1 เราเลิกกันเถอะ
1
เราเลิกกันเถอะ
เรื่องราวก่อนที่เดมี่จะตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองเพราะความรักที่แสนเจ็บปวดสำหรับเธอ
วาโยเดินเข้ามาหาเดมี่ที่โรงอาหารภายในโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่ง ทั้งสองคบหากันเป็นเวลาสามเดือน วาโยเป็นหนุ่มที่มีสาวๆ นักเรียนภายในโรงเรียนกรี๊ดกร๊าดแอบปลื้มเขาอยู่มากมายเพราะเขาเป็นทั้งประธานนักเรียนแล้วยังเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลของโรงเรียนอีกด้วยทำให้ใครๆ ก็อยากเป็นแฟนของเขากันทั้งนั้นแต่คนที่โชคดีในตอนนี้เป็นเดมี่แต่ด้วยความเอาแต่ใจของเธอทำให้ไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็ไม่สามารถทนกับนิสัยของเธอได้เลยสักคนเช่นเดียวกับวาโย
“โยกินข้าวเที่ยงกัน” เดมี่ที่คิดว่าวาโยจะมากินข้าวเที่ยงกับเธออย่างที่เขาทำทุกวันเธอเห็นเขาจึงรีบเรียกเขาทันที
“โยยังไม่หิว เดมี่เราเลิกกันเถอะ” วาโยพูดจบก็ยื่นแหวนที่ทั้งสองเคยทำร่วมกันเป็นแหวนคู่รักคืนให้กับเธอ
“นี่โยพูดเรื่องอะไร เดมี่ไม่เข้าใจ” เดมี่ที่ได้ยินคำว่าเลิกเธอก็ไม่อยากเข้าใจมันเพราะหลายครั้งที่เธอโดนผู้ชายบอกเลิกอย่างนี้
“ทำไมไม่เข้าใจเดมี่ นี่แหวนเอาคืนไป โยคิดว่าเราสองคนคบกันต่อไม่ได้แล้วเพราะโยเหนื่อยที่ต้องคอยง้อเอาใจเดมี่อย่างนี้ทุกวัน โยเบื่อ” วาโยพูดจบก็วางแหวนตรงหน้าของเธอ นักเรียนที่อยู่ในโรงอาหารต่างมองมาที่เธอเป็นสายตาเดียวกัน
“ไม่นะโย โยจะทำอย่างนี้ไม่ได้นะ” เดมี่ตัวชาไปทั้งตัวเธอพยายามดึงแขนของเขาไว้ให้เขาเดินไปจากเธอแต่เขาก็ไม่ฟังอะไรเธออีกต่อไป มีนักเรียนหญิงหลายคนที่สะใจที่เธอโดนทิ้งอย่างนี้ เพราะเดมี่เป็นคนที่หยิ่งๆ ทำให้นักเรียนหญิงหมั่นไส้เธอ
วาโยเดินไปจากตรงนั้นโดยที่เขาไม่แม้จะหันมามองเธอด้วยซ้ำ “ไม่เป็นอะไรนะเดมี่ ฉันจะอยู่ข้างๆ เธอเองนะ” ต้นหอม เพื่อนสนิทของเธอที่มีแค่คนเดียวที่ทนนิสัยเอาแต่ใจของเธอได้
“ต้นหอม ฮือๆ ๆ ฉันโดนทิ้งอีกแล้ว ทำไมผู้ชายต้องใจร้ายกับฉันทุกคนอย่างนี้ด้วย” เดมี่ร้องไห้ออกมาพร้อมกับกอดเพื่อนของเธอ
หลังจากที่เธอถูกวาโยบอกเลิกเธอก็ไม่มาโรงเรียนทั้งสัปดาห์ เมื่อเธอมาโรงเรียนอีกครั้งก็เห็นเพื่อนที่เธอรักที่สุดกำลังนั่งคุยกันจู๋จี๋อยู่กับวาโย “นี่มันเรื่องอะไรกัน”
“ต้นหอมทำไมเธอมานั่งอยู่ตรงนี้ทำไมเธอ”
“ไม่ต้องถามมากหรอกเดมี่ ก็พี่วาโยเขาขอฉันเป็นแฟน” ต้นหอมที่เธอรู้จักเปลี่ยนไปอย่างกับเป็นคนละคน
“นี่มันเรื่องอะไรกันพวกเธอสองคนหักหลังฉัน แทงข้างหลังฉันอย่างนี้ได้ยังไง” เดมี่พูดออกมาทั้งน้ำตาที่เห็นคนที่เธอรักทั้งสองคนทำเรื่องอย่างกับเธอได้ลงคอ
“แทงข้างหลังยังไงฉันไม่ได้แย่งพี่วาโยจากเธอเลยนะเพื่อนแต่พี่เขามาขอฉันเป็นแฟนหลังจากที่บอกเลิกเธอต่างหาก” ต้นหอมพูดออกมายิ่งตอกย้ำความเสียใจ ความเจ็บทั้งหลายให้วิ่งมาที่หัวใจของเธอ
“ต้นหอมทำไมเธอเป็นคนอย่างนี้” เดมี่พูดเสียงพร้อมกับเดินไปหาต้นหอมเพื่อที่จะตบไปที่หน้าของเธอด้วยความโกรธแต่วาโยเดินมาจับที่ข้อมือของเธอไว้แน่น
“อย่าแตะต้องต้นหอมอย่าหาว่าฉันไม่เตือน” วาโยพูดพลางมองเธอด้วยสายตาที่เย็นชามากๆ เธอไม่อยากเชื่อเลยว่านี่คือเรื่องจริงเธอเจ็บไปทั้งหัวใจในตอนนี้จนน้ำตาของเธอไหลออกมาอาบทั้งสองแก้มของเธอ
“ฉันจะบอกอะไรให้ก็ได้นะเดมี่ นิสัยอย่างเธอไม่มีผู้ชายคนไหนอยากคบด้วยหรอกนะ” ต้นหอมพูดจบก็เดินไปจับมือของวาโยเดินไปจากตรงนั้น เมื่อหลายวันก่อนที่วาโยบอกเลิกเธอต้นหอมยังอยู่ข้างๆ เธอปลอบใจเธอแต่มาวันนี้กลับเป็นเธอเองที่ขยี้หัวใจของเธอให้เจ็บยิ่งกว่าวันนั้นเสียอีก
เดมี่ไม่เข้าเรียนเธอกลับมาที่บ้านเข้าห้องปิดประตูแน่น เธอนอนร้องไห้อย่างหนักอีกครั้ง การถูกบอกเลิกจากผู้ชายที่เธอรักว่าเจ็บแล้วแต่เพื่อนของเธอมาคบกับแฟนเก่าของเธอทั้งๆ ที่เพิ่งเลิกกันกับเธอ หัวใจของเธอมันรับไม่ไหวจริงๆ เดมี่เสียใจหนักมากจนเธอไม่อยากมีชีวิตต่ออีกต่อไปเธอไม่อยากไปโรงเรียนแล้วต้องมาเจอสองคนรักกันให้เธอเห็น เดมี่เดินไปหยิบยามาหนึ่งกระปุกแล้วเธอก็ค่อยๆ กินจนมันหมดกระปุกเพื่อหวังว่าจะทำให้เธอหลับไปช้าๆ แล้วก็ไม่ต้องมารับรู้เรื่องราวที่แสนเจ็บปวดนี้อีก ตอนนี้ภายในบ้านของเธอไม่มีใครอยู่เลยเพราะพ่อกับแม่ของเธอเดินทางไปต่างประเทศเพราะตอนนี้คุณย่าของเธอกำลังไม่สบายพ่อกับแม่จึงต้องไปเยี่ยมท่าน ทำให้เธอต้องอยู่บ้านกับแม่บ้านและตอนนี้แม่บ้านก็ออกไปข้างนอก
เดมี่ค่อยๆ หลับไปช้าๆ หัวใจของเธอเต้นช้าลงเรื่อยๆ จนชีพจรไม่เหลืออีกต่อไป แล้วเธอก็หลับไปในที่สุด ชีวิตของเธอมืดและดับสนิท เหลือแค่ร่างกายที่ไม่มีลมหายใจเท่านั้น ต่อจากนี้ไปความเจ็บที่เธอมีคงหายไปจากเธอชั่วนิรันดร์รวมไปถึงชีวิตของเธอด้วยเช่นกัน จิตวิญญาณของเธอล่องลอยไปตามทางที่เธอควรไปหลังจากที่ออกจากร่างกาย
