นนั้นก็ต้องพบกับภาพอันน่าตกตะลึง เพราะว่าหลินหว่านต่อยตีกับบุรุษอย่างไม่กลัวเกรง ที่สำคัญนางเอาชนะคนพวกนั้นเพียงลำพังอีกด้วยน่ะสิ

“อึก ทะ ทะ ท่านน้าหยุนเหลียงขอรับนั่นใช่คุณหนูโจวแน่นะขอรับ” เหวินเสียนที่ควรออกหน้าปกป้องหลินหว่าน ยังต้องตกตะลึงกับการต่อยตีบุรุษของสตรีรูปร่างบอบบาง แต่หมัดที่ปล่อยออกไปกลับเข้าจุดตายอย่างแม่นยำ

“เอ่อ นะ นะ น่าจะใช่นั่นแหละเหวินเสียนข้าก็ไม่รู้อะไรมากนัก เพราะถูกไล่ออกจากจวนตั้งแต่คุณหนูอายุได้สามหนาวเท่านั้น สิบกว่าปีในจวนที่ต้องเผชิญกับคนจิตใจชั่วร้าย อาจทำให้คุณหนูพยายามแข็งแกร่งเพื่อปกป้องตนเองก็เป็นได้นะ”

“ข้าอยากจะสับพวกมันเป็นชิ้น ๆ ยิ่งนักที่ทำให้คุณหนูต้องเป็นเช่นนี้” น่าซือที่อึ้งกับท่าทางการต่อสู้ของหลินหว่าน ยามนึกถึงสิ่งที่เจ้านายต้องพบเจอมานับสิบปี ก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมาอย่างโกรธแค้น

“ท่านอาพี่ชายเหวินเสียนเก็บของกันเจ้าค่ะ พวกเราจะไปจัดการปัญหาที่ศาลาว่าการเกี่ยวกับสูตรขนม มาดูกันสิว่าใครพูดความจริงใครกันที่โกหกปั้นน้ำเป็นตัว” หลินหว่านหันมาบอกกับทั้งสามคนด้านหลังถึงสิ่งที่ต้องทำหลังจากนี้

“ขอรับ/ขอรับ/เจ้าค่ะ”

เถ้าแก่เนี้ยจิ่วไม่คิดว่าเรื่องมันจะกลับตาลปัตรไปได้ ไหนลูกน้องของนางบอกว่าเด็กสาวคนนี้ดูไร้พิษสงมิใช่หรือ แล้วที่นางเห็นเต็มสองตาไปคืออันใดเด็กสาวตัวเล็ก ๆ แต่สามารถล้มบุรุษที่รูปร่างสูงใหญ่กว่าได้ในพริบตา นี่ใช่คนที่จะจัดการได้ง่ายเช่นนั้นหรือลูกน้องของนางเอาตาข้างไหนมอง ว่าเด็กสาวกับคนติดตามอ่อนแอจัดการได้ง่ายราวพลิกฝ่ามือ ตอนนี้กลับกลายเป็นว่านางกำลังถูกพาตัวไปศาลาว่าการ หากใต้เท้าเกาไต่สวนคนงานพวกนั้นขึ้นมาและยอมสารภาพ นางก็ต้องติดคุกกลายเป็นนักโทษกิจการจะถูกปิดโดยทางการเชียวนะ นี่นางเกิดความโลภบังตาจนทำลายอนาคตตนเองถึงเพียงนี้ได้อย่างไร แต่จะมาคิดได้ในตอนที่สายไปแล้วก็ไม่สามารถแก้ไขสิ่งใดได้ จำต้องก้มหน้ารับผลของการกระทำที่นางเป็นคนคิดขึ้นมาเองเท่านั้น

เมื่อเรื่องนี้ถูกบอกเล่าให้หวังซินหยางได้รับรู้ เขายิ่งสนใจในตัวของหลินหว่านเพิ่มมากกว่าเดิม เพราะไม่มีสตรีใดจะเหมือนนางได้อีกเป็นแน่แท้ ตัวหวังซินหยางเองยังไม่เคยเห็นสตรีหน้าไหนจะกล้าต่อยตีบุรุษ ท่ามกลางผู้คนมากมายในตลาดของเมืองขนาดใหญ่เช่นนี้มาก่อน คนเราจะมองเพียงผิวเผินไม่ได้จริง ๆ แต่สิ่งที่ทำให้หวังซินหยางอยากจะหายดีโดยเร็ว คงเป็นเรื่องที่คนของบิดาไปสืบประวัติของหลินหว่านมาให้กับตน เพราะสิ่งที่นางต้องพบเจอมันหนักหนาสาหัสสำหรับเด็กคนหนึ่ง หวังซินหยางพยายามควบคุมอารมณ์ตนเองไว้ เหลืออีกไม่กี่วันก็จะใช้แรงได้ปกติแล้วแม้จะยังใช้วรยุทธ์ไม่ได้ก็ตาม

“ตระกูลมู่งั้นรึรอข้าก่อนเถิดสิ่งที่พวกเจ้าทำกับนาง ข้าจะเอาคืนอย่างสาสมทั้งนายทั้งบ่าวอย่าได้คิดจะมีทางรอดไปได้”
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel