บทที่ 17 สามีภรรยาอยู่ด้วยกัน
เธอพูดอะไร......?!
เธออยู่เพื่อตนเหรอ?! จริงเหรอ?!
ใบหน้าหล่อตึงเครียดของเขาแดงเล็กน้อย
เซวียหลิงมีนิสัยอารมณ์ร้อน เห็นเขาไม่ตอบ ความโกรธก็พุ่งขึ้นสูงอย่างช่วยไม่ได้ คำพูดก็หลุดออกมาจากหัวเช่นกัน
"นายมันสมองทึ่ม! ช่วงนี้ฉันแสดงออกไม่ชัดเจนมากพอหรือไง? ชวนนายมาเช่าด้วยกัน ทำไมนายยังไม่เข้าใจความคิดฉันอีกฮะ?! คืนแต่งงานเคยพูดอะไร นายลืมไปให้หมด! ฉันชอบนาย! ฉันอยากอยู่ใช้ชีวิตดีๆ กับนายต่อ! ตลอดชีวิต!"
หน้าเฉิงเทียนหยวนยิ่งแดง แม้แต่หูก็แดง
เขาเติบโตมาจากชนบท ความคิดไม่ได้ก้าวหน้าขนาดนั้น คำพูดสารภาพที่ชัดเจนแบบนี้ เขาพูดไม่ออกเลย
ไม่รู้ทำไม ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้เป็นคนพูด แต่เขากลับอายมาก หัวใจเต้นแรง เหมือนทั้งเซอร์ไพรส์และดีใจ ยังตอบสนองไม่ได้!
เซวียหลิงเห็นเขาก้มหน้าอยู่นานมากไม่พูดไม่จา ก็รอจนค่อนข้างร้อนใจ หน้าแดงเดินเข้าไปหา แล้วกระทุ้งแขนเขา
"เฮ้! นายพูดอะไรหน่อยสิ! มีปฏิกิริยาหน่อย!"
ท้ายเสียงยากที่จะซ่อนความออดอ้อน แถมมีความหยอกล้อด้วย
เฉิงเทียนหยวนกระแอมไอเบาๆ อย่างผิดธรรมชาติ เคลียร์ลำคอ
"......นอนไวๆ นะ พรุ่งนี้เช้าต้องย้ายเข้าแล้ว"
เซวียหลิงทำเสียง "ฮะ?" กระทืบเท้าร้อนใจเล็กน้อย แล้วกอดแขนเขาอย่างกระวนกระวาย
"แล้วนายล่ะ?! สรุปนายจะเช่าร่วมกันกับฉันไหม? ฉัน----ถ้านายไม่ไปอยู่ด้วย งั้นฉันอยู่คนเดียวจะมีความหมายอะไร!"
เฉิงเทียนหยวนผลุบตาลงครึ่งหนึ่ง มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย
"เช่าร่วมอะไรกัน......สามีภรรยาก็ควรอยู่ด้วยกันสิ"
น้ำเสียงเขายังคงแผ่วเบาและน่าดึงดูดเล็กน้อย ตอนนี้น้ำเสียงดังขึ้น มีความร่าเริงอย่างเห็นได้ชัด
เซวียหลิงจ้องมองอย่างประหลาดใจ แล้วก็หัวเราะคิกๆ ดีใจ ปล่อยแขนเขา
"นายช่วยฉันเก็บของหน่อย ฉันต้องทำงานแปลอีกนิด"
เฉิงเทียนหยวนพยักหน้า จงใจเมินเฉยรอยยิ้มบนใบหน้าเธอ ช่วยเธอจัดกระเป๋าเดินทาง
อยู่มาหลายวัน เดิมทีนึกว่าของไม่น้อย ต้องเก็บสักพักหนึ่ง แต่เหนือความคาดหมายคือเธอใช้ของแล้วเก็บเข้าที่ นอกจากเสื้อผ้าที่ซักแล้วเปลี่ยนที่ระเบียงหนึ่งชุด ก็ไม่ต้องเก็บอะไรเลย
เขาตรวจสอบภายในและภายนอก พบว่าไม่มีของอื่นๆ แล้ว
เห็นเธอยังคงตั้งใจอ่านและเขียนใต้แสงไฟ เขาก็ไม่เปล่งเสียงรบกวน นั่งโซฟาไม้ เหม่อมองแผ่นหลังบอบบางอ่อนช้อยของเธอ......
ดึกสงัดแล้ว เซวียหลิงหาวหนึ่งที เงยหน้ามองนาฬิกาเรือนเล็กบนผนัง พบว่าห้าทุ่มแล้ว
เธอบิดขี้เกียจ นึกขึ้นได้ทันทีว่าเฉิงเทียนหยวนยังอยู่ด้านหลัง จึงรีบหันตัวไปมอง
แค่เห็นเขาพิงโซฟาไม้ หลับไปตอนไหนไม่รู้ คิ้วหนาผ่อนคลาย ใบหน้าหล่อหันด้านข้าง มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ดูเหมือนอารมณ์ดีมาก
เซวียหลิงก้าวเท้าเดินไปหา หยิบผ้าห่มผืนบางด้านข้างมาช่วยห่มให้เขาเบาๆ
ช่วงไม่กี่วันนี้ เขาต้องไปทำงาน ต้องทำงานพาร์ทไทม์ ตอนเที่ยงและช่วงเย็นต้องช่วยเธอหาบ้านอีก ทั้งเหนื่อยและยุ่ง แต่เขาไม่เคยบ่นเลยสักคำ
นึกถึงประโยค "สามีภรรยาก็ควรอยู่ด้วยกันสิ" ที่เขาพูดก่อนหน้านี้ เธอก็เม้มปากแอบยิ้มอย่างอดไม่ได้
ชีวิตใหม่ อนาคตใหม่ ในที่สุดก็จะเริ่มต้นขึ้นแล้ว......
เช้าวันต่อมา เซวียหลิงก็เช็คเอาท์กับเถ้าแก่เนี้ยของโรงแรม
เฉิงเทียนหยวนรีบไปยืมรถจักรยาน ผูกกระเป๋าเดินทางไว้หลังรถ ให้เซวียหลิงนั่งข้างหน้า จากนั้นก็ขี่ไปทางถนนซงหมิง
ทั้งสองใกล้ชิดกันมาก ลมเย็นๆ ตอนเช้าพัดมา เส้นผมเซวียหลิงปลิวไสว มันสัมผัสใบหน้าเขาด้วยเล็กน้อย
เฉิงเทียนหยวนไม่ได้ปัดออก ถีบจักรยานไปข้างหน้าต่อ
เซวียหลิงหันใบหน้าสวย ถามด้วยรอยยิ้ม "พี่หยวน หนักมากไหมอ่า?"
เฉิงเทียนหยวนส่ายหน้าตอบ "ไม่หนัก"
เซวียหลิงหัวเราะคิกๆ แล้วพูดเสียงทุ้ม "ฉันคิดว่าช่วงนี้ฉันเหมือนอ้วนขึ้นเยอะ นายรู้สึกไหม?"
เฉิงเทียนหยวนหูแดงเล็กน้อย เสียงทุ้มต่ำโดยไม่รู้ตัว "......ไม่อ้วน ผอมอยู่นะ ทุกมื้อเธอกินน้อยมากเลย ต้องกินเยอะๆ หน่อย"
เซวียหลิงเบ้ปากพึมพำ "งั้นต่อไปถ้าฉันอ้วน นายห้ามรังเกียจฉันนะ!"
เฉิงเทียนหยวนรู้สึกเขินอายนิดหน่อย โครงหน้าหล่อเย็นชาผ่อนคลายโดยไม่รู้ตัว
"......ไม่มีทางหรอก"
เซวียหลิงยิ้มคิกคักมีชัย
เช้าตรู่ฤดูใบไม้ร่วงค่อนข้างเย็น แต่พัดโดนร่างกายไม่หนาว พระอาทิตย์สาดส่องร่างทั้งคู่ ชายหล่อ หญิงสวย เสียงหัวเราะเปี่ยมล้ม เหมือนภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังอันงดงาม
มาถึงถนนซงหมิงแล้ว พบว่าหญิงชรากำลังทำความสะอาดในบ้าน
หญิงชรายิ้มแล้วรับเงินขนาดต่างๆ กองหนึ่งมาจากมือเซวียหลิง แล้วรีบนับ
เฉิงเทียนหยวนนำกระเป๋าเดินทางขึ้นไปชั้นสอง จากนั้นก็รีบลงมา
"เราไปทำงานก่อนนะครับ เลิกงานแล้วค่อยมาจัดของ"
หญิงชรารับเงินไป ในใจกำลังมีความสุข ทักทายอย่างเป็นมิตร "ไม่เป็นไร! พวกเธอไปทำงานเถอะ ฉันจะช่วยพวกเธอทำความสะอาดเอง ไปเถอะๆ!"
เซวียหลิงมองนาฬิกาบนข้อมือ พบว่าอีกครึ่งชั่วโมงกว่าเข้างาน จึงให้เฉิงเทียนหยวนไปก่อน
"ฉันจัดของแป๊บหนึ่ง เดี๋ยวค่อยเดินไปสำนักพิมพ์ เดินเร็วหน่อย แค่สิบนาทีกว่าก็ถึงแล้ว"
เฉิงเทียนหยวนพยักหน้า หลังจากเดินได้สองก้าว ก็ถอยกลับมาอีกครั้ง จับข้อมือเซวียหลิงเอาไว้แล้วพาเธอไปที่มุมห้อง
เซวียหลิงจ้องมือใหญ่สีแทนเห็นข้อต่อชัดเจนของเขา รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย จู่ๆ หัวใจก็เต้นแรง
"......ทำไมเหรอ?"
เฉิงเทียนหยวนเหลือบมองข้างนอกอย่างกลัวๆ แล้วพูดเสียงทุ้มด้วยความระมัดระวัง "เราเพิ่งย้ายมาที่นี่ ยังไม่คุ้นเคยกับคุณป้า ถ้าต้องเอากระเป๋าเดินทางเธอไว้ที่นี่ ข้างในอย่าใส่ของมีค่า พยายามเอาติดตัวไปด้วย"
เซวียหลิงรีบพยักหน้า "โอเค แล้วแต่คุณ"
เรื่องนี้เธอไม่ได้คิดมาก พอเขาเตือนขึ้นมาแบบนี้ ก็ระวังหน่อยดีกว่า
ออกมาอยู่ข้างนอก ต้องระมัดระวังรอบคอบถึงจะเหมาะสม
เฉิงเทียนหยวนขี่จักรยานออกไปแล้ว เซวียหลิงเปิดหน้าต่างชั้นสองให้อากาศปลอดโปร่ง แล้วดึงผ้าม่านลงมา หลังจากทำความสะอาดครึ่งชั่วโมง ก็รีบไปบอกหญิงชรา จากนั้นก็ไปทำงาน
เมื่อมาถึงสำนักพิมพ์ ก็แปดโมงพอดี
ผอ.หลิวพาทุกคนไปประชุมสั้นๆ บอกว่าพรุ่งนี้เป็นวันอาทิตย์ ให้ทุกคนทำต้นฉบับให้เสร็จก่อนบ่ายสามโมง สี่โมงต้องส่งไปพิมพ์ที่โรงพิมพ์
คอลัมน์เรียนรู้ภาษาอังกฤษของเซวียหลิงมีแค่ส่วนเล็กๆ เมื่อวานเธอทำเสร็จหมดแล้ว หลังจากตรวจเช็คสองรอบ ก็ส่งไปที่หัวหน้ากองบรรณาธิการ
หวังชิงกับหลิวซินมองเธอด้วยความอิจฉา พูดเสียงทุ้ม "คุณได้ลาเพิ่มอีกครึ่งวัน ดีจัง!"
เซวียหลิงเลิกคิ้ว ถามอย่างสงสัย "ลาเพิ่มครึ่งวันอะไรเหรอ? พรุ่งนี้วันอาทิตย์นะ!"
ทำงานวันจันทร์ถึงวันเสาร์ วันอาทิตย์หยุดพักผ่อนหนึ่งวัน ทุกเทศกาลวันหยุดก็ได้หยุด วันอื่นๆ ตัดสินตามสถานการณ์เฉพาะเจาะจงของสำนักพิมพ์
หวังชิงอธิบาย "วันเสาร์บ่ายก็หยุดได้ แค่ต้องทำงานให้เสร็จก่อนล่วงหน้า หัวหน้ากองบรรณาธิการกับผอ.ถึงจะอนุมัติ คุณจะไปตอนไหนก็ได้ ถ้าต้นฉบับคุณไม่มีปัญหา คุณกินข้าวเที่ยงเสร็จก็ไปได้เลย!"
เซวียหลิงนึกถึงบ้านเช่าที่ยังสกปรก มีของใช้ประจำวันมากมายยังไม่ได้ซื้อ จึงรีบเดินไปหาหัวหน้ากองบรรณาธิการ
"บ.ก.ใหญ่หลิน ต้นฉบับฉันไม่มีปัญหาใช่ไหมคะ?"