บทที่1.ปะทะคารม ..
“นักขับรถแข่งเก่งๆ มีอีกหลายคนครับ เราคงพบกันอีกในสนามแข่ง แต่คราวหน้าผมไม่ได้อยู่ในฐานะนักแข่ง เปลี่ยนมาเป็นผู้ชมแทน”
“อื้อๆ” เสียงครวญดังกระหึ่ม เมื่อเสียนักแข่งฝีมือฉกาจไป แถมหล่อปานนายแบบชื่อดัง ถ้าเขาจะเอาดีทางด้านขายหน้าตา เพราะเจรามี่หน้าตาจัดว่าเบอร์หนึ่ง ประหนึ่งเทพบุตรหลงมาจากชั้นฟ้า หน้าคมๆสายเลือดผู้ชายอิตาลี ผมหยิกหยักศกสีดำ สนิทจมูกโด่งแหลม คางบึกบึน มีไรหนวดสีเขียวครึมตามแนวคาง ดวงตาสีคาราเมลหวานฉ่ำ ริมฝีปากหนาหยัก ไรฟันเป็นระเบียบ พร้อมทั้งทรัพย์สมบัติติดตัว ภายใต้นามสกุลดัง ‘โดนาแวน’ ที่ไม่มีใครบนโลกไม่รู้จักบ้างล่ะ
ห้างสรรพสินค้ากลางเมือง...
“อุ่ย! ขอโทษค่ะ” นิสารีบขอโทษคู่กรณี หลังจากเกิดอุบัติเหตุกลางห้างสรรพสินค้า เพราะมัวแต่เหม่อจนกระทั่งชนใครก็ไม่รู้ เธอมองชายหนุ่มตรงหน้าที่ยืนอยู่ข้างๆ คู่กรณีด้วยความสนใจ ชายต่างชาติหล่อสะดุดตา โครงหน้าเข้ารูปดูดีจนหาตัวจับยาก เธออาจจะเคยเห็นเขาตามหน้าหนังสือเม็กกาซีนนายแบบชื่อดัง เขาสวมชุดสีดำแนบเนื้อ ทำให้เห็นลอนกล้ามที่หน้าท้องได้อย่างชัดเจน เขาสวมแว่นดำตาสีดำสนิทปกปิดดวงตาและใบหน้าจนมิด เธอไม่สามารถรู้ได้เลยว่าแววตาที่มองตรงมาเป็นแบบใดกันแน่
“เดินซุ่มซ่ามไม่ดูตาม้าตาเรือเลยนะเธอ หน้าตาก็ดีอยู่หรอก แต่ท่าทางจะเป็นแค่...บ้านนอกหลงกรุง” เสียงต่อว่าฉอดๆ นิสาถอนใจแรงๆ เธอมองสบตากับคู่กรณี ก่อนจะเบ้ปาก เมื่อคนตรงหน้า แต่งตัวหมิ่นเหม่ หน้าอกอวบใหญ่จนล้นออกมาจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ หล่อนดุกร้านๆ จนน่าสังเวช
“เธอว่าใคร?!” นิสาถามกลับ น้ำเสียงขุ่นขวางอย่างไม่ยอมแพ้ เธอรู้ตัวว่าตัวเองทำผิด ขอโทษก็ทำแล้ว ฝ่ายตรงข้ามไม่น่าแสดงกริยาดูแคลนเธอเช่นนี้
“จะว่าใครได้ล่ะ ตรงนี้มีแค่ฉันกับหล่อนนี่ยะ” นิสาเกือบปรี๊ดแตก คู่กรณีกวาดตามองเธอ ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า กริยาหมิ่นแคลนที่ทำให้เธอใกล้น็อตหลุด
“นิสา…วราว่าเรากลับกันดีกว่านะ เดี๋ยวน้องบาสตื่น สำเรียงคนเดียวจะรับมือไม่ไหวหรอก” วราพิชชาดึงมือเพื่อน เธอรีบชวนเพื่อนรักกลับ ป่วยการต่อปากต่อคำ กับคนที่ไม่มีมารยาท
