ตอนที่ 5
ทันทีที่เท้าบอบบางเหยียบเข้ามาในห้องโถง เสียงไม่พอใจของคุณปู่ก็ดังกังวานขึ้น นาบุญชะงักเท้า ใบหน้างามเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
“นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นหรือยายนิ่ม ทำไมมีรูปแกยืนจูบกับผู้ชายต่างชาติที่สนามบินแบบนี้”
คำพูดของคุณปู่ทำให้นาบุญรีบหันไปจ้องมองจอแอลอีดีขนาดมหึมา แล้วก็ต้องอ้าปากค้าง เมื่อข่าวทุกช่องต่างพร้อมใจกันลงรูปที่หล่อนจูบปากกับสเตฟาโนที่สนามบินอย่างพร้อมเพรียงกัน ทั้งๆ ที่เวลาพึ่งผ่านมาได้แค่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ความจริงข่าวมันน่าจะมาในวันพรุ่งนี้ไม่ใช่หรือ แต่ก็อย่างว่าล่ะนะ สเตฟาโน เมเนนเดซเป็นคนดังนี่ ข่าวมันก็ต้องเร็วแบบนี้แหละ
“คือนิ่ม...”
“มันเป็นใคร?”
เสียงของคุณปู่ดุดันจนผู้เป็นหลานสาวสะดุ้งโหยง นาบุญสูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อรวบรวมความกล้า ก่อนจะละสายตาจากจอทีวีไปเผชิญหน้ากับคุณปู่วัยชราของตัวเองแทน
“สามีของนิ่มค่ะ”
“อะไรนะ? สามี? นี่แก...ยายนิ่ม...”
จากที่ยืนๆ อยู่ท่านเนาว์ก็ทรุดฮวบลงกับโซฟาด้วยความตกใจอย่างรุนแรง เบิกตากว้างมองหลานสาวด้วยความผิดหวังยิ่งนัก
“เพราะอย่างนี้ใช่ไหมแกถึงลาออกจากมหาวิทยาลัย”
นาบุญส่ายหน้าน้อยๆ เข้าไปประคองคุณปู่ แต่ท่านก็สะบัดตัวหนีอย่างแง่งอน
“ไม่ต้องมาแตะต้องตัวฉัน ฉันไม่มีหลานใจแตกแบบแกยายนิ่ม!”
“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะคะคุณปู่”
“อย่ามาแก้ตัวซะให้ยากเลยยายนิ่ม ในเมื่อภาพมันฟ้องออกขนาดนี้ แล้วนี่ฉันจะเอาหน้าไปมุดอยู่ตรงส่วนไหนของโลกได้เนี่ย ทำไมแกถึงทำให้ฉันต้องอับอายขายหน้าเอาตอนใกล้จะเข้าโลงแบบนี้ด้วย นังหลานไม่รักดี”
น้ำเสียงของชายชราเต็มไปด้วยความผิดหวัง นาบุญถอนใจออกมาแรงๆ วางมือบางของตัวเองบนแขนเหี่ยวๆ ของคุณปู่ก่อนจะเริ่มอธิบาย
“ก็คุณปู่เคยบอกกับนิ่มว่าหากนิ่มหาผู้ชายที่มีคุณสมบัติเทียบเท่ากับคนที่คุณปู่หาเอาไว้ได้ คุณปู่จะยกเลิกการแต่งงานให้นิ่ม แล้วนี่นิ่มก็หาได้แล้วนะคะ เขารวยมาก หล่อมาก หรือจะพูดง่ายๆ ก็คือเพอร์เฟ็กต์ทุกอย่าง”
“แต่ฉันไม่ได้ต้องการให้แกไปนอนกับมันก่อนพิธีวิวาห์สักหน่อยยายนิ่ม แกทำเกินไปแล้ว” ไม่ว่านาบุญจะหยิบยกแม่น้ำสายไหนขึ้นมาอ้าง แต่ท่านเนาว์ก็ยังไม่ยอมหายโมโหอยู่ดี
“ก็ถ้านิ่มไม่ทำแบบนี้ เขาจะยอมแต่งงานกับนิ่มหรือคะ”
