บทที่ 4 น้ำตาฟ้า
รถยนต์เคลื่อนที่ตามเส้นทาง ผู้จัดการส่วนตัวชะงักมองข่าวในโลกออนไลน์ แล้วหันมามองดาราที่ตนเองดูแล อิงดาวหันมาสบตาขมวดคิ้วสีหน้ามึนงง
“มีอะไรเหรอคะพี่น้อย” เธอถาม
น้อยยื่นมือถือให้ดาราสาวดู เธออ่านข่าวในนั้น แล้วนิ่งงัน ท่ามกลางเนื้อหา ยังมีคอมเม้นที่กำลังด่าทอเธอมากมาย
“เกิดอะไรขึ้นเหรอดาว ทำไมถึงมีข่าวออกมาแบบนี้ ผู้ชายคนนั้นเขามีแฟนจะแต่งงานกันแล้วด้วยเหรอ” น้อยถาม สีหน้าเป็นห่วง
อิงดาวนิ่งเงียบ รู้ว่าต้องเกิดเรื่องแบบนี้ เพราะตนเป็นคนสาธารณะ แต่ไม่คิดว่าข่าวจะรวดเร็วขนาดนี้ เธอคิดว่าแย่งผู้ชายมาเท่านั้นจบ แต่ไม่คิดว่าสองคนมีแพลนแต่งงานกันเสียด้วย นี่เธอทำอะไรลงไปกันแน่
“ดาวไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ เพราะเขาไม่ได้บอก”
“แบบนี้แย่แน่ สังคมไทยยังไม่ยอมรับเรื่องแย่งแฟนหรอกนะ” น้อยเตือนสติ
“ดาวเข้าใจค่ะพี่น้อย แต่ดาวมีความจำเป็น!”
“จำเป็นถึงขนาดต้องแย่งคนรักของคนอื่นเลยเหรอ ดาวไปสนิทกับเขาดาวรู้ไหมว่าเขามีเจ้าของแล้ว!” น้อย เค้นถาม ทำเอาคนถูกถามสะอึกไม่กล้าตอบ
อิงดาวเม้มริมฝีปาก น้ำตาเริ่มคลอ ผู้จัดการส่วนตัวนิ่งงัน
“มันเกิดอะไรขึ้นดาว ปกติดาวไม่เคยไปยุ่งกับใครให้เป็นข่าว เล่าให้พี่ฟังได้ไหม”
เธอสบตาน้อย ผู้จัดการส่วนตัวที่เปรียบเสมือนครอบครัวเพียงคนเดียว น้องชายเธอป่วยและเพิ่งถูกส่งไปรักษาตัวยังอเมริกาเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ด้วยเงินซึ่งถูกจ้างวานให้แย่งชิงอัครวุฒิมาจากแฟนสาว ดูเหมือนเธอกำลังทำสำเร็จ แต่ที่สำคัญ คือเธอไม่รู้ว่าสองคนกำลังจะแต่งงานกัน
อิงดาวยอมเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้อีกฝ่ายฟัง น้อยเองรู้จักสาวิตรีพอสมควร ผู้หญิงคนนี้อายุอานามยังไม่ถึงเลขสามมีผลงานละครบ้างประปราย เป็นรุ่นพี่ของอิงดาว นิสัยค่อนข้างดี แล้วเหตุใดจึงกลับกลายเป็นคนว่าจ้างให้อิงดาวแย่งชิงคนรักคนอื่นได้ มันต้องมีลับลมคมในอะไรบางอย่าง
“สาวิตรีติดต่อดาวมาเองเหรอ”
“ใช่ค่ะ”
“พี่แปลกใจทำไมต้องเจาะจงดาวด้วย”
หญิงสาวนึ่งครู่หนึ่ง
“เพราะคุณอัครวุฒิ เป็นแฟนคลับดาวน่ะค่ะ”
น้อยเอื้อมจับมือดาราสาว แล้วถอนหายใจ ต่อให้ดาวอยากรักษาอาการน้องอย่างไร ก็ไม่ควรเอาความรู้สึกของคนอื่นมาเล่นแบบนี้ เพราะดาวเองก็ไม่ได้รักในตัวอัครวุฒิแม้แต่น้อย
“ถ้าสองคนนั้นแยกกันอย่างที่สาวิตรีจ้างดาวแล้ว แล้วอัครวุฒิล่ะ ดาวจะทำยังไงกับเขา”
อิงดาวเงียบ เพราะไม่รู้ว่าตนเองควรทำเช่นไร คิดแต่หาทางให้สองคนนั้นเลิกกันแค่นั้น ไม่ได้นึกถึงผลที่ตามมา
เธอส่ายหน้า สีหน้าสับสน
“ดาวไม่รู้เหมือนกันค่ะพี่น้อย” น้ำตาค่อยไหลรินออกมา ความผิดเริ่มเกาะกินหัวใจ
“แล้วแบบนี้จะทำยังไงดี ดาวถูกคนทั้งประเทศมองว่าแย่งแฟนคนอื่นไปแล้ว”
อิงดาวกัดริมฝีปากแน่น “ดาวยอมโดนด่าว่าเลว ดีกว่าให้น้องเป็นอะไรไป พี่น้อยเข้าใจไหมคะ” ช้อนสายตามองผู้จัดการส่วนตัว น้ำตานองหน้า
“พี่เข้าใจนะดาว แต่อาชีพดาวต้องได้รับความรักจากคนอื่น ถ้าดาวถูกมองว่าไม่ดี ดาวจะมีที่ยืนในอาชีพนี้เหรอ”
คนฟังชะงัก สับสนจนไม่รู้ว่าตนเองควรทำเช่นไร ถ้าหากไม่มีโอกาสได้ยืนในฐานะดาราแล้ว ก็ควรทำงานให้จบรับค่าจ้างที่เหลือ เพื่อเริ่มต้นทำอย่างอื่น
“เรื่องนี้ดาวคงต้องทำใจค่ะ”
น้อยไม่เอ่ยอะไรอีก เพราะอาจเป็นการตอกย้ำให้อีกฝ่ายรู้สึกผิด หวังว่าอิงดาวจะเข้าใจทุกอย่างด้วยตัวเอง
อัครวุฒิเห็นข่าวในโลกออนไลน์ สีหน้าเครียดขึ้น เพราะเกรงว่าผู้หญิงที่ตนหลงใหลอาจเกิดปัญหา รีบกดมือถือติดต่อไปถึงดาราสาวสวยทันที
“ค่ะคุณวุฒิ” อิงดาวรับสายเสียงแผ่ว
“คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ!”
อิงดาวเงียบไป
“เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าครับ!”
“ทำไมคุณไม่บอกดาวคะ ว่าคุณมีคนรักกำลังจะแต่งงานแล้ว”
ปลายสายนิ่งอึ้ง น้ำท่วมปาก
“คือว่าผม...”
“คุณทำแบบนี้เหมือนไม่ให้เกียรติดาวเลยนะคะ ดาวต้องถูกคนอื่นมองเป็นมือที่สาม!” อิงดาวตัดพ้อ
อัครวุฒิหน้าซีดเผือด เกรงดาราสาวที่หมายปองจะไม่ยอมติดต่ออีกเขาควรทำอย่างไรดี
“ผมขอโทษนะครับ ผมรักคุณดาว ผมไม่กล้าบอกกลัวคุณไม่คุยกับผมอีก!”
ปลายสายแสร้งเงียบ
“ถ้าเช่นนั้นเรื่องของเรามันคงเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ ไม่ว่าดาวจะรู้สึกกับคุณแบบไหน มันไม่สำคัญ”
น้ำเสียงเศร้าทำเอาหัวใจอัครวุฒิเต้นหนัก ทำอย่างไรถึงได้เคียงคู่ดาราสาวขวัญใจ
“คุณดาว คุณอยู่ที่ไหนผมจะไปหา เรามีเรื่องต้องคุยกันนะครับ!” อัครวุฒิเร่งอีกฝ่าย เพราะเกรงเธอจะไม่ให้ติดต่ออีก
“เราอย่าเจอกันเลยนะคะ ถ้าแฟนคุณรู้เข้า อาจมีปัญหาอีกได้ ตอนนี้ในโซเชียลก็มองว่าดาวเป็นมือที่สามกันหมดแล้ว”
ชายหนุ่มเริ่มร้อนรน ยอมรับไม่ได้หรอก หากต้องถูกหมางเมิน
“ผมขอร้องครับคุณดาว ผมขอร้อง เราเจอกันสักครั้งนะครับ ผมสัญญาจะทำทุกอย่างให้ถูกต้อง คุณต้องการให้ผมทำอะไร ผมทำให้หมดเลย!”
