เกมร้ายซ่อนรัก | Episode 2 หวาดระแวง
เช้าวันต่อมา...
ทิชาเดินย่างกรายเข้ามาปลุกน้องสาวเหมือนทุกวัน ก่อนจะยื่นเงินจำนวนหนึ่งให้น้องสาว
เทียน่ารับมาด้วยความมึนงง ก่อนจะเอ่ยถามพี่สาว
“ ค่าอะไรเหรอคะ”
“อยากซื้อไรก็ซื้อไม่ต้องไม่รอเงินรายสัปดาห์จากวิภา”
ทิชาเอ่ยถึงแม่เลี้ยงใจร้ายที่มักจะแกล้งลืมให้เงินน้อง บางครั้งก็ให้ไม่ครบตามที่พ่อเคยให้ มักจะชอบอ้างว่าสถานะทางการเงินของพ่อเธอนั้นเริ่มจะไม่ค่อยดี คนเข้าร้านน้อยและเป็นแบบนี้อยู่หลายต่อหลายครั้ง
แม่เลี้ยงของพวกเธอมักจะบอกให้เธอกับน้องสาวทำตัวให้มีประโยชน์ ทว่าทิชาก็ตอบกลับไปด้วยประโยคนิ่ม ๆ ที่ทำเอาคนฟังแทบกระอักเลือด เช่น
‘ไม่ใช่แม่ ไม่ต้องมาสอน’
และมักจะเป็นทิชาที่โต้ตอบเพราะเทียน่านั้นเป็นคนไม่ค่อยพูด เด็กสาวมักจะยืนฟังนิ่ง ๆ นั่นทำให้ทิชาเป็นห่วงในความหัวอ่อนของน้องสาว จึงคอยดูแลเธออยู่ตลอดและเลือกที่จะไม่ตามแม่กับพี่ชายไป
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมเสียงเรียกจากคนเป็นพ่อ เพื่อบอกลูกสาวว่าจะไปทำงานแล้วเหมือนทุกวัน ทว่าเทียน่ากลับไม่ยอมเปิดประตู
“พ่อจะออกทำงานแล้วนะลูก”
เทียน่าได้ยินทุกถ้อยคำของคนเป็นพ่อ แต่ก็เลือกที่จะเงียบ และไม่ยอมเปิดประตูออกไป ทุกครั้งที่เห็นหน้าพ่อเธอมักจะรู้สึกเจ็บปวดและคิดถึงแม่กับพี่ชาย
หลังจากที่มั่นใจว่าพ่อของเธอออกจากบ้านแล้ว เทียน่าก็กอดลาพี่สาวและเดินไปโรงเรียนทันทีด้วยไม่อยากสายไปมากกว่านี้ เธอใช้ชีวิตตามปกติ เธอตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่างดี หลังจากเรียนเสร็จเธอก็กลับบ้านมาอ่านหนังสือใช้ชีวิตวนเวียนอยู่แต่ในห้องอย่างไร้จุดหมาย
แต่ละวันของเธอใช้ชีวิตเพื่อรอทิชา พี่สาวของเธอกลับมา และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่เด็กสาวนอนรอทิชาที่ห้องเหมือนอย่างเคย ไม่นานทิชาก็กลับมาพร้อมรอบยิ้มที่สดใสยิ่งกว่าทุกวัน ก่อนจะพูดคุยกับน้องสาวตัวเองด้วยท่าทีตื่นเต้น
“ ทำไมวันนี้พี่กลับช้าจังคะ”
เทียน่าเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงปนเศร้า ก่อนจะสวมกอดพี่สาวตัวเองด้วยความเป็นห่วง
“ เทีย พี่เจอเจ้าของบ้านหลังใหญ่นั้นแล้วนะ”
“จริงเหรอคะ เขาแก่ไหมคะ “
เทียน่าเอ่ยถามด้วยความตื่นเต้นไม่แพ้กัน ก่อนที่ทิชาจะส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้ม
“ไม่แก่ เขาหล่อมาก อายุน่าจะพอๆ กับพี่แทน “
เมื่อทิชาพูดถึงแทนคุณ สองคนพี่น้องก็เศร้าขึ้นมาทันที
“ขอโทษ พี่ไม่น่าพูดเลย”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
เทียน่าเอ่ยตอบเพื่อให้พี่สาวของเธอสบายใจ ก่อนที่สองสาวคุยกันเรื่องบ้านหลังใหญ่กับหนุ่มหล่อต่อโดยไม่สนใจเสียงโวยวายด้านล่าง
“วันนี้แปลกมากเลยนะคะ ที่พ่อกับน้าวิภาทะเลาะกัน”
“เลิกกันได้ก็ดี”
ทิชาเอ่ยขึ้นก่อนจะแสดงสีหน้าอย่างพอใจกับเหตุการณ์ด้านล่าง ก่อนจะลูบหัวน้องสาวคนอีกสองสามทีและเดินกลับไปที่ห้องตัวเอง
หลังจากที่ทิชาเดินออกไปเทียน่าก็กลับเข้าโลกส่วนตัวของตัวเองทันที เธอหยิบหูฟังคู่ใจขึ้นมาเพื่อกลบเสียงดังด้านล่างและภาวนาภายในใจว่าให้เป็นไปตามที่พี่สาวของเธอพูด พ่อเธอจะได้หลุดพ้นจากยัยแม่มดที่คอยเอาแต่จะสูบเลือดสูบเนื้อพ่อเธอเสียที
หลังจากที่ทุกอย่างเงียบลง เทียน่าก็เดินลงมาหาอะไรกินเหมือนทุกวัน ทว่ากลับได้ยินเสียงวิภาคุยสายกับใครบางคนด้วยท่าทีลับ ๆ ล่อ ๆ เทียน่ายืนแอบฟัง ในห้องข้าง ๆ ก่อนจะจับใจความสำคัญและรู้ได้ในทันที เมื่อวิภาแม่เลี้ยงของเธอเอ่ยถึงส่วนแบ่งกำไรของพ่อเธอ พอจะเดาออกว่าวิภานั้นกำลังคิดจะโกงพ่อเธอ แต่ว่าเธอเองก็คงช่วยอะไรไม่ได้ ในเมื่อเธอพูดอะไรไป พ่อเธอก็ไม่คิดจะฟัง
หลังจากที่เทียน่ากลับเข้าห้องตัวเองได้ไม่นาน เสียงรถพ่อเธอก็กลับมา พร้อมกับเสียงดังเอะอะโวยวาย
พ่อเธออาละวาดหนักอย่างต่อเนื่องในขณะที่เธอกำลังนั่งฟังเพลงอยู่ก็ได้ยินเสียงทะเลาะกันดังขึ้นเรื่อย ๆ และตอนนี้ ไม่ได้มีเพียงแค่พ่อและแม่เลี้ยงเธอแล้ว แต่กลับมีเสียงคนอื่นดังเล็ดลอดขึ้นมาด้วย มีเสียงใครอีกหลาย ๆ คนกำลังพูดถึงข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับร้าน เกี่ยวกับหุ้นส่วนของพ่อเธอ และเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการลักลอบขายเด็กในร้านให้กับซ่องของเพื่อนที่ร่วมธุรกิจ
“เอาไปทำลายซะ ในตอนที่กูยังพูดดีอยู่”
เสียงชายหนุ่มวัยกลางคนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังปนข่มขู่
“ไม่ กูจะเก็บหลักฐานนี้ไว้แล้วเอาไว้เป็นหลักประกันว่ามึงจะไม่โกงกู”
“ฉันไม่เกี่ยวนะ ทุกอย่างมันเป็นเพราะคุณ”
เสียงวิภาเอ่ยขึ้นก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบไป และเหมือนว่าทุกคนจะออกกันไปหมดแล้ว เทียน่าจึงหยิบหูฟังขึ้นมาสวมใส่เพื่อกล่อมตัวเองให้หลับตาลง
เช้าต่อมา...
ทิชาเดินเข้าไปปลุกน้องสาวตามปกติ
“แต่งตัวให้เรียบร้อย เดี๋ยววันนี้พี่ขับรถไปส่งเราก่อน แล้วค่อยเลยไปมหาลัย”
เทียน่าพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะเดินเข้าไปหยิบกระเป๋า เพราะว่าเธอนั้นแต่งตัวเสร็จตั้งนานแล้ว เพียงแค่รอให้พ่อของเธอและวิภาออกจากบ้านไปก่อน ระหว่างทางทั้งสองก็แวะซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งเพื่อทานเป็นอาหารเช้าเหมือนทุกวัน
ทว่าวันนี้เทียน่ากลับรู้สึกแปลกกว่าทุก ๆ วัน เธอรู้สึกถูกจ้องมองตลอดเวลา หนำซำยังได้ยินเสียงกดชัตเตอร์ดังขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ราวกับมีคนแอบถ่ายภาพของตัวเองอยู่
ไวกว่าความคิด เด็กสาวรีบดึงมือผู้เป็นพี่มาเกาะกุมไว้พลางพาเดินเข้าไปในที่ที่ผู้คนเยอะ ๆ เพื่อทำให้ตัวเองปลอดภัย ก่อนที่คนเหล่านั้นจะหายไป
“เป็นอะไรรึเปล่า”
ทิชาเอ่ยถามขึ้น ทว่าเทียน่ากลับส่ายหัวและคิดว่าตัวเองคงคิดมากไปทั้งยังไม่อยากทำให้พี่สาวเป็นห่วงจึงไม่ได้บอกสิ่งที่เธอคิดออกไป