บทที่ 1 น้ำตาฟ้า
“ฉันให้สิบล้าน ตกลงไหม!”
อิงดาวนางเอกละครชื่อดังในปัจจุบัน ด้วยใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโต แพขนตางอน จมูกโด่งรั้น ริมฝีปากบางระเรื่อสีชมพูด ผิวขาวนวล ทำให้เธอกลายเป็นที่พูดถึงได้ไม่ยาก ที่สำคัญบทละครส่งให้เธอนั้นกลายเป็นขวัญใจชั่วข้ามคืน
“แน่ใจเหรอคะที่จะให้ฉันขนาดนี้ แค่เรื่องแย่งผู้ชายคนหนึ่งมา” ต่อให้ไม่อยากทำ แต่เธอจำต้องรับงานนี้ไว้ เพราะน้องชายกำลังป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงต้องทำการรักษาตัว
เงินที่ได้มา ก็แทบไม่ได้ใช้จ่ายอะไรนอกจากให้น้องได้รับการรักษาอย่างดีที่สุด
“ใช่ แค่แย่งผู้ชายคนนี้มาเท่านั้นเอง” ผู้ว่าจ้างยืนยันหนักแน่น
อิงดาวมองใบหน้าชายในมือถือ เขาเป็นคนหน้าตาค่อนข้างดี ดูสุภาพมีหรือจะมาชอบคนอย่างเธอ ที่สำคัญการแย่งคนรักคนอื่น ไม่ใช่ทางเลยสักนิด ถ้าไม่ติดว่ามูลค่าที่ได้นั้นมหาศาลทำให้เธอต้องยื่นมือมารับไว้อย่างเสียไม่ได้ อย่างไรชีวิตเธอน้องก็สำคัญที่สุด
คนถูกว่าจ้างเม้มริมฝีปากครุ่นคิดหนัก ยังไม่ได้แต่งงานกันคงไม่มีปัญหาอะไร
“ก็ได้ค่ะ ฉันรับงานนี้!”
“ฉันจะจ่ายให้ก่อนห้าล้าน งานเสร็จรับอีกห้าล้าน เป็นอันตกลงตามนี้นะ” ผู้ว่าจ้างบอก
“ตกลงค่ะ”
สาวิตรีหยิบกระเป๋าขึ้นสะพายไหล่ แล้วเดินออกนอกร้านกาแฟ อิงดาวมองตามแล้วระบายลมหายใจ เธอไม่ได้ตั้งใจเลย ถ้าหากไม่จำเป็นจริงๆ คงเลือกทางที่ถูกที่ควรมากกว่านี้
รถยนต์จอดเทียบหน้าโรงพยาบาล พยาบาลสาวก้าวออกมาแล้วระบายยิ้ม เธอเป็นสาวผิวน้ำผึ้ง รูปร่างบอบบาง วงหน้าคมเหมือนแขก ดวงตากลมโต เธอเปิดประตูขึ้นนั่ง ตรงคนขับมีชายรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาว หน้าตาสุภาพส่งยิ้มให้แล้วเคลื่อนรถออก
ศิรินภาเหลือบมองไปยังหน้ารถ เห็นรูปดาราสาวกำลังโด่งดังติดอยู่ เธออมยิ้มแล้วแกล้งช้อนสายตามอง
“ไม่ว่าที่ไหนก็มีรูปดาราคนนี้เต็มไปหมดเลยนะคะ ดูท่าคุณจะชอบมากเลย” ศิรินภาแกล้งแซว
“ก็เหมือนชอบดาราทั่วไปนั่นแหละครับนภา” เขาหัวเราะแผ่ว
เธอยิ้มบางๆ “ค่า นภาเข้าใจ”
อัครวุฒิยิ้มให้คนรัก แล้วขับเคลื่อนรถออกเพื่อเดินทางกลับบ้าน รถแล่นมาจนถึงหน้าบ้าน อัครวุฒิจอดรถแล้วเดินไปเปิดประตูรั้ว ก่อนขับรถเข้าสู่ด้านใน สองร่างเดินเคียงกันเข้าด้านใน ศิรินภารีบเข้าครัวเพื่อเตรียมอาหารสำหรับค่ำคืนนี้ ระหว่างทำร่างบางถูกโอบกอดจากด้านหลัง หญิงสาวหันมายิ้มกว้าง รู้สึกมีความสุขที่มีแฟนที่รักและเอาใจใส่ขนาดนี้
“อยากให้ถึงเดือนหน้าเร็วๆ จังเลยนภา” เขาบอกแฟนสาว แล้วจับให้เธอหันมาสบตา
“ทำไมคะ”
“ผมอยากแต่งงานกับคุณเร็วๆ น่ะสิ”
คนฟังหัวเราะแผ่ว “จะบ้าเหรอคะ แต่งเร็วจะไปเตรียมงานทันได้ยังไง”
ติ๊งต่อง!
เสียงกริ่งหน้าบ้านทำเอาสองคนชะงัก เขาคลายอ้อมกอดแล้วเดินออกมา เปิดประตูรั้ว เห็นหน้าคนมาเยือนชายหนุ่มชะงักอ้าปากค้าง สีหน้าตื่นตะลึง
“อิงดาว..” เขาละเมอ
เธอเสยผมแล้วยิ้มยั่ว จนทำเอาอีกฝ่ายละสายตาไม่ได้ เหงื่อผุดซึมใบหน้ายิ่งส่งให้ดาราสาวดูผุดผาดงดงามจนใจสั่น
“เอ่อ.. ขอโทษนะคะ ใช่บ้านคุณมัลลิการ์ไหม” เธอแสร้งถาม แล้วขมวดคิ้ว
คนถูกถามส่ายหน้าเหมือนคนละเมอ เธออมยิ้ม
“ถ้างั้นขอบคุณมากนะคะ” อิงดาวบอก แล้วหันกายเดินออกมา ก่อนหันกลับไปมอง แล้วยิ้มกว้าง เดินกลับมาหาเขาอีกครั้ง “คุณชื่ออะไรคะ”
“ผมอัครวุฒิครับ เรียกวุฒิเฉยๆ ก็ได้”
“ฉันอิงดาวนะคะ” ยื่นมือออกมาให้เขาจับ อัครวุฒิมองมือก่อนเอื้อมจับ
อิงดาวรับรู้ได้ถึงอาการสั่น มือนั่นเย็นเฉียบราวกับแช่น้ำแข็งมา
“เอาไว้เจอกันนะคะ” หญิงสาวก้าวออกมาแล้วขึ้นรถขับเคลื่อนออกไป
อัครวุฒิเดินละเมอเข้าบ้าน จนแฟนสาวต้องสะกิดมองหน้าเขาด้วยความสงสัย
“ใครมาเหรอคะ”
“อิงดาว”
คนฟังชะงัก จ้องมองด้วยความสงสัย อิงดาวงั้นเหรอ ทำไมต้องมาที่บ้านด้วย ว่าที่เจ้าบ่าวเธอกำลังละเมออะไรหรือเปล่า คนตัวเล็กยิ้มบางๆ แล้วตบไหล่หนา
“ไปทานข้าวกันเถอะค่ะ ฉันอนุญาตให้แค่ฝันถึงนะคะ แต่อย่าฝันนานต้องอยู่กับความเป็นจริงบ้าง” พูดจบเธอกลับเข้าครัวแล้วจัดเตรียมอาหารไว้ทานทันที