อิงดาวเงียบสักพัก ก่อนตัดสินใจจบเกมที่ตนเริ่ม
“ได้ค่ะ เดี๋ยวดาวส่งที่อยู่ให้นะคะ ตอนนี้เราเจอกันตามร้านอาหาคงลำบาก” หญิงสาวตัดสาย แล้วส่งที่อยู่ไปให้ การพบกับเขาที่สวนสาธารณะคงดีที่สุดในเวลานี้
ดาราสาวจอดรถตรงบาทวิถี แล้วเดินลงมาตรงสระน้ำ ตอนนี้ตะวันใกล้ตกดิน เธอหย่อนกายลงบนเก้าอี้เหล็กทาสีขาว ยกขาขึ้นไขว่ห้างเพื่อรอคนที่นัดหมาย
ยี่สิบนาทีต่อมา อัครวุฒิมาถึง สองร่างนั่งเคียงกันบนเก้าอี้ ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอสีหน้าเคร่งเครียด อิงดาวแสร้งตีหน้าเศร้า
“คุณดาว ผมขอโทษกับเรื่องทั้งหมดด้วยนะครับ ขอโทษที่ทำให้คุณต้องเสียชื่อเสียง” อัตรวุฒิบอกเสียงเครียด
เธอหันมาสบตา “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ดาวไม่โกรธคุณ มาถึงตอนนี้เราควรกลับไปในที่ของเรา เพื่อให้ปัญหาทุกอย่างมันจบ”
คนฟังนิ่งงัน นี่เขาต้องเสียเธอไปงั้นเหรอ
“ผมทำไม่ได้ ผมขอร้องคุณดาว ผมทำใจไม่ได้ที่ต้องเสียคุณไป!”
“แต่คุณมีคนรักอยู่แล้ว และกำลังจะแต่งงานกับเธอนะคะ!”
อัครวุฒิคว้ามือบางมากุมไว้ แววตาหม่น
“แต่ผมไม่ได้รักเธอแล้ว คนที่ผมรักคือคุณต่างหากคุณดาว!”
อิงดาวนิ่งไป ริมฝีปากบางเม้มแน่น สีหน้าเครียดขึ้น มาถึงจุดนี้แล้ว ย้อนกลับไปคงไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คือทำให้สำเร็จ และรับเงินก้อนนั้นมา
“รัก... แล้วจะทำยังไงได้คะ ดาวไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นมือที่สาม”
ชายหนุ่มระบายลมหายใจ เห็นทีต้องจัดการปัญหาให้จบ เพื่อให้ดาวมั่นใจในตัวเขา และสานสัมพันธ์ต่อ
“ผม... จะเลิกกับแฟนผม เพื่อคุณดาวครับ”
หญิงสาวกัดฟันแน่น พยายามเก็บอาการสั่นเทาไม่ให้อีกฝ่ายเห็น แผนการสำเร็จแล้ว แค่รอให้อัครวุฒิบอกเลิกเท่านั้น ทุกอย่างเป็นอันจบ จากนี้ไปต่อให้ใครตราหน้าว่าเธอเป็นผู้หญิงเลวคงต้องยอมรับมัน เพราะชีวิตเธอไม่ได้มีทางเลือกมากนัก
ร่างบางลุกยืน สบตากับเขา
“คุณแน่ใจแล้วเหรอคะ ที่จะเลิกกับแฟนคุณ” เธอถามย้ำ
“แน่ใจสิครับ”
“ดาวจะรอนะคะ รอให้ทุกอย่างเรียบร้อย”
เขาฉีกยิ้ม สีหน้ายินดี เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายตอบรับความสัมพันธ์ เมื่อใดที่เป็นโสดอีกครั้ง เขาและคุณอิงดาวยอมมีสิทธิ์ทำอะไรอย่างใจปรารถนา