บท
ตั้งค่า

บทที่ 7 เพื่อนใหม่

บทที่ 7

เพื่อนใหม่

“ฉินหรู เจ้ามีคนรักหรือไม่”

พอพ่อบ้านเซวียสั่งทุกคนให้แยกย้ายแล้วกลับไปทำงาน เสี่ยวจินที่เป็นหญิงรับใช้ของคุณชายรองก็เดินเข้ามาประกบข้างๆ ฉินหรู ถามประโยคนั้น

คงเพราะอายุใกล้เคียงกัน ฝ่ายนั้นจึงพูดกับนางด้วยท่าทีสนิทสนม

เมื่อถูกถามฉินหรูแกล้งทำเป็นเอียงอาย ก่อนจะตอบเสียงเบา

“จริงๆ แล้วข้าแต่งงานมีลูกแล้วน่ะ”

“จริงหรือ!” เสี่ยวจินยกมือปิดปาก เบิกตากว้างอย่างสุดจะเชื่อ

สตรีพอเข้าสู่วัยปักปิ่น(อายุ15) ส่วนใหญ่ก็ออกเรือนกันแล้ว หรืออย่างน้อยๆ ก็ต้องมีคนรู้ใจสักคนสองคน ปีนี้เสี่ยวจินอายุ 19 หากกลับไม่เคยมีคนรู้ใจสักคน ขืนเป็นแบบนี้ ในอนาคตต้องขึ้นคานแน่ๆ

“จริงสิ แล้วเจ้าอายุเท่าไร”

คราวนี้คนถามคือบ่าวจากเรือนใหญ่ หากจำไม่ผิด ผู้หญิงคนนี้ชื่อว่าไป๋เหิง ตอนแรกยังทำทีเป็นไม่สนใจฉินหรู แต่พอได้ยินที่นางคุยกับเสี่ยวจิน ไป๋เหิงก็ทำหูผึ่ง ทั้งยังเดินเข้ามาถาม

“ปีนี้ข้าอายุ 18 เจ้าค่ะพี่ไป๋เหิง” ฉินหรูตอบด้วยน้ำเสียงให้ความเคารพผู้ใหญ่

ไป๋เหิงได้ยินแบบนั้นก็แสดงสีหน้าสนใจออกมา หญิงสาวอายุยังน้อย แต่หาสามีได้เร็วขนาดนี้ น่าอิจฉาเสียจริง

ไป๋เหิงปีนี้อายุ 21 นานมาแล้วเคยมีคนรักเป็นเพื่อนสมัยเด็กที่อยู่บ้านนอก แต่หลังจากเข้ามาทำงานเป็นสาวใช้ในบ้านเซวีย เพื่อนสมัยเด็กคนนั้นก็แต่งงานกับหญิงสาวในหมู่บ้านเดียวกัน มารู้ภายหลัง ผู้ชายคนนั้นแอบคบซ้อน คิดแล้วก็รู้สึกโมโหขึ้นมา

หลังจากนั้นไม่นาน ไป๋เหิงก็มีความรักใหม่ เลยทำให้นางตัดใจจากเพื่อนสมัยเด็กได้

ย้อนกลับมาเรื่องของฉินหรู ไป๋เหิงรู้สึกว่าเรื่องราวของนางก็น่าสนใจไม่น้อย จึงถามออกไปว่า “ข้าอยากฟังเรื่องของเจ้า เจ้ากับสามีรู้จักกันได้อย่างไรหรือ”

ได้ยินคำถามฉินหรูก็ทำหน้าลำบากใจทันที “เรื่องนั้น…”

“เล่ามาเถอะน่า อย่าอายไปเลย พวกเราแค่อยากรู้ว่าคนที่แต่งงานตอนอายุน้อยๆ รู้สึกยังไง อีกไม่ถึงปีข้าก็จะยี่สิบแล้ว ยังหาคนรู้ใจไม่ได้สักคน น่าสมเพชกว่าอีก”

ยิ่งพูดเสี่ยวจินยิ่งรู้สึกว่าตนน่าสงสาร ชาตินี้จะหาสามีได้หรือเปล่ายังไม่รู้

ฉินหรูเปิดปากส่งเสียง เอ่อ เหมือนลังเล

จังหวะนั้น หัวหน้าพ่อครัวจงเฮยชะโงกหน้าออกมาจากห้องครัว ส่งเสียงตะโกนเรียกฉินหรู

“ฉินหรู เจ้ารีบมาที่ครัวเร็วๆ เข้า พวกเราต้องรีบเตรียมอาหารเช้ากันแล้ว”

