บทที่ 1 อดีตที่ข้าเคยเป็น
บทที่ 1
...อดีตที่ข้าเคยเป็น...
...หลี่จิ้ง...
เมื่อายุ 17 ปี ข้าได้เป็นเพียงนายทหารยศต่ำที่มีหน้าที่เพียงเฝ้าอยู่หน้าประตูเมือง
เมื่ออายุ 18 ปี ได้มีโอกาสตามเสด็จไปงานล่าสัตว์ของเชื้อพระวงศ์และคุณหนูคุณชายผู้ร่ำรวยแล้วในตอนนั้นข้าก็ได้มีโอกาสช่วยเหลือฝ่าบาทที่ถูกลอบทำร้าย
เมื่ออายุ 19 ปี ได้เลื่อนขั้นเป็นองค์รักษ์ประจำตัวของฝ่าบาท
เมื่ออายุ 20 ปี ได้เลื่อนขั้นจากองครักษ์ประจำตัวเป็นเมียบ่าวประจำตัวของฝ่าบาทโดยไม่ให้ใครรู้
จวบจนตอนนี้ เมื่อายุได้ 26 ปี ข้าก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งฮองเฮาที่ฝ่าบาทพระราชทานให้ได้กลายเป็นเมียหลวงเป็นแม่ของแผ่นดิน
ตอนนี้ ข้าอายุ 31 ปี น้องสาวของข้าน้องห้าของข้า ต้องตายเพราะช่วยสามีที่นางรักแต่กลับอับโชคสามีไม่ยอมทำพิธีศพให้ และวันเดียวกันข้าก็ต้องแตกหักกับคนที่ข้ารัก
"องค์ชายหลี่จิ้ง องค์ชายตั้งครรภ์ได้สี่เดือนแล้วพะยะค่ะ"
"หมอหลวงท่านตรวจใหม่ดูสิ ข้าเป็นบุรุษจะตั้งครรภ์ได้เช่นไร"
"นั้นสิบุตรชายของข้าจะตั้งครรภ์ได้อย่างไรในเมื่อเขาเป็ยบุรุษ"
"หลังจากตรวจชีพจรกลับพบสองชีพจร เต้นแยกกันนั้นหมายความว่าเป็นชีพจรของสตรีตั้งครรภ์อย่างแน่นอน"
"บ้ากันไปหมดแล้วมันไม่ใช่เนื่องจริงมันไม่ควรเกิดขึ้น!!"
"ท่านพี่ใหญ่ ท่านใจเย็นๆก่อนนะตอนนี้ในเมื่อเขาเกิดมาแล้วก็ต้องรักและดูแลเขา"
"หลิวหยางพี่ไม่อยากได้เขา พี่ไม่ต้องการเขา"
"แต่เด็กคนนี้ต้องการเจ้า หลี่จิ้ง!! เจ้าเป็นแม่ของเขาแล้วจะทิ้งเขาหรือฆ่าเขาไม่ได้แม่ขอสั่งห้ามเจ้าห้ามทำร้ายบุตรของตัวเองเด็ดขาดและถ้าเด็กคนนี้เป็นอะไรไปแม่ไม่ปล่อยเจ้าแน่นอน"
"ท่านแม่..."
"คนเราเกิดมาเพราะชะตาฟ้าลิขิตจงจำเอาไว้ลูกคือสมบัติที่มีค่า อีกเดียวพ่อของเจ้าจะเข้ามาหาเจ้าคุยกับเขาสักเล็กน้อยก็ได้"
"ท่านพ่อเสี่ยวเฟิ่งหรือ"
"เปล่า พ่อจริงๆของเจ้า"
"......"
"ข้าขอเข้าไปหน่อยนะ"
"เชิญท่าน"
"ข้าเอาของฝากจากย่าเจ้ามาให้เจ้า"
"ขอบคุณ"
"ข้า...มาเยี่ยมเจ้า เจ้าเป็นเช่นไรบ้าง"
"ข้าสบายดี เจ้ากรมอาญาไม่ต้องห่วงไปหรอกข้าไม่ได้เป็นอะไรมากข้าแค่ตั้งครรภ์เท่านั้นไม่ได้มีอะไรมาก"
"บาดแผลที่หลังเจ้าหายดีแล้วหรือ"
"เกือบหายสนิทแล้ว"
"ข้า..."
"ท่านมีเรื่องอะไรอีกหรือ"
"ข้าเป็น..."
"เป็นใครงั้นหรือ"
ข้าปรายตามองอีกฝ่าย ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น บิดาผู้ให้กำเนิด เป็นพ่อที่แท้จริงของข้า เขาเป็นเจ้ากรมอาญา ที่เคร่งครัดกฎหมาย แต่ไม่สามารถ ที่จะ เคร่งครัดเรื่องความ มักมากในกามของเขาได้ ไม่ใช่ว่าข้าจะไม่รู้ว่าเขาเป็นบิดา ข้ารู้มาตั้งแต่เด็ก ในตอนที่ข้าเป็นเด็ก เขาเอาขนมมากมายมาฝากข้า แล้วมักจะมาเล่นกับข้าวอยู่บ่อยครั้ง
แต่ข้าก็รู้ความ ว่าเขาไม่ใช่ คนที่ท่านแม่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยและท่านพ่อคนปัจจุบันของข้าก็รักข้ามาก เขาดีกับข้ามากเขาดีกับข้าเหมือนกับข้าเป็นลูกของเขาจริงๆ เขาไม่เคยเสแสร้ง แกล้งทำ เป็นว่ารักข้าเลยสักครั้ง ในเมื่อข้าอยากได้อะไร ไม่ว่าข้า อยากได้อะไรเขาก็จะหามาให้ ทันที โดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆหรือคำว่าเป็นไปไม่ได้จากปากของท่านพ่อเลย
"แค่เจ้าสบายดี ข้าก็ดีใจแล้ว เจ้ารักษาตัวด้วยนะ ข้าเป็นห่วง"
"ขอบคุณที่เป็นห่วงข้า...ท่านพ่อ"
"หลี่จิ้ง...เจ้าเรียกข้าว่าพ่องั้นหรือ...เจ้าเรียกข้าว่าพ่อจริงๆใช่มั้ย"
"ก็ท่านเป็นพ่อที่ทำให้ข้าเกิดมาแต่ไม่ได้เลี้ยงยังไงก็ถือว่าเป็นพ่ออยู่ดี"
"ข้า...ไม่สิ พ่อต้องกลับแล้วเจ้าพักผ่อนเยอะๆนะเจ้าจะได้หายเร็วๆรักษาตัวเองด้วย"
"ขอบคุณในความหวังดีของท่าน"
"พ่อไปแล้วนะ"
ท่านพ่อเสี่ยวเฟิง เดินเข้ามาพร้อมกับหยดน้ำตา พี่ปลื้มปิติ เมื่อเห็นข้าเรียกพ่อจริงๆของข้าว่าพ่อ ข้ารู้มาตลอด ว่าท่านพ่อเสี่ยวเฟิง แอบมายืนในห้องตั้งนานแล้วก็รอฟังว่าข้าจะเรียกพ่อจริงๆว่าพ่อหรือเปล่า
"ท่านพ่อท่านมานานแล้วหรือร้องไห้ทำไมกัน"
"พ่อซึ่งใจที่เจ้าไม่รังเกียจพ่อจริงของตัวเอง"
"ท่านพ่อคิดมากไปแล้วนะ"
"หลี่จิ้งลูกรักของพ่อ ฮือออๆ"
"ท่านพ่อจะร้องทำไมข้ายังไม่ตายเสียหน่อย"
"พ่อดีใจที่เจ้าตั้งครรภ์แล้วอีกเดียวลูกสี่คลอดเจ้าก็จะคลอดตามมาอีกคนพ่อจะได้เลี้ยงหลานกันเพิ่มขึ้นอีกพ่อเหงา พ่ออยากเลี้ยงหลาน"
"ท่านพ่อนี้ก็นะ"
"พ่อเอาขนมอบมาฝากเจ้าลองชิมดู"
"อืม อร่อยจังท่านทำเองหรือ"
"เปล่าหรอกมารดาเจ้าเป็นคนทำนางชอบทำขนมมาให้พ่อบ่อยๆ"
"ท่านพ่อข้าไม่อิจฉาท่านหรอกนะที่ได้นางร้ายเป็นภรรยา มีอนุไม่ได้มีภรรยาคนอื่นๆก็ไม่ได้"
