บทที่ 1 เรื่องวุ่นวายในคืนเข้าหอ
บทที่ 1
เรื่องวุ่นวายในคืนเข้าหอ
ในห้องหอที่ควรจะมีแค่คู่บ่าวสาว บัดนี้กลับมีคนมากมายเดินเข้าออกกันอยู่หลายรอบ คราแรกเป็นท่านหมอที่เข้ามาตรวจดูอาการ คนที่สองคือผู้นำตระกูลเหอ 'เหอหมิงเจ๋อ' เสนาบดีกรมยุติธรรม และถัดมาก็เป็นแม่ทัพไป๋แห่งทิศอุดร เขาสละเวลาอันมีค่าจากชายแดนเพื่องานมงคลของบุตรสาวคนโต ทว่ากลับมีเรื่องเกิดขึ้นที่ยากจะคาดคิดเอาเสียได้
"เจ้าตั้งใจฆ่าตัวตายจริงหรืออวี้เอ๋อร์"
แม่ทัพไป๋เอ่ยถามบุตรสาวน้ำเสียงคร่ำเครียด หากเป็นจริงดั่งที่ได้ยินมาก็นับว่าบุตรสาวของเขาโง่เขลานัก
ไป๋อวี้มองคนที่ยืนอยู่ในห้องหอด้วยท่าทีที่พยายามจะทำให้สงบที่สุด นางใช้เวลาใคร่ครวญไม่นานก็รู้ว่าแท้จริงตัวเองคือใคร และพวกเขาคือใคร นี่ถือเป็นตลกร้ายที่นางได้เข้ามาอยู่ในนิยายที่ยังแต่งไม่จบ ฉะนั้นแล้วนี่ถือเป็นการแสดงละครชีวิตครั้งใหญ่ที่สุดในฐานะอดีตนักแสดงชื่อดัง
"ไม่ใช่เจ้าค่ะ ฉัน เอ่อ... ลูกทานขนมแล้วคอแห้งจึงคิดจิบสุราเท่านั้น ทว่า... สุรานี้กลับมีพิษ มีคนจงใจคิดจะสังหารลูกเจ้าค่ะ ลูกจึงกระอักเลือดออกมาแล้วหมดสติไปครู่หนึ่ง โชคดีที่... เอ่อ ตัวลูกต้านพิษชนิดนี้ได้เจ้าค่ะ"
นางจะพูดได้อย่างไรว่าบุตรสาวที่แท้จริงได้ตายไปแล้ว ส่วนนางคือวิญญาณที่เข้ามาสวมร่างแทน ที่สำคัญพิษที่พรากวิญญาณของไป๋อวี้ตัวจริงไปได้สลายหายไปหมดสิ้นแล้ว แม้แต่ท่านหมอที่มาตรวจอาการก็ยังไม่สามารถตรวจสอบได้
นี่คือประโยคยาวเหยียดที่ไป๋อวี้คนใหม่ได้เอ่ยออกมาเป็นครั้งแรก ท่าทีที่ดูสงบของนางไม่โวยวายเหมือนคราแรก ยิ่งทำให้เจ้าบ่าวเกิดความประหลาดใจ
"มิใช่ว่าเจ้าไม่อยากแต่งงานกับข้าหรือ"
'เหอซีหยาง' บุตรชายเพียงคนเดียวของเหอหมิงเจ๋อเอ่ยขึ้น เขาไม่เชื่อว่าที่จวนของเขาจะมีคนลอบเข้ามาวางยาพิษได้ ไม่ใช่ว่านางแสร้งสร้างเรื่องเพื่อเรียกร้องความสนใจจากทุกคน และถือโอกาสกล่าวว่าจวนของเขาไม่ปลอดภัยจึงจะขอยกเลิกงานแต่งงานเล่า
หึ! แผนการตื้นเขินเช่นนี้ เขามองออกแล้ว
"ใครบอก ฉะ... ข้าไม่อยากแต่งงาน" คิ้วเรียวเลิกขึ้น นางมองหน้าผู้ได้ชื่อว่าเป็นสามีอย่างท้าทาย แม้ว่าเขาจะมองไม่เห็นนางก็ช่างเถิด
สกิลการชอบดูซีรีส์และอ่านนิยายเป็นประจำ ในที่สุดก็ได้นำออกมาใช้สักที ไม่เสียแรงที่นางชอบดูท่านกั๋วกงจนตาดำเป็นหมีแพนด้า เกือบตื่นไปทำงานไม่ทัน
"..."
ภายในห้องหอพลันเงียบเสียงลง แล้วหันมาจ้องหน้าไป๋อวี้เป็นตาเดียว มิใช่ว่าก่อนหน้านี้นางเคยพูดออกมาว่าไม่อยากแต่งงานกับเหอซีหยางไม่ใช่หรือ แล้วเหตุใดนางถึงได้พูดกลับไปกลับมาเช่นนี้กันเล่า
"เจ้าหมายจะพูดว่าอะไร"
"ข้าไม่ใช่ว่าไม่อยากแต่งงานกับท่าน ถึงแม้ว่าท่านจะตา... เอ่อก็เถอะ แต่เพราะท่านมีความสามารถ อีกทั้งยังรูปงามถึงเพียงนี้ การได้แต่งเป็นภรรยาให้ท่านก็นับว่าไม่เลวเลย จริงหรือไม่เจ้าคะท่านพ่อ"
ไป๋อวี้หันไปหาบิดาเพื่อให้เขาช่วยพูด
"ฮะฮ่า อวี้เอ๋อร์กว่าได้ถูกต้องแล้ว ในเมื่อเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน เช่นนั้นพวกเราก็ปล่อยให้คู่บ่าวสาวได้อยู่กันตามลำพังเถิด ส่วนเรื่องที่อวี้เอ๋อร์ถูกพิษ อย่างไรก็ต้องหาตัวคนทำมาให้ได้"
"ฮ่าฮ่า นั่นสิ ๆ นี่ก็จะเลยฤกษ์ยามอันดีแล้ว เรารีบออกไปเถอะ อวี้เอ๋อร์พ่อขอฝากอาหยางให้เจ้าดูแลด้วยนะ จะให้ดีพ่อขอมีหลานเร็ว ๆ เลย"
เหอหมิงเจ๋อผู้เอ็นดูไป๋อวี้กล่าวออกมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เขาเดินเข้ามาลูบศีรษะนางก่อนจะชวนทุกคนให้ออกไปจากห้องหอ ท่านหมอเองก็บอกว่าไป๋อวี้ไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว เช่นนั้นพวกเขาก็สมควรออกไปเพื่อให้ทั้งสองได้ใช้ค่ำคืนวