พันธนาการปริศนา (100%)
“เรียบร้อยแล้ว”
“อ้าวเหรอ งั้นก็แล้วไป”
ธีรเดชตั้งท่าจะเดินจากมาเสียดื้อๆ หากว่าสมองอันชาญฉลาดจะไม่คิดอะไรบางอย่างขึ้นได้เสียก่อน ร่างสูงสง่าแถมยังดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า ถึงแม้เสื้อผ้าจะมีสภาพยับย่น หันกลับไปหาเพื่อน แล้วเอ่ยบอก
“ให้คนของมึงเอายาคุมฉุกเฉินไปให้ผู้หญิงคนนั้นกินด้วย”
“นี่กูหูฝาดไปหรือเปล่า คนอย่างคุณชายธีรเดชเนี่ยนะ จะพลาดไม่ป้องกัน” พลชจ้องหน้าเพื่อนซี้ราวกับเห็นผี เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายระมัดระวังเรื่องนี้มากเสียยิ่งกว่าอะไร
“ถุงยางหมด”
ธีรเดชยังคงมาดนิ่งๆ ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมาทางสีหน้า และไอ้การที่เอาแต่ทำเหมือนไม่แยแสต่อสิ่งใดจนน่าหมั่นไส้ ก็ทำให้คนฟังอดตอกใส่หน้าไม่ได้
“แล้วมึงก็เสือกแตกใน”
“เปล่า กูหลั่งข้างนอก”
คำตอบหนักแน่นชัดเจน นอกจากคืนที่ได้กับอารญาที่วังรื่นฤดีแล้ว เขาก็ไม่เคยสดกับใครหน้าไหนทั้งนั้น เขาไม่เคยหลั่งข้างในตัวผู้หญิงคนไหน แถมยังใส่ถุงยางป้องกันเป็นอย่างดีทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ฤทธิ์ยาปลุกเซ็กส์ผสมน้ำเมาทำให้เขาขาดสติจริงๆ ทว่ายังดีที่ยั้งตัวได้ทันไม่เผลอปล่อยข้างใน
“แน่ใจ?”
“ก็เออสิวะ” คราวนี้ธีรเดชกระแทกเสียงใส่ อารมณ์กรุ่นๆ ที่ปรากฏในดวงตาแค่แวบเดียว ทำให้คนมองรู้ทันว่าอีกฝ่ายกำลังหงุดหงิดงุ่นง่านกับความช่างเสือกของเขา
“ถ้าไม่ได้พลาด แล้วทำไมมึงต้องให้เขากินยาคุมฉุกเฉิน”
“อย่าสงสัยมาก เอายาคุมฉุกเฉินไปให้เขากิน แล้วก็กำชับว่าให้เขากินให้ครบ เพราะน่าจะยังใหม่อยู่”
ธีรเดชไม่ได้หลั่งข้างในกายสาวก็จริง แต่คิดเผื่อในกรณีที่ฝ่ายหญิงอาจเล่นตุกติก เขาไม่อยากจะต้องมาปวดหัวในภายหลัง ฉะนั้นกันไว้ย่อมดีกว่าแก้
“ยังใหม่?”
“คิดว่างั้น แต่ไม่เห็นหน้า”
พลชเข้าใจเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ชอบเปิดไฟเวลามีอะไรกับผู้หญิงอย่างว่า เสร็จกิจจ่ายเงินแล้วก็ทางใครทางมัน นั่นคือวิถีที่ธีรเดชปฏิบัติมาแต่ไหนแต่ไร เพื่อขจัดความยุ่งยากที่อาจจะตามมา
“ส่วนค่าแรงเขาวางอยู่บนโต๊ะทำงาน แปลกนะ…ห้องนั้นไม่มีเตียง แต่มีโต๊ะทำงาน”
ท้ายประโยคธีรเดชเปรยขึ้นอย่างอดที่จะสงสัยไม่ได้ ตอนเสร็จกิจเขาเดินฝ่าความมืดมาเปิดประตูจะออกไปจากห้อง แต่นึกขึ้นได้เสียก่อนว่ายังไม่จ่ายค่าตอบแทนให้ผู้หญิงคนนั้น จึงย้อนเอาเงินไปวางไว้ที่โต๊ะทำงาน ที่รู้ว่าเป็นโต๊ะทำงานเพราะมีแสงสลัวจากด้านอกลอดเข้ามาตรงช่องประตูที่แง้มไว้ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจจะหันไปมองหน้าผู้หญิงคนนั้น การไม่มองหน้า ไม่ให้ความสำคัญ ก็เท่ากับว่าอีกฝ่ายจะไม่มีสิทธิ์มาสร้างความยุ่งยากให้เขาในภายหลัง
“โต๊ะทำงาน?”