เสี่ยวจินกับไป๋ที่ถูกขัดจังหวะถอนหายใจเฮือกใหญ่ พร้อมทำหน้ารู้สึกเสียดาย

ฉินหรูยิ้มให้กับพี่สาวทั้งสอง ก่อนจะบอกว่าเอาไว้ตอนที่ว่างค่อยคุยกันใหม่ เสี่ยวจินกับไป๋เหิงถึงยอมพยักหน้า จากนั้นก็ผลักให้นางรีบๆ ไปที่ครัว เพราะเดี๋ยวพ่อครัวใหญ่จะบ่นเอา

“หัวหน้าพ่อครัวค่อนข้างอารมณ์ร้อน พูดจาโผงผาง แต่จริงๆ แล้วใจดีมาก เจ้าอย่าเข้าใจเขาผิดล่ะ” ไป๋เหิงเตือน

“ขอบคุณพี่ไป๋เหิง” ฉินหรูตอบรับความปรารถนาดีของอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มสดใส แล้ววิ่งเข้าครัวไป

ทำงานร่วมกับหัวหน้าพ่อครัวเพียงครึ่งวัน ฉินหรูค้นพบสาเหตุว่าทำไมฮูหยินผู้เฒ่าถึงบ่นว่าจงเฮยทำอาหารไม่อร่อย

เขาคนนี้ชอบกินเนื้อจึงถนัดปรุงอาหารประเภทเนื้อ ในขณะเดียวกัน กลับมีความเชื่อฝังหัวว่า อาหารที่ไม่ใส่เนื้อจะต้องรสจืด และต้องใช้เครื่องแบบอาหารเจเท่านั้น

ก่อนหน้านี้หัวหน้าพ่อครัวได้รับคำแนะนำมาจากพ่อบ้านใหญ่ ให้ปรุงเต้าหู้รสชาติเข้มข้น แต่ด้วยความที่ชินมือ อาหารของหัวหน้าพ่อครัวยังคงจืดสนิท ไม่ถูกปากฮูหยินผู้เฒ่า

สรุปง่ายๆ หัวหน้าพ่อครัวไม่ถนัดทำอาหารประเภทที่ไม่ใช้เนื้อ

จู่ๆ จะให้เปลี่ยนรูปแบบการปรุงอาหารย่อมต้องใช้เวลา เหตุนี้หน้าที่ทำอาหารขึ้นโต๊ะให้กับฮูหยินผู้เฒ่าเซวียจึงเป็นของฉินหรู

เช้านี้นางทำเต้าหู้นึ่งราดซีอิ๊วน้ำมันงา ผัดคะน้าเผ็ดหอม รากบัวผัดพริกและซุปผัก อาหารเรียบง่าย แต่รสชาติเข้มข้นกลมกล่อม

ฮูหยินผู้เฒ่ากินกับข้าวของฉินหรูจนหมดจาน ทั้งยังชมเปราะว่าอร่อย!

ก่อนเที่ยง งานในครัวของฉินหรูก็จัดการเสร็จเรียบร้อย นางจึงมีเวลาออกมาพักเร็วกว่าบ่าวคนอื่นๆ

ระหว่างนั่งพักใต้ต้นไม้หลังคฤหาสน์ ไป๋เหิงก็เดินออกมาพักเหมือนกัน

“พี่ไป๋เหิง มานั่งตรงนี้เร็ว”

ฉินหรูกวักมือเรียก บนใบหน้าเต็มไปรอยยิ้ม

ไป๋เหิงเดินเข้ามานั่งลงบนเก้าอี้ตัวข้างๆ จากนั้นก็เท้าคางถอนหายใจดัง “เฮ้อ!”

“งานในเรือนใหญ่หนักมากเลยหรือ”

ไป๋เหิงทำงานในเรือนใหญ่ งานคงหนักไม่น้อย

ทว่าไป๋เหิงกลับสั่นศีรษะ “ไม่ได้หนักมากขนาดนั้นหรอก ข้าแค่กลุ้มใจ”

“เรื่องอะไรหรือ”

ในเมื่ออีกฝ่ายยอมเปิดประเด็น ฉินหรูไม่ถามต่อคงไม่ได้

อีกอย่าง ไป๋เหิงแสดงท่าทีกลุ้มใจอย่างเห็นได้ชัด ซ้ำยังต่อหน้าคนที่เพิ่งรู้จักอย่างนาง ไป๋เหิงคงอึดอัดและอยากระบายความในใจให้ใครสักคนฟังจริงๆ

ไป๋เหิงยกมือทั้งสองข้างขึ้นค้ำคาง ก่อนจะพูดด้วยสีหน้าอมทุกข์ “ข่าวของคุณชายใหญ่จนป่านนี้ก็ยังไม่มีอะไรส่งกลับมาเลย ข้า...กลัวจัง”

“ข้าได้ยินมาจากพ่อบ้านเซวียมาแล้ว คุณชายใหญ่ของพวกท่านถูกเกณฑ์เข้าสนามรบใช่หรือไม่”

ไป๋เหิงพยักหน้า “อืม”

ฉินหรูเงียบอยู่สักครู่ แล้วพูดต่อ “พี่ไป๋เหิง แม้ไม่มีข่าวของคุณชายใหญ่ส่งกลับมา แต่ใช่ว่าจะเกิดเรื่องร้ายๆ กับเขาเสียหน่อย ท่านอย่าคิดมากสิ”

ในยุคที่สงครามแผ่ขยายเป็นวงกว้าง ฮ่องเต้มีราชโองการให้แต่ละบ้านส่งผู้ชายเข้าสู่สนามรบ สกุลเซวียแม้เป็นถึงนายอำเภอ แต่ก็ไม่มีการยกเว้น

ตามจริงแล้ว คนที่ต้องออกไปรับใช้ชาติคือคุณชายรอง เนื่องจากคุณชายรองเป็นคนหัวอ่อน ไม่เอาไหน อนาคตของสกุลเซวียจึงฝากฝังไว้กับคุณชายใหญ่

หากกระนั้น คุณชายใหญ่ผู้มากความสามารถ กลับอาสาออกไปรบแทนน้องชาย โดยให้เหตุผลว่า หากน้องรองเข้าสนามรบคงไม่รอดกลับมา แต่ถ้าเป็นตนโอกาสรอดจะมีมากกว่า

นายอำเภอเซวียไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่อยากสูญเสียลูกชาย ไม่ว่าจะเป็นคนไหนก็ตาม

ครุ่นคิดอยู่หลายวันในที่สุดนายอำเภอเซวียก็ยอมให้ลูกชายคนโตออกรบ

เท่าที่ฟังมา ฉินหรูรู้สึกซาบซึ้งกับครอบครัวเซวียมาก ไม่เหมือนกับบ้านเสิ่น ตั้งแต่มีราชโองการออกมา เกรงว่าลูกศรแห่งความตายก็ชี้มาที่เสิ่นหยางแล้ว

สำคัญที่สุด!

การที่สาวใช้คนหนึ่งเป็นหวงคุณชายออกหน้าออกตาขนาดนี้ ย่อมมีเหตุผลเดียว ไป๋เหิงมีใจให้กบคุณชายใหญ่อย่างแน่นอน

“เฮ้อ…!” คราวนี้ไป๋เหิงถอนหายใจดังกว่าเดิม

“พี่ไป๋เหิง” ฉินหรูส่งเสียงปลอบ

“คำว่าอย่าคิดมากของเจ้าทำข้าหงุดหงิดชะมัด เจ้ายังดีท่ีมีสามีกับลูกรออยู่ที่บ้าน ส่วนข้าได้แต่แอบฟังข่าวของคุณชายใหญ่ไปวันๆ” ไป๋เหิงเว้นช่วง สักพักก็บ่นใส่ตัวเอง “แม้ว่าเขาจะกลับมาแล้ว ข้าก็ทำได้เพียงแอบดูจากที่ไกลๆ แล้วข้าจะพาลโมโหใส่เจ้าทำไมเนี่ย”

“ที่พี่ไป๋เหิงโมโหเพราะท่านชอบคุณชายใหญ่หรอกหรือ” ฉินหรูถามออกไปตรงๆ

ไป๋เหิงไม่คิดปิดบังจึงส่งเสียงตอบอืมเบาๆ

ในบ้านเซวียไม่มีบ่าวคนไหนไม่รู้ว่านางแอบชอบคุณชายใหญ่ นางจึงยอมรับความจริงอย่างง่ายดาย

“พี่ไป๋เหิง ที่ข้าบอกว่าอย่าคิดมาก ไม่ใช่เพื่อปลอบใจท่านอย่างขอไปทีหรอกเจ้าค่ะ” ฉินหรูบอก

ไป๋เหิงได้ยินแบบนั้นก็เปลี่ยนสีหน้าจากไม่พอใจเป็นอ่อนโยน “เมื่อกี้ข้าพาลไปหน่อยขอโทษด้วย”

“ข้าเข้าใจ เพราะสามีข้าก็ถูกเกณฑ์เข้าสนามรบเหมือนกัน”

“เจ้าพูดจริงรึ!?” ไป๋เหิงประหลาดใจมาก ฮ่องเต้มีราชโองการเกณฑ์คนเข้าสู่สนามรบ หากก็มีข้อยกเว้นอยู่

ฉินหรูผงกศีรษะขึ้นลง “ข้าจะโกหกท่านทำไม แต่ท่านยังดี คุณชายใหญ่ยังส่งข่าวกลับมาเป็นพักๆ ข้านี่สิ กลับไม่รู้สถานการณ์ของสามีเลยสักอย่างเดียว”

“ทำไมหรือ?”

ฉินหรูตีหน้าเศร้าเล่าความจริง “บ้านสามี...ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่า ‘อดีตบ้านสามี’ พวกเขาจงใจปิดบังข้าน่ะ”
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel