ตอนที่ 1 เมขลา
“เมขลานี่จะออกไปไหนอีกเนี้ย”
เสียงที่เบรกเราจนหัวทิ่มเรียกชื่อเต็มๆแบบนี้หัวร้อนมาแน่ๆ และคนที่เรียกเราก็ เขาคือแม่เราเองแหละ ให้ตายเหอะ อุตส่าจะหนีออกมาเงียบดันรู้แผนเราได้ไงเนี้ย
“หนูจะออกไปข้างนอก แม่มีอะไรป่าว”
“แกจะออกไปไหนอีก เพิ่งกลับมาไม่ใช่รึไง”
“หนูก็มีธุระของหนูบ้างป่าว นี่หนู 25 แล้วนะแม่ไม่ใช่เด็กๆแล้ว”
“เหรอ แล้วไอ้ 25 ของแกเนี้ย แกหางานทำได้รึยังมิทราบ”
จุกแปบ นี่แม่จะต้องจี้ใจดำเราทุกครั้งที่เจอหน้ากันเลยรึไง อยากจะถอนหายใจแล้วลอยออกไปนอกโลกให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลย ก็ใช่ซิเราไม่ใช่ลูกคนโปรดนี่นะ
“คุณนายอาทิตย์คะ คือหนูกำลังหาอยู่ค่ะ เพียงแต่มันยังไม่ถูกใจหนูก็เท่านั้นเอง จะย้ำอะไรบ่อยๆอ่ะ”
“งั้นแกก็ไปดูแลโรงแรมลุงพุธของแกซิ ลุงแกไม่มีลูกแกก็รู้ ไหนจะป้าตาที่เขาอยากจะได้แกไปเป็นลูกอีก หรือถ้าแกไม่พอใจ โน่น ป้ากันยาแกโน่น ตอนนี้เขามีโรงแรมใหญ่โตที่เกาหลี แกก็ไปช่วยเขาซิ หรือถ้าไม่พอใจอีก ก็โรงแรมที่หัวหินเลย เห็นมั้ยธุรกิจตระกูลมีเยอะแยะแกจะทำตัวว่างเร่ร่อนไปเร่ร่อนมาเหมือนผีไม่มีศาลทำไม”
“หนูไม่ไป หนูขี้เกียจ แล้วเอาจริงๆนะแม่ ถึงหนูจะไม่ทำงานหนูก็มีกินไปตลอดชาติแล้ว”
“นี่แกใช่ลูกฉันมั้ยเนี้ย”
“ใช่ซิ ก็ดูหน้าดิถอดแบบกันมาเป๊ะ นิสัยก็เป๊ะ หนูว่าไม่คุยกับแม่ละ หนูนัดเพื่อนไว้”
เผ่นก่อนดีกว่าขืนอยู่ต่อมีหวังได้เทศนากันยาวแน่ๆ
“หยุดเลยนะเมขลา แกจะหนีไม่ได้ วันนี้พวกพี่ๆแกเขาจะมานะ” ก็เพราะเรารู้ไงว่าคนพวกนั้นจะมาเราถึงต้องหนีแบบนี้
“แม่ก็ต้อนรับพวกเขาเองละกัน พี่รามก็อยู่ หรือถ้าไม่พอก็ไปขนพี่พาลีมาด้วย หรือถ้าไม่พออีก ก็ไปขอร้องพี่ตะวันกับพี่ร้ายมาช่วยต้อนรับแห่เข้าบ้านก็ได้นะ”
“แกพูดอะไรของแก เมื่อไหร่จะพยายามเลี่ยงที่จะเจอพวกพี่ๆเขาซะที”
“ ใครเลี่ยง ไม่มี แค่ไม่อยากเจอเฉยๆ ไม่คุยแล้วแม่หนูรีบ”
เรารีบวิ่งไปขึ้นรถและขับออกมาเลย เฮ้อออให้ตายเหอะ กว่าจะหนีออกมาได้แต่ละครั้ง เหนื่อยชะมัด
ที่จริงวันนี้เราไม่นัดกับใครหรือมีธุระที่ไหนหรอกเพียงแต่ไม่อยากอยู่บ้านก็เท่านั้นก็ไม่อยากเจอคนพวกนั้นนี่นา งั้น ชอปปิ้งให้มันกระจายไปเลยละกันนะ ถึงแม้เราจะไม่ได้ทำงาน แต่เงินในบัญชีคือมีไม่อั้น ใช้ไปจนตายมันก็ไม่หมดแบบนี้อยู่บ้านเฉยๆยังได้เหมือนที่เราบอกคุณนายอาทิตย์นั่นแหละ
เราเลือกซื้อของ ดูหนัง เดินเที่ยวไปเรื่อย จนผ่านไป 3 ทุ่มเราถึงตัดสินใจกลับบ้าน เพราะดึกป่านนี้พวกนั้นคงจะกลับกันไปหมดแล้วหละ
“ตายแล้วคุณหนู ชุดอะไรคะเนี้ย” นมอวบ แม่นมที่ดูแลเรากับพี่รามมาตั้งแต่เล็กๆเข้ามาจับเราหมุนซ้ายหมุนขวาใหญ่เลย ตกใจอะไรขนาดนั้นเนี้ย
“นมจะตกใจอะไรก็แค่เดรสสีแดงสั้นเปิดหลัง ถึงกับจะเป็นลมเลย เหรอ แก่แล้วนะเนี้ย”
“ใช่ค่ะ นมนะแก่แล้ว แต่คุณหนูของนมนี่ซิแก่แดดอะไรขนาดนี้คะ ชุดพวกนี้มันไม่สวยเลยค่ะ”
“สวยจะตาย นมไม่เข้าใจเองต่างหาก ไม่คุยกับนมละหนูง่วงมาก หนูจะไปอาบน้ำนอนแล้ว ว่าแต่พวกนั้นกลับไปกันหมดแล้วใช่มั้ยนม รักนมที่สุดมาจูบที”
“อะ!!! คุณหนู”
เราดึงนมเข้ามาหอมแก้ม 1 ที นี่แหละ รักพอๆกับคุณนายอาทิตย์เลย ก็เพราะนมเลี้ยงเรามาเองกับมือไง แล้วเราก็เดินลั้นลาเข้ามาในบ้านทันที ว่าแต่พรุ่งนี้จะนัดใครออกไปเที่ยวดีนะ ยายเปรม หรือ ยายดา ดีละ โอ้ย เพื่อนเยอะแยะไปหมด
“อ้าวเม กลับมาแล้วเหรอ”
เบรกหัวทิ่มอีกแล้วเรา ทำไมเสียงนี้มันคุ้นจัง คุณนายอาทิตย์ยังไม่ไปไหนอีกเหรอ เราหันไปมองยังต้นเสียง โอ้โหชัดเจนเลย อยู่กันครบไม่ขาดกันซักคน อุตส่ามาดึกแล้วนะ
“เม มานี่ก่อนซิลูกพวกพี่ๆเขารอเจอหนูอยู่นะ”ป๊าเชิญชวนเราด้วยน้ำเสียงที่นิ่มนวล รู้เลยพูดแบบนี้ต้องการอะไร
“ไม่ว่างค่ะป๊า หนูจะนอน หนูง่วง”
“ไอ้เม แกอย่ามากวนแม่กับป๊า มานี่เลย นม ลากลูกนมมาซิคะ”
แม่หันไปใช้นมอีก แล้วถ้านมต้องออกแรงลากเราจริงๆมีเหรอว่านมจะชนะ เดี๋ยวนมก็เจ็บอีก เราเลยจำใจต้องถูกนมจับมานั่งที่โต๊ะที่ตอนนี้มีพวกปลิงแปลกหน้านั่งกันเต็มไปหมด
“ไม่เจอกัน นานโตขึ้นเยอะเลยนะ น้องเม” เสียงที่ทักเราขึ้นนี้ไม่ใช่ใคร ก็แค่พี่ชายต่างพ่อต่างแม่ หรือเรียกอีกอย่างคือไม่มีอะไรเกี่ยวดองกันเลย ก็แค่คนที่พ่อกับแม่รับเลี้ยงก็เท่านั้น ส่วนชื่อนะเหรอ ชื่อนาย ทะเล
“ก็ไม่ได้อยากเจอเท่าไหร่เลยนะ”
“ไอ้เม พูดกับพี่ทะเลเขาแบบนั้นได้ยังไง”
“หนูก็พูดแบบนี้อยู่แล้วมั้ยอ่ะคุณนายอาทิตย์”
