ตอนที่ 1.ฟ้าใจร้าย
ตอนที่ 1.ฟ้าใจร้าย
ในค่ำคืนอันมืดมิด แสงไฟภายในคฤหาสน์สีขาวหลังใหญ่เหนือหน้าผาสูงยังคงส่องแสงสว่างประดุจกลางวัน เสียงหัวเราะ เสียงเพลงดังเล็ดลอดออกมาเป็นระยะ ที่นั่นกำลังมีงานรื่นเริง คนที่มาร่วมสังสรรค์ คือคนระดับเดียวกันทั้งหมด ซึ่งแตกต่างลิบลับ กับบ้านไม้หลังเล็กที่อยู่ในอาณาเขตเดียวกัน
เพียงออแค่นยิ้ม แล้วก็ก้มหน้าทำงานที่ได้รับมาต่อ เธอมีรายจ่ายรออยู่หลายอย่าง หากมัวสนใจทุกสิ่งรอบกาย งานของเธอจะไม่มีทางเสร็จตามกำหนด
เพียงอออดคิดถึงผู้มีพระคุณของตนเองไม่ได้ ยายทิพย์คือหญิงชราวัยเกือบเจ็ดสิบปี ผู้หญิงที่เลี้ยงดูเธอมาเกือบยี่สิบห้าปี ทั้งที่ไม่ใช่ญาติ ไม่มีสายเลือดเดียวกันสักหยด ความหลังตอนยังเด็ก สมัยที่เธอยังเป็นแค่เด็กน้อย เด็กกำพร้าแบบเธอถูกล้อเลียนจากคนรอบตัวจนกลายเป็นเรื่องชินชา ‘เด็กถูกทิ้ง’ ใช่เลย อดีตที่คอยตอกย้ำใส่หน้าตนเองมาตั้งแต่จำความได้ เธอคือเด็กอาภัพที่ถูกผู้ให้กำเนิดทอดทิ้ง และยายทิพย์เก็บเธอมาอุ้มชู
ยายทิพย์สอนเสมอให้เพียงอออย่าฟังคำพูดเสียดแทงเหล่านั้น แต่เพียงออก็อดคิดไม่ได้ เธอน้อยใจทุกครั้ง หากมีใครสักคนพูดเรื่องราวแต่หนหลังนั่นขึ้นมา ‘เธอผิดอะไร?’ ทำไมคนที่เป็นแม่ หรือพ่อ ถึงทำกับคนไม่รู้อีโหน่อีเหน่แบบเธอได้
จู่ๆ น้ำร้อนๆ ก็ไหลเอ่อมาจ่อที่ขอบตาด้านล่าง
เพียงออยกหลังมือขึ้นปาดลวกๆ เธอควรชินกับความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจแบบนี้ มันเกิดขึ้นกับเธอตั้งแต่วันลืมตาดูโลกแล้ว
“ซูดดดดดดดดดดดดดดด” เสียงสูดลมหายใจดังๆ กับคำปลอบใจที่ใช้ปลอบประโลมตัวเอง “ยังไงย่าทิพย์ก็รักออคนเดียวนั่นแหละ” ทั้งชีวิตของเพียงออมีแค่ยายทิพย์คนเดียว ดังนั้นเธอไม่มีวันยอมให้พญามัจจุราชพรากผู้มีพระคุณคนนี้ไปอย่างเด็ดขาด มือเรียวเล็กบรรจงร้อยมุกปักลงบนผืนผ้าสีขาว งานที่เธอต้องใช่ความพยายาม สร้างรายได้อย่างมากมาย แต่ก็หมดไปกับค่ารักษาพยาบาลของยายทิพย์ ซึ่งเพียงออไม่เคยท้อ ขอแค่เธอมีแรง ต่อให้ต้องเพ่งตามองมุกจนตาแตก เธอก็จะทำ เพื่อยื้อลมหายใจของยายทิพย์ไว้
“คนแบบเธอนี่ ต่อให้ขยันแค่ไหนก็ไม่มีทางรวยหรอกเพียงออ” เพียงออชำเลืองมอง ก่อนจะหมดความสนใจ
หญิงสาวโฉมสะคราญที่ยืนขวางกลางประตูบ้านไม้หลังเก่า ที่ตั้งอยู่สุดทางเดินดินโรยกรวดเม็ดเล็ก ตั้งอยู่ก่อนถึงดงไม้หนาทึบด้านหลังคฤหาสน์หลังใหญ่สะดุดตา แต่ก็อยู่บนแผ่นดินผืนเดียวกัน ครอบครองโดยตระกูลใหญ่ เจ้าของคฤหาสน์หลังใหญ่สีขาวหลังนั้น คฤหาสน์ที่กำลังมีงานรื่นเริงและส่งเสียงเอะอะอยู่นั่นเอง
บุหลัน พิณไพโรจน์ บุตรสาวคนสวยของตระกูลร่ำรวย แต่กลับเป็นอริกับเพียงออมาตั้งแต่สมัยเด็ก
“คุณหลันมีธุระอะไรกับออหรือเปล่าคะ?” เพียงออถามสั้นๆ เธอไม่มีเวลาตอแยกับบุหลันหรอก เช้านี้เธอต้องส่งผ้าผืนนี้ให้กับทางร้านที่ว่าจ้าง เธอไม่อยากผิดคำพูดกับแตงไทย ให้ตัวเองเสียเครดิต
“เปล๊า!!” บุหลันไหวไหล่
ไม่คิดว่าตัวเองจะเดินมาไกลถึงตรงนี้ เธอเบื่อเพื่อนปลอมๆ รอบตัว เพื่อนที่ประจบประแจงเพราะมีผลประโยชน์ร่วมกัน แต่ไร้ซึ่งความจริงใจ
“ยินดีด้วยนะคะ ในที่สุดคุณหลันก็เรียนจบแล้ว” บุหลันหน้าแดงแปร๊ด คำชมนั่นไม่ต่างอะไรกับหนามแหลมที่ทิ่งแทงกลางใจตนเอง ความสำเร็จที่เธอครอบครอง เทียบไม่ได้กับสิ่งที่หญิงตรงหน้าเคยทำ
เมื่อห้าปีก่อน บุหลันจำใจจากบ้านที่แสนสบายไป เธอใช้เวลามากกว่าหญิงตรงหน้าหลายเท่า กว่าจะคว้าสิ่งสำคัญสิ่งเดียวนั่นกลับมาได้ ‘ใบปริญญา’ เพียงออเรียนจบตั้งแต่สามปีก่อน เธอเริ่มทำงานและค่อนข้างประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตัวเองลงมือทำ
ต่างจากบุหลัน เธอเกือบเสียคนที่ดินแดนห่างไกลนั่น
หากคนตรงหน้าไม่เตือนสติเสียก่อน ‘จะทำตัวเหลวแหลกแบบนี้อีกนานแค่ไหนคะ ไม่อายออ ก็อายตัวเองบ้างเถอะค่ะ’
คำพูดนั้นตีกลางแสกหน้า เธอเกิดมาเพียบพร้อมแต่สู้หญิงตรงหน้าไม่ได้สักอย่าง เพียงออทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียนตั้งแต่ชั้นประถม จนกระทั่งเรียนจบ
“ย่าเธอไปไหนละ” บุหลันเดินมาทิ้งตัวนั่ง บนเก้าอี้ไม้เก่าๆ ตัวเดียวในห้องนั้น
เพียงออถอนใจแรงๆ “ย่าไม่สบายค่ะ อยู่ที่โรงพยาบาล”