“อือ…มีโน้ตบุ๊คด้วย จัดซะได้บรรยากาศเลขากับเจ้านาย”
วาจาในตอนท้ายทำให้คนฟังหูผึ่ง ตาเหลือก
“เฮ้ย! เดี๋ยวนะ! เมื่อกี้มึงเข้าห้องไหน”
“ก็ห้องติดกับห้องทำงานมึง ที่เคยให้กุญแจไว้ไง ผู้จัดการร้านบอกให้กูไปที่นั่น” หลังจากถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เพราะรำคาญที่ถูกซักไซ้ ธีรเดชก็เอ่ยตอบอย่างเสียไม่ได้
“เวรแล้วไหมล่ะ!”
คราวนี้พลชหลุดสบถออกมา สีหน้ามีแววตกตะลึง และร้อนใจอย่างเห็นได้ชัด และนั่นก็ทำให้คุณชายหมอหรี่ตามองหน้าอีกฝ่าย พร้อมเอ่ยถาม
“อะไรของมึง”
“มึงยังไปไหนไม่ได้ไอ้คุณชาย มานี่เลย…”
เจ้าของผับไม่ตอบ แต่คว้าหมับเข้าที่ข้อมือแกร่ง แล้วตั้งท่าจะลากอีกฝ่ายขึ้นไปยังชั้นสองของผับ หากว่าเสียงโทรศัพท์ของธีรเดชจะไม่ดังขึ้นเสียก่อน เขาล้วงกระเป๋ากางเกงเอามือถือออกมาดู แล้วปรากฏว่าเป็นเบอร์ฉุกเฉินของโรงพยาบาลรักษ์ จึงยกมือขึ้นบอกเพื่อนเป็นเชิงว่าอย่าเพิ่ง ก่อนจะกดรับสาย
“ครับ ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้”
หลังจากคนโทรมาร่ายยาว เขาก็เอ่ยรับคำสั้นๆ จากนั้นก็บอกพลช
“มึงมีอะไรก็ค่อยคุยกันวันหลัง ตอนนี้กูต้องรีบไปโรง’บาลด่วน พอดีเกิดอุบัติเหตุใหญ่ รถสิบล้อชนกับรถพ่วง มีคนบาดเจ็บอาการสาหัสหลายราย…ไปนะ”
ขาดคำแพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉินมือหนึ่งของโรงพยาบาลรักษ์ก็ปลดมือเพื่อนออกจากแขนตัวเอง แล้วรีบเดินแกมวิ่งไปยังประตูทางออกของผับ
“เดี๋ยวสิวะ ไอ้คุณชาย! ปัดโธ่โว้ย!”
คนที่ถูกทิ้งไว้กับปัญหาน่าปวดหัวตะโกนเรียกตามหลัง แต่อีกฝ่ายไม่แม้แต่จะหัน แถมยังก้าวเท้าเร็วกว่าเดิมไปอีก ก็รู้อยู่หรอกว่าเพื่อนของเขามันเป็นหมอที่ยุ่งฉิบหาย แต่เรื่องที่มันก่อไว้ก็ใช่ว่าจะยุ่งน้อยเสียเมื่อไหร่
แล้วเขาจะจัดการต่อยังไงดีวะเนี่ย?
พลชยกมือขึ้นเกาหัวแกร็กๆ ทำหน้ายุ่ง เพราะคิดไม่ตก รู้แต่ว่าตนจะต้องรีบนำยาคุมฉุกเฉินไปให้คนที่นอนอยู่ข้างๆ ห้องทำงานกินให้เร็วที่สุด ส่วนเรื่องความเสียหายที่เกิดขึ้น เขาจะรับผิดชอบทุกอย่าง หากเธออยากให้เพื่อนของเขารับผิดชอบเขาก็จะเป็นธุระให้ ทว่าพอวิ่งขึ้นไปดูทั้งห้องกลับว่างเปล่า ไม่มีแม้เงาของสาวน้อยที่ตกเป็นเหยื่อ เธอไปแล้ว แถมยังไม่เอาเงินที่เพื่อนของเขาทิ้งไว้ให้เป็นค่าตอบแทนเสียด้วย