“พอๆเลย แกไม่กวนประสาทแม่ซักวันได้มะ วันนี้พี่ๆเขามากันครบ เผื่อแกจะลืมไปเพราะไม่เจอกันเลยตั้ง 5 ปี นี่พี่ทะเล ส่วนนั่นก็พี่ทิวฟ้า ส่วนโน่นก็พี่พายุ และนั่นก็พี่ น้ำวารี จำได้เนอะลูก แค่ 5 ปีเอง” ป๊าลูบหัวเราเบาๆ ป๊าจะอ่อนโยนกับเราเสมอ แต่วันนี้เราไม่อินกับความอ่อนโยนของป๊าเลย
“ป๊าไม่ต้องแนะนำอะไรให้หนูรู้มากหรอก เพราะหนูอยากจะลืมมากกว่านะป๊า ไม่ได้อยากจำเลย”
ทุกอย่างอยู่ในความเงียบทันที ป๊ากับแม่ก็แสดงสีหน้าหนักใจที่เราพูดแบบนี้ แต่เราก็พูดความจริงนะ เราพยายามลืมคนพวกนี้ออกไปจากชีวิตจริงๆ
ทุกอย่างแม่งเงียบกริ๊บเลย เออดีจะได้รู้ตัวกันซะบ้าง ว่าไม่ควรโผล่มาที่นี่อีก
“ว่าแต่ ชุดอะไรของเราเนี้ยเม”
พี่รามเริ่มบทสนทนาอีกครั้งเพื่อทำลายบรรยากาศอันแสนเลวร้ายนี้ แต่ก็นั่นแหละ คนที่เข้าสังคมไม่เก่งแล้วก็ชอบทำหน้าโหดอย่างพี่รามนะเหรอจะสร้างบรรยากาศดีๆได้ เลวร้ายกว่าเดิมละไม่ว่า
“พี่รามไม่เข้าใจหนูหรอก ชุดเนี้ย 2 แสน นะจะบอกให้”
“ใช้เงินแบบนี้ป๊าแกผลิตเงินเองรึไงฮะ”แม่เริ่มบ่นเราอีกละ นี่ตกลงจะบ่นกันตั้งแต่สาวยันแก่เลยรึไงก็ไม่รู้
“ก็เงินป๊ากับแม่หาให้พวกหนูใช้ปะหนูก็ต้องใช้เพราะมันเป็นสิทธิของหนู ทีคนอื่นป๊ากับแม่ยังให้กินใช้เลี้ยงมาจนโตกันได้เลย ตั้ง 4 คน” พูดไปสายตาเราก็มองเหยียดใส่พวกปลิงหน้าเลือดพวกนั้นไปด้วย
“พอเลยไอ้เม แกนี่มันต้องประชดประชันพวกพี่ๆเขาตลอดซิน่า รู้จักโตได้แล้ว ไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ”
“ก็เพราะโตแล้วไงคะ หนูถึงกล้าพูด”
“พอแล้วเม อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่มากินมา นมทำห่อหมกทะเลไว้ให้แกด้วยนะ”พี่รามตักห่อหมกใส่จานให้เราทั้งห่อเลย นี่คือจะให้น้องใจเย็นเหรอ คิดได้เนอะ
“หนูไม่กินอ่ะ เห็นอะไรแถวนี้ที่มันขวางหูขวางตาแล้วกินไม่ลง หนูขึ้นห้องละ”
“เม”
เราไม่ฟังอะไรทั้งนั้นหรอก เบื่อที่จะฟัง และพอเข้าห้องมาได้ ห้องก็ถูกเราเหวี่ยงปัดทุกอย่างกระจายแตกเต็มห้องไปหมด ทุกอย่างเลย เอาให้มันพังไปให้หมด เรารู้นะว่ามันจะดังลงไปถึงข้างล่างแน่นอนแล้วไงใครสนละ ก็นี่มันบ้านเราปะ
“จะมากันทำไม จะมาให้เห็นกันอีกทำไม จะมากันทำไมอีก”