ฮ่องเต้ตัวร้ายกับยัยตัวป่วน

155.0K · จบแล้ว
จันทร์ส่องแสง
77
บท
12.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ฮ่องเต้ที่มีปมเรื่องความรักเก่าแสนขมขื่นกับคนที่ไม่แยแสกับสาวใด หลายนางเป็นแค่สนมคืนเดียวเพราะยังยึดติดและโหยหาคนรักเก่า กับแพรวาหญิงสาวที่ถูก พิษรักเล่นงานเช่นกัน เธอจะมีวิธีการเช่นไรที่จะทำให้ ฮ่องเต้เปลี่ยนใจมาชอบเธอ เมื่อบัลลังก์ต้องการรัชทายาท กับเรื่องราวการชิงบัลลังค์ที่แสนจะวุ่นวายมาเอาใจช่วยว่าทั้งคู่จะลงเอยเช่นไร

นิยายจีนโบราณเกิดใหม่ในนิยายฮ่องเต้นางเอกเก่งพลิกชีวิตข้ามมิติรักแรกพบความจำเสื่อมจีนโบราณรักหวานๆ

หรือว่าฝันไป

เมื่อรู้สึกถึงแรงกระแทกอย่างจังที่ระหว่างคิ้ว

แพรวา ก็รู้ว่าตัวเองได้ดำดิ่งลงสู่พื้นน้ำ นาฬิกาบนหน้าจอมือถือ หยุดเดินตรงที่เวลา 21นาฬิกา28นาที31วินาที สติสัมปชัญญะดับวูบลงไป ความหนาวเหน็บในเดือนธันวาคม เหมือนจะเสียดแทงแต่ความหนาวเหน็บจากน้ำรอบๆ กายยิ่งเลวร้ายกว่าน้ำตาที่เอ่อนองอยู่เต็มตา เจือจางไปด้วยน้ำในแม่น้ำ

กลิ่นหอมขจรขจาย คล้ายกลิ่นมะลิ โชยมาอ่อนๆ ความหนาวเหน็บยังคงอยู่ แพรวา กวาดสายตามองรอบๆ ตัว เตียงนอนไม่สูงนักที่เธอนอนอยู่กลิ่นหอมที่ได้กลิ่นเมื่อกี้ คงมาจาก อ่างสีทองใบใหญ่ ใส่น้ำลอยดอกอะไรสักอย่างสีแดงเข้มไว้ข้างๆ อ่างทองใบนั้นมีกำยานถูกจุดไว้ควันสีขาวลอยอ้อยอิ่ง ยังไม่ทันขยับตัวสายตาไปสะดุดลงที่ร่างสูงที่ยืนหันหลังให้ความผึ่งผายของแผ่นหลังชวนให้อยากเห็นใบหน้าเจ้าของร่างแต่อาภรณ์ที่สวมใส่เหมือนกับหลุดมาจากหนังจีนกำลังภายใน เธอพยุงกายลุกขึ้น

เสียงเตียงลั่นดังออดแอด ร่างสูงหันกลับมา ตาคมจ้องเขม็งมาที่เธอ ใบหน้าหล่อเหลา สะอาดตา คิ้วเข็มขมวดเข้าหากันเพียงเสี้ยววินาทีเธอเห็นสายตาห่วงใย แล้วก็แปรเปลี่ยนไปเป็นสายตาคมกริบปนไปด้วยความฉงนเหมือนเดิม

“ฟื้นแล้วรึเจ้า นอนไปหลายวันเชียว ข้าเป็นห่วงว่าเจ้าจะตายเสียได้ หมอหลวงต้องเฝ้ารักษาด้วยยา มาหลายขนาน ก็ยังไม่ยอมฟื้นคิดว่าจะตายเสียแล้ว”

คำพูดคล้ายประชดประชันอยู่ในที

” คุณเป็นใคร แล้วฉันมาอยู่นี่ได้อย่างไร”

คราวนี้เป็นเธอเองที่มีแววตาฉงนสนเท่ห์เธอสั่นศีรษะไปมาเพื่อไล่ความมึนงงปอยผมร่วงลงมาปิดใบหน้าสวยใสน่ามองนั้นทำให้ใบหน้าสวยยิ่งน่ามองยิ่งขึ้น ร่างสูงเหมือนจะหยุดมองดวงหน้าของเธอไม่ได้ รอยยิ้มน้อยๆ ผุดขึ้นเหมือนพึงพอใจแต่เป็นเพียงแค่อึดใจเดียวรอยยิ้มหายไป

“เจ้าล่ะเป็นใคร ริมาโดดน้ำตายอยู่หน้าตำหนักของข้า ดีนะที่ข้ามาทันเห็นไม่เช่นนั้นเห็นต้องได้ไปเฝ้ายมบาลเป็นแน่แท้”

แพรวา พึ่งประจักรเดี๋ยวนี้เองว่าภายใต้ใบหน้าที่หล่อเหลานี้ ปากคอช่างเราะร้ายนักริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันในทันที คนบ้าที่ไหนจะฆ่าตัวตายเธออยากจะตะโกนบอกไปแบบนั้นด้วยความเคยชิน แต่ด้วยสถานการณ์ แบบนี้เธอทำได้แค่นี้จริงๆ

“ใครบอกคุณฉันจะฆ่าตัวตาย อุบัติเหตุยะ”

เธอส่งเสียงลอดริมฝีปากบางสวย ใบหน้าคมเลิกคิ้ว ท่าทีขัดตาแต่น่ามอง ไปอีกแบบ

“อย่างนั้นรึทำไม ไม่ว่ายน้ำล่ะปล่อยตัวเองให้ดำดิ่งลงไปอย่างนั้น”

.----------

เธอขยับปากจะเถียงแต่เมื่อนึกย้อนถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา เธอเลือกที่จะหุบปากนิ่ง

เช้าที่แสนสดใสแดดทอประกายอ่อนๆ ท้องฟ้าสีฟ้าครามไม่มีเมฆหมอกลอยมากวนใจ แพรวาถือกล่องของขวัญใบเล็กแต่ทว่ามากด้วยความหมาย วันนี้วันเกิดของคนสำคัญของเธอ แม้แต่กระดาษห่อของขวัญที่เตรียมมาก็เป็นสีที่เขาชอบ

เธอพาตัวเองมาอยู่ที่หน้าลิฟต์ ประตูเปิดออก เอื้อมมือไปกดชั้นบนสุดเขาจะแปลกใจแค่ไหนนะ แพรวานึกถึงท่าทางของเขาไม่ออกเลย เผลออมยิ้มไปโดยไม่รู้ตัวปกติการมาของเธอทุกครั้งต้องแจ้งให้เขาทราบทางโทรศัพท์ แต่ว่าครั้งนี้เป็นโอกาสพิเศษเธออยากให้เขารู้ว่าเขาสำคัญกับเธอแค่ไหน นาฬิกาบนข้อมือบอกเวลา6.30น. เขาคงนอนหลับสบายอยู่บนที่นอนเพราะปกติแล้วกว่าเขาจะตื่นนอนและธุระส่วนตัวเสร็จก็เกือบ8.30 แล้ว เมื่อเวลา09.00 น.เขาจะโทรหาเธอทุกวัน ดีที่เธอมีกุญแจสำรองที่เขาให้ไว้ปกติเมื่อเขาไม่อยู่เธอมักจะแอบมาทำความสะอาดห้องให้เขาทุกๆ วันเสาร์ เลยจำเป็นต้องขอกุญแจเขาไว้ จึงถือว่าเป็นเรื่องดีที่ จะได้ย่องเข้าไปโดยเขาไม่รู้ตัว

เธอรู้สึกใจเต้นแรงขึ้นมาทันทีที่เดินมาจนถึงหน้าห้องของเขา ประตูห้องปิดสนิทไม่มีเสียงเคลื่อนไหวใดๆ ในห้อง แพรวา ใช้ความระวังอย่างที่สุด ในการแทรกตัวเข้าไปในห้องอย่างเงียบกริบ เขาต้องอยู่บนเตียงอย่างที่เธอคิดแน่นอนเธอพยายามทำตัวเองให้เบาที่สุดก้าวช้าๆ ไปยังห้องนอนที่แสนจะหรูหรารูปคู่ของเธอและเขาวางอยู่ บนโต๊ะ ก่อนถึงประตูทางเขาไปห้องนอน ประตูห้องนอนแง้มออกเล็กน้อยเธอ สอดส่ายสายตามองไปที่เตียง หัวใจแทบหยุดเต้นเมื่อเห็นร่างเปลือยเปล่าของผู้ชาย สองคน นอนกอดก่าย อย่างไม่อายฟ้าดิน ผิวขาวเกลี้ยงเกลา เบียดชิดแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน ทั้งคู่นอนหลับตาพริ้มเหมือนกับสุขสมหนักหนามีเพียงผ้าห่มบางเบาปิด ตรงส่วนกลางของร่างกาย

แพรวาใช้มือปิดปากตัวเองโดยไม่ได้ตั้งใจ คิดว่าตัวเองคงอดที่จะวี้ดร้องออกมาไม่ได้แต่เปล่าเลย เธอไม่มีแม้กระทั่งเสียงหายใจคล้ายๆ จะหยุดหายใจไปชั่วขณะ น้ำใสๆไหลพรั่งพรูออกมา เธอหันหลังวิ่งกลับออกไปอย่างเร็วที่สุด ลืมห่อของขวัญที่วางไว้ตรงโต๊ะกลางห้อง

แพรวาเหยียบคันเร่งของรถคันที่เธอขับจนสุดแรง ด้วยความเสียใจ พาตัวเองออกมาจากตึกสูงด้วยหัวใจที่แตกสลาย

ร.ป.ภ เปิดแผงกั้นทางออกแทบไม่ทัน เช้าสดใสหายไปกับความเศร้า สมองที่สับสนงุนงงพยายามหาคำอธิบาย แต่ด้วยภาพที่เธอเห็น จะให้คิดเป็นอื่นไปไม่ได้เลย

เธอเหยียบคันเร่งรถจนสุดแรงด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน

น้ำตาไหลรินเป็นสายไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าเหตุการณ์อย่างนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเองสองข้างทางรถยังบางตา แพรวาไม่รู้ว่าตัวเองเสียใจมากแค่ไหนปล่อยให้อารมณ์ที่กำลังครุกรุ่นครอบงำร่างกาย สายตาพร่ามัวนั้นทำให้ความสามารถในการมองเห็นลดลง

“เอี๊ยด เอี๊ยด โครม ปัง”

เธอขับรถชนแท่งซีเมนต์หรือแท่งบาริเออร์บนถนนเป็นผลให้รถหมุนคว้าง ด้วยความเร็วของรถทำให้มีแรงมหาศาลพุ่งเข้าชนราวสะพานเต็มแรงรถพลิกคว่ำ แล้วหงายหลัง แรงเหวี่ยงส่งผลให้รถคันเล็กของเธอพลิกตกลงไปยังแม่น้ำเบื้องหน้า ศีรษะกระแทกบริเวณคอนโซลหน้ารถตัวเธอหมดสติพร้อมกับรถที่ลอยละลิ่วสู่แม่น้ำเย็นเฉียบ