“ฮ้า! นี่แกใช้วิธีนี้จับผู้ชายอย่างนั้นหรือยายนิ่ม ใครสั่งใครสอนแกกันนะ”
ชายชราแทบเป็นลมกับคำพูดของหลานสาว ยิ่งฟังเขาก็แทบจะสิ้นชีวา ไม่รู้ว่านาบุญใช้อะไรคิดก่อนที่จะทำเรื่องแบบนี้ลงไป
“แล้วไอ้ผู้ชายคนนั้นมันเป็นใคร ปู่รู้จักไหม” ในที่สุดท่านเนาว์ก็อดถามออกมาไม่ได้
“สเตฟาโน เมเนนเดซค่ะ”
นาบุญตอบเสียงราบเรียบ แต่คนฟังกลับไม่ได้รู้สึกเรียบๆ เหมือนกับคนพูดเลยแม้แต่น้อย เพราะตอนนี้ดวงตาของท่านเนาว์เบิกกว้างเท่าไข่ห่าน แถมปากแห้งๆ ก็ยังอ้าค้างไว้ด้วยอารามตกใจสุดชีพซะงั้น
“สเตฟาโน เมเนนเดซ นักธุรกิจชาวกรีกใช่ไหม”
“ก็มีอยู่คนเดียวนั่นแหละค่ะ ว่าแต่คุณปู่ยินดีให้นิ่มแต่งงานกับเขาไหมล่ะคะ” แกล้งถามเพราะพอจะทราบได้จากท่าทางของคุณปู่แล้วว่าท่านน่ะชื่นชมและดีใจแค่ไหนที่กำลังจะได้ดองกับเมเนนเดซ แต่หล่อนอยากจะบอกท่านเหลือเกินว่ามันแค่ชั่วคราวเท่านั้นเอง
“ใครกล้าปฏิเสธหลานเขยแสนเพอร์เฟ็กต์อย่างสเตฟาโน เมเนนเดซก็ต้องไปไถ่นาแทนควายแล้วล่ะ”
นาบุญระบายยิ้มกว้าง ทุกอย่างที่คาดหวังเอาไว้มันกำลังจะเป็นความจริง
“งั้นก็แสดงว่าไม่มีอะไรขัดข้องแล้วนะคะคุณปู่”
“ปู่ไม่ขัดข้องหรอก กลับดีใจด้วยซ้ำ ว่าแต่คุณสเตฟาโนยอมแต่งกับแกแน่นะยายนิ่ม ไม่ใช่มาทึกทักเอาเองล่ะ”
สาวน้อยหน้าแดงก่ำเพราะคุณปู่พูดได้แทงใจดำชะมัด นี่ถ้าท่านรู้ว่าความจริงแล้วหล่อนเป็นคนวางแผนทั้งหมดละก็ สงสัยช็อกตาตั้งตายกันพอดี
“ก็เห็นในข่าวแล้วนี่คะ ยังไม่มั่นใจอีกหรือไงคุณปู่”
“ก็มันเหลือเชื่อนี่ ผู้หญิงสวยๆ ชาติตระกูลดีๆ ต่อแถวให้เลือกเป็นร้อยเป็นพันคน แต่เขากลับมาเลือกแก ใครไม่แปลกใจก็บ้าเต็มที่แล้วยายนิ่ม” ไม่ว่ายังไงท่านเนาว์ก็ยังไม่อยากจะเชื่อคำพูดของหลานสาวอยู่ดี แม้จะมีภาพข่าวจากทีวีทุกช่องเป็นเครื่องยืนยันก็ตาม
“นิ่มมันแย่นักหรือคะคุณปู่” ถามเสียงขึ้นจมูก พร้อมๆ กับลุกขึ้นยืน
ท่านเนาว์ส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดออกมา
“แกไม่ได้แย่อะไรหรอกยายนิ่ม แต่สเตฟาโน เมเนนเดซสูงเกินไปสำหรับคนเดินดินแบบแกต่างหากล่ะ”
“นิ่มไม่สนหรอกนะว่าใครจะคิดยังไง แต่นิ่มจะเป็นเจ้าสาวของผู้ชายที่ชื่อสเตฟาโน เมเนนเดซในเร็วๆ นี้”
หญิงสาวเชิดหน้าสูงด้วยความไม่พอใจ จากนั้นก็ไม่คิดจะทนฟังคำสบประมาทใดๆ จากคุณปู่อีก นาบุญรีบสาวเท้าหนีขึ้นห้องนอนของตัวเองไปอย่างรวดเร็ว หมกตัวอยู่บนเตียง ใช้สมองคิดหาทางรับมือกับเสือร้ายอย่างสเตฟาโนในยกต่อไปอย่างขะมักเขม้น