"พ่อไม่ต้องการคนอื่นพ่อรักแค่มารดาเจ้าคนเดียว ต่อให้นางเดินทางผิดพ่อก็นจะคอยดูแลและคอยดึงนางกลับมาอยู่เสมอ ต่อให้นางร้ายมากแค่ไหนแต่ถ้าพ่อไม่ทำให้นางเสียใจ นางจะร้ายกับพ่อมั้ยล่ะ"
"แม้ท่านพ่อ อวยภรรยาตัวเองเก่งนักนะ"
"เจ้าล่ะ ตั้งครรภ์แบบนี้สามีเจ้าที่เป็นฮองเต้แคว้นเว่ยล่ะเข้ารู้มั้ย แล้วเจ้าจะบอกเขามั้ย"
"ข้าคงไม่บอกเพราะถึงบอกไปคนที่เขาแคร์ก็คือคนสกุลเหรินเท่านั้นข้าไม่อยากจะเสวนาด้วยต่อให้มีเขาคนเดียวในโลกข้าก็ไม่มีวันกลับมาคืนดีกับเขาเด็ดขาด"
"ปากเก่งไปพอเขามาง้อเดียวก็ใจอ่อนกลับไปกับเขา"
"ข้าไม่มีทางกลับไปกับเขาเด็ดขาด องครักษ์หลี่จิ้งไม่มีอีกแล้วมันตายไปตั้งแต่ถูกสั่งประหารไปแล้ว คนอย่างข้าเดินหน้าไม่มีทางถอยหลังเป็นอันขาด"
"พ่อก็ไม่อยากพูดอะไรมากนักแต่พ่ออยากให้เจ้าคิดให้ดีๆถ้ายังรักก็กลับไปปรับความเข้าใจกันเจ้าจะได้รู้สึกดีกว่าที่เป็น"
"ข้าจะเก็บเอาไปคิดดู"
สายลมพัดมาผมยาวสลวยปลิวสยายตามแรงของลมที่พัดมา ข้าเป็นเด็กเพียงสิบเจ็ดปีเนื่องด้วยความลำบากของครอบครัวข้าที่เป็นพี่คนโตกับน้องแค่ไม่กี่ขวบ อีกสองคนข้าต้องหาเลี้ยงน้องสาวทั้งสองคนหนึ่งวัยแค่ เจ็ดขวบแต่เป็นใบ้พูดไม่ได้อีกคนแค่เพียงหกขวบ ทำอะไรไม่ได้ข้าที่เป็นพี่จึงต้องคอยดูและน้องๆ ตอนนี้วังหลวงต้องการทหารมากขึ้นข้าที่เก่งการต่อสู้จึงมาสมัคเข้าเป็นนายทหาร ข้าได้รับหน้าที่มาเฝ้าประตูวังหลวงทำเพียงแค่นั้นไปได้ออกไปที่ใดข้าเริ่มทำงานตอนเช้า จนถึงเย็นแล้วก็เปลี่ยนเวณกันข้าทำเช่นนี้มาเป็นเดือนได้เงินเยอะขึ้นตามเวลาที่ข้าทำงาน
น้องสาวของข้าก็เริ่มปลูกผักเอาไว้ขายบ้านของพวกเราสามคนเป็นบ้านไม้จะเรียกบ้านก็ไม่ถูเรียกว่ากระท่อมยังดีกว่า ในตอนนั้น น้องสาวที่เป็นใบ้ของข้าเกิดอาการชักอย่างรุนแรงจนต้องหาหมอมารักษา แต่ความยากจนของข้าทำให้น้องสาวของข้าอาการแย่ลงกว่าเดิม ข้าเลยตัดสิ้นใจลากิจกับทางหัวหน้านายทหารว่าข้าจะกลับบ้านเกิดสักสิบวัน แล้วจะรีบกลับ
หลังจากลากับหัวหน้าเสร็จข้ารีบขี่ม้าไปยังจวนสกุลหลี่ ที่ตอนนี้กลายเป็นจวนร้างไปแล้วแต่ว่าของที่ข้าและน้องคนอื่นๆฝังเอาไว้ยังคงอยู่ข้าเห็นร่องรอยมีคนมาขุดเอาสมบัติที่พวกเรามาฝั่งเอาไว้ ที่ตรงนั้นเป็นของน้องรองกับน้องสาม แสดงว่าน้องรองกับน้องสามยังไม่ตายถึงได้มาเอาสมบัติที่ฝั่งเอาไว้ ข้าขุดสมบัติของข้าและของเจ้าสี่กับเจ้าห้าออกมา และเอาใส่บนรถม้าที่ข้าเตรียมเอาไว้
ข้าขนสมบัติของข้าขึ้นรถม้าข้ารู้เส้นทางที่ไม่มีโจรที่มารอดักปล้น แม้จะอ้อมไปบ้างอย่างมากเสียเวลาแค่ไม่กี่วัน แต่การที่ข้าทำเช่นนี้เพราะถึงช้าแต่ก็ปลอดภัย
"ท่านพี่กลับมาแล้ว"
"เจ้าห้า เจ้าสี่เป็นไงบ้าง"
"ท่านหมอตรวจท่านพี่สี่อยู่ทท่านพี่ใหญ่หิวมั้ยข้าจะไปเอาโจ๊กมาให้ท่านกิน"
"พี่กินมาแล้ว ไปกับพี่พี่จะพาไปที่หนึ่ง"
"เจ้าค่ะ"
"สมบัติพวกนี้พี่จะเอาไปรักษาน้องสี่และเอาไว้ให้เจ้าทั้งสองไว้ใช่สอยแต่ห้ามให้ใครรู้ว่าสมบัติอยู่ที่นี้นะ "
"เจ้าค่ะ"
"แล้วกล่องอันใหญ่ๆนั้นของใครเจ้าค่ะ"
"ของพี่เอง พี่จะเอาสมบัติพวกนี้ไปขาย ส่วนปิ่นนี้เป็นของท่านแม่พี่จะเก็เอาไว้น้อกนั้นพี่จะเอาไปขาย"
"เจ้าค่ะ"
"ส่วนที่เหลือพี่จะเอาไปฝั่งเอาไว้ ยามจำเป็นค่อยมาขุดเอาแต่ห้ามมาขุดจนกว่าจะใช้เงินเก่าหมดและห้ามทำตัวร่ำรวยเด็ดขาด"
"ท่านพี่ไม่เอาสมบัติของข้าไปขายล่ะเจ้าค่ะ"
"พวกเจ้าอีกไม่กี่ปีก็ต้องแต่งงานออกไปสมบัติพวกนี้จะกลายเป็นสินเดิมของพวกเจ้าพี่ไม่ขายหรอก"
"ท่านพี่"
"เอาล่ะพวกเราฝั่งสมบัติพวกนี้ก่อนแล้วค่อยเอาสมบัติของพี่ไปขาย"
"เจ้าค่ะ"
ข้าฝั่งสมบัติเสร็จแล้วพาน้องห้าไปขายสมบัติบางส่วนไม่ได้ขายทั้งหมดถ้าขายหมดก็จะใช้หมดเมื่อได้เงินมาก็เอามารักษาน้องสี่ที่นอนนิ่งบนเตียงไม้เก่าๆ ข้าเป็นบุรุษก็จริงแต่ข้าเข้าจความรู้สึกของสตรีดีว่าเป็นเช่นไร
1 ปีต่อมา
ในเวลา 1 ปีที่ผ่านมาข้าก็ยังอยู่ที่ประตูวังยังไม่มีโอกาสตามเสด็จแต่อย่างใดแต่เหมือนข้าจะมีโชคเรื่องนี้เลยที่เดียวเมื่อวันหนึ่งขณะที่ข้ากำลังยืนเฝ้าประตูอยู่นั้นก็มีนายทหารที่เป็นหัวหน้าข้าเดินมาหาข้า
"หลี่จิ้ง เจ้าไม่ร้อนหรือเอาผ้าปิดหน้าออกก็ได้"
"คาราวะ หัวหน้าเจิน"
"ดวงตาเจ้าสวยจริงๆ"
"หัวหน้าเจินมีเรื่องอะไรหรือขอรับ"
"อ้อจริงสิข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า วันพรุ่งนี้จะมีงานล่าสัตว์เจ้าอยากตามเสด็จไปล่าสัตว์หรือไม่"
"ข้าอยากไปขอรับ"
"งั้นก็ไปเถอะข้าส่งชื่อให้เจ้าเองพรุ่งนี้เตรียมของได้เลย"
"ขอรับ"
"ข้าเห็นแก่ที่เจ้าทำงานมานานเลยให้เจ้ามีโอกาสที่ดีหรอกนะคนงาม"
"ขอบคุณขอรับ"
"ทำงานต่อเถอะ"
"ขอรับ"