บทที่ 5 ท่านพี่กลับมาแล้ว
"ฮูหยินชราอาจไม่เชื่อข้าในยามนี้ แต่หากท่านไม่เชื่อข้าจะเกิดเรื่องไม่ดีในจวนในเวลาอันใกล้ ผู้ใดผู้หนึ่งอาจมีอันตรายและยังเป็นคนสำคัญของจวน ซึ่งจะเกิดเรื่องไม่เกินสิบวันข้างหน้านี้"
ฮูหยินชราส่ายหน้า
"ข้ารู้ว่าท่านนักพรตมากความสามารถแต่ว่าสตรีนางนั้นมีดวงอัปมงคล ไม่อาจปล่อยให้นอนกับบุตรชายของข้าได้จริง ๆ ส่วนเรื่องที่ท่านเตือนเอาไว้ข้าจะระมัดระวังเจ้าค่ะ"
นักพรตจูกังไม่เอ่ยคำใดอีก เขามอบยันต์ป้องกันอันตรายให้ฮูหยินชราพกติดกายจากนั้นจึงจากไป
หลังจากวันเกิดของฮูหยินชราฟู่เฉาก็ต้องจากจวนของตนเองไปค้าขายที่ต่างอำเภอเป็นเวลาสิบวัน
ความจริงหลังจากที่เกิดเรื่องคำทำนายของตนเองเขาเคยพูดคุยกับมารดามาแล้วในเรื่องของหลี่เหมียนเหมียนแต่มารดาของเขาเป็นคนเด็ดขาด เขาเองก็ได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดีกับมารดาเขาจึงไม่กล้าขัดใจท่านแม่
ฟู่เฉาเป็นบุรุษรูปงามที่มีนิสัยอ่อนน้อมถ่อมตนเอง ถึงแม้ว่าเขาจะเก่งค้าขายแต่ก็ไม่เคยเป็นพ่อค้ามากเล่ห์ต่อผู้อื่น นิสัยของเขานั้นดียิ่งเสียแต่เป็นคนที่เคารพมารดาและเชื่อฟังจนเกินไปนั่นเป็นเพราะฮูหยินชราเลี้ยงดูเขาและน้องสาวทั้งสองมาอย่างยากลำบากเพราะนางสูญเสียสามีด้วยโรคร้ายไปตั้งแต่พวกเขายังเด็ก
ในระหว่างที่เขายังอยู่ต่างเมืองเขาก็ได้รับจดหมายด่วนจากมารดาว่าหลานสาวของเขาหลันเอ๋อร์ซึ่งเป็นบุตรสาวของน้องสาวนั้นตกน้ำจนเกือบจะเสียชีวิต
น้องสาวของเขาฟู่หงเป็นสตรีหม้ายหลังแต่งงานกับสามีซึ่งเป็นบุตรชายนายอำเภอไปได้เพียงสามปีก็หย่าขาด ทำให้นางต้องกลับมาอยู่บ้านเดิมและอุ้มท้องบุตรสาวนามหลันเอ๋อร์มาด้วย ตั้งแต่หลันเอ๋อร์คลอดออกมาก็เป็นแก้วตาดวงใจของคนในจวน
เมื่อเกิดเรื่องกับหลานสาวเขาจึงไม่รอช้ารีบสั่งคนของเขาเก็บข้าวของและรีบกลับไปยังเมืองหลวงให้เร็วที่สุด
ทุกเรื่องล้วนอยู่ในคำทำนายของนักพรตจูกัง ฮูหยินผู้เฒ่ายิ่งนับถือนักพรตผู้นี้และเคลือบแคลงสงสัยกับคำทำนายเดิมที่ซินแสผู้นั้นทำนายเอาไว้
แต่นางหาตัวซินแสไม่พบแล้วจึงไม่อาจเสาะหาได้ว่าเป็นซินแสจริงหรือปลอมที่ถูกจ้างวานมาใส่ร้ายคน
หลี่เหมียนเหมียนยังได้ให้คำทำนายอนาคตแก่นักพรตจูกังไปอีกหลายอย่าง ซึ่งเรื่องสำคัญก็คือเรื่องภัยพิบัติเรื่องเขื่อนกำลังจะแตกที่ใกล้จะมาถึง
นักพรตจูกังมองนางด้วยความรู้สึกนับถืออยู่ในใจ ถึงเขาจะไม่รู้อนาคตแต่เขาก็รู้ดวงชะตาคน สตรีนางนี้มิใช่สตรีธรรมดามีวาสนาที่ดีนัก และคนที่จะส่งเสริมเขาที่แท้จริงมิใช่อาหมินแต่คือหลี่เหมียนเหมียนผู้นี้ต่างหาก
แต่หลี่เหมียนเหมียนบอกกับเขาว่า
"ขอเพียงเจ้าดีกับอาหมินของข้า ไม่ว่าคำทำนายใดข้าล้วนมอบให้เจ้าได้ทั้งหมด เจ้าว่าอย่างไรยินดีจะดีกับบ่าวของข้าหรือไม่"
นักพรตผู้นี้แม้จะเป็นนักพรตเต๋าผู้เคร่งครัดแต่เขาก็ชอบอำนาจยิ่งนัก มีของดีที่สุดอยู่ในมือเขาจะปล่อยไปได้อย่างไร ไม่ว่าหลี่เหมียนเหมียนจะสั่งให้เขาทำเรื่องอันใดเขาย่อมยินดี
เพราะคำทำนายของนักพรตเป็นจริง ครานี้ฮูหยินชราจึงบริจาคเงินเข้าสำนักพรตจูกังเป็นจำนวนเงินไม่น้อย ชื่อเสียงของเขาเลื่องลือไปทั่ว นักพรตจูกังยังได้ป่าวประกาศให้ประชาชนระวังเรื่องเขื่อนแตกที่จะเกิดขึ้นไม่เกินสามเดือนข้างหน้า ประชาชนตื่นตัวหวาดผวาและทำให้นักพรตจูกังถูกจับ
แต่เรื่องนี้หลี่เหมียนเหมียนได้บอกกับเขาแล้ว
"ท่านอาจจะถูกราชสำนักจับกุมตัว ขอให้ท่านไปกับทหารอย่างสงบเวลานั้นข้าจะส่งคนจำนวนมากไปส่งท่าน พร้อมกับคุกเข่าขอบคุณคำทำนายของท่านที่ทำให้พวกเขาเตรียมตัวได้ทัน ฝ่าบาทไม่อาจสังหารท่านจนกว่าจะล่วงพ้นสามเดือนเชื่อฟังคำของข้า ต่อไปท่านจะได้รับการยกย่องจากฝ่าบาท ถึงเวลานั้นก็อย่าลืมข้าก็แล้วกัน อีกทั้งท่านต้องรับอาหมินของข้าเป็นฮูหยินเอกให้นางอยู่ในตำแหน่งที่สูงที่สุด"
หลังจากจูกังถูกจับกุมตัวไปแล้ว ฟู่เฉาก็กลับถึงจวน
เมื่อกลับมาถึงเขาต้องแปลกใจเพราะภรรยาเอกของเขากำลังยืนรอรับเขาอยู่หน้าจวนพร้อมทั้งภรรยารองทั้งสอง เขาจ้องใบหน้าของหลี่เหมียนเหมียนด้วยความประหลาดใจยิ่งนัก
"เจ้าไม่ถูกท่านแม่ลงโทษแล้วหรือ"
หลี่เหมียนเหมียนขยับกายเข้าไปใกล้เขา มือคว้าแขนของสามีเอาไว้จากนั้นก็บีบเบา ๆ คล้ายจะให้กำลังใจ จากที่นางอ่านนิยายมาฟู่เฉาเป็นบุรุษหนุ่มรูปงามแต่เรื่องกิจกรรมบนเตียงกลับไร้สามารถ นางจึงคิดว่าเขาจะจืดชืดแต่เมื่อเห็นใบหน้านี้ก็ให้รู้สึกว่าร่างกายร้อนผ่าว
นั่นเป็นเพราะความหล่อเหลาแบบสุภาพชนของเขาทำให้นางซึ่งไม่เคยพบเห็นมาก่อนถูกตาต้องใจยิ่งนัก
เวลานี้ได้จับแขนจับนิ้วเรียวของสามี พบว่านิ้วของเขามิได้นุ่มนิ่มแต่กลับหยาบกร้านเหมือนคนที่จับมีดดาบมาช้านานแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นวรยุทธ์เหมือนที่นิยายกล่าวไว้ หากว่านิ้วได้รู้จักลูบสัมผัสนางอย่างถูกต้องคงเร้าอารมณ์น่าดู
นางคิดในใจว่า
'ไม่ต้องห่วงนะน้องชาย พี่สาวคนนี้จะสอนให้เจ้าอย่างดี นางแอบประเมินกล้ามท้องของเขาอย่างเร้าใจ อา...ด้วยรูปร่างเช่นนี้กล้ามท้องคงสวยจนนางอยากลูบเสียแล้ว'
ในใจของนางคิดลามกกับสามีไปไกล นิ้วก็ไต่ไล้ช้า ๆ จนทำให้จู่ ๆ หัวใจของฟู่เฉาบังเกิดอาการเต้นระรัว เขารู้สึกว่าภรรยาเอกของเขางดงามขึ้นผิดหูผิดตา นางถูกกักขังมามิใช่หรือไยใบหน้าจึงสดใสได้เพียงนี้
เขาเอ่ยถามนางอีกครั้ง
"เหมียนเหมียนท่านแม่ยอมปล่อยเจ้าแล้วหรือ"
หลี่เหมียนเหมียนส่งยิ้มหวาน ริมฝีปากแดงสดเอ่ยน้ำเสียอ่อนหวานเย้ายวน
"ท่านแม่เมตตาเหมียนเหมียนยิ่งนักเจ้าค่ะ ท่านพี่ไม่ต้องห่วง"
เอ่ยจบนางก็เขี่ยมือเขาเบา ๆ ตรงจุดที่ทำให้ชีพจรของผู้ชายเต้นระรัวและกระตุ้นกำหนัด ทั้งกลิ่นกายของนางที่นางเฝ้าอบร่ำก็ยังเป็นกลิ่นกระตุ้นกามารมณ์อย่างที่ฟู่เฉาชอบตามที่นักเขียนได้บรรยายเอาไว้
กิริยาหาญกล้าและยั่วเย้าของนางทำให้เขายิ่งประหลาดใจ เหมือนว่าหลี่เหมียนเหมียนสตรีขี้อายคนเดิมที่ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามองเขาคนนั้นกลายเป็นหลี่เหมียนเหมียนที่แสนเร้าใจไปแล้ว
ท่าทางชูคอของหลี่เหมียนเหมียนทำให้อนุฮัวโกรธแค้นยิ่งนัก ก่อนหน้านี้ไยสตรีนางนี้รอดมาได้ทั้ง ๆ ที่นางสั่งให้คนวางยาพิษไปแล้วแท้ ๆ ก็ยังหน้าด้านไม่ยอมตาย เวลานี้ยังกลายเป็นคนที่ฮูหยินชราโปรดปรานไปเสียอีก
อนุหลงกระซิบเบา ๆ ข้างหูอนุฮัว
"พี่หญิงฮัว ไยนางจึงได้เปลี่ยนไปเช่นนี้"
อนุฮัวกัดฟันตอบเสียงเกรี้ยวกราด
"เจ้าถามข้าแล้วข้าจะถามผู้ใด"
หลี่เหมียนเหมียนบัดนี้มองอนุทั้งสองด้วยสายตาเยาะหยันราวกับจะบอกอนุฮัวและอนุหลงว่า
'เรื่องที่หลี่เหมียนเหมียนคนเดิมได้รับความลำบากเพราะพวกเจ้าทั้งสอง ข้าคนนี้จะให้พวกเจ้าชดใช้ให้หมด"