“ชิ!” นิสาสะบัดใบหน้าใส่คู่กรณี ยอมเดินตามวราพิชชามาอย่างจำใจ หากไม่เกรงใจเพื่อน มีหรือที่นิสาจะยอม เธออดหมั่นไส้ผู้ชายขี้เก๊กตรงหน้าไม่ได้ เขายืนนิ่งเป็นหุ่นยนต์ ไม่คิดจะห้ามปรามคนของตัวเอง สองสาวยอมถอยให้ เพราะตัวเองผิดที่มัวแต่คุยจ้อจนไม่ได้ดูทางเดินให้ดีๆ
“วราไปรอนิสาที่รถก่อนนะเดี๋ยวนิสาขอตัวไปเข้าห้องน้ำแป๊บหนึ่ง” นิสาบอกเพื่อนรัก เธอหมุนตัวเดินไปทางห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว วราพิชชาส่ายศรีษะกับการตัดสินใจปุบปับของเพื่อน แม่ลูกสองพยักหน้ารับ แล้วจึงเดินไปรอยังรถยนต์ที่จอดอยู่ยังชั้นใต้ดิน
นิสาเดินห่างวราพิชชามา เธอก็เดินพลางมองหาคู่กรณีไปด้วย วราพิชชาเป็นคนใจดี เพื่อนเธอยอมจบ แต่เธอไม่คิดจะยอม แม่สาวทรงโตคนนั้นไม่มีสิทธิมาว่าเธอแบบสาดเสียเทเสีย แค่อุบัติเหตุชนกันกลางทาง ขอโทษก็แล้ว ยังจะมากล่าวประณาม อย่างนี้คงต้องเจอกันซักตั้งล่ะ
หญิงสาวรีบเดินตามหาทั้งคนทั้งคู่อย่างอาฆาต เมื่อเจอคู่กรณีที่หมายตาไว้ เธอจึงรีบเดินแซงไปดักรออยู่ข้างหน้า และรอจังหวะเวลาอย่างอดทน เธอแสร้งทำเป็นเดินสนใจสินค้าตามตู้โชว์ พลางถอยหลังไปใกล้ๆ คู่กรณีทั้งคู่ แอบแบะปากหมั่นไส้ผู้หญิงคนนั้น หล่อนไม่มีความเป็นกุลสัตรีทั้งที่หน้าตาอ่อนไว้ แต่จริตจะก้านมาเต็ม หล่อนกล้าควงผู้ชายแบบเปิดเผย แสดงความสนิทสนมจนน่าเกลียด ชุดที่ใส่ก็ทั้งสั้น ทั้งแคบจนปิดสัดส่วนอวบอิ่มแทบไม่มิด แถมยังออดอ้อนออเซาะแบบไม่อายสายตาคนมองเลย เมื่อมองเห็นโอกาสอันดี นิสาจึงแกล้งเดินตัดหน้าพวกเขาไปอย่างกระชั้นชิด
ผลที่ได้ก็คือ...แม่สาวปากเสียเดินชนเธอเสียเต็มที่ จนทั้งหล่อนและเธอเกือบจะล้มลงบนพื้น ถ้าไม่มีใครบางคน ยื่นมือมาคว้านิสาไว้ เธอคงได้ไปนอนแอ้งแม้งอยู่ที่พื้น หลังตั้งสติได้ นิสารีบยกมือดันแผงอกแน่นตึบ เธอถูกกระชากเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของคนแปลกหน้า ผิวของเขาร้อนระอุเสียจนเธอสะดุ้ง!! นิสาตกตะลึง เมื่อช้อนสายตามองคนใจดีที่ยื่นมือเข้ามาช่วยตนเอง
“ปะ ปล่อย!” เสียงตะกุกตะกักเอ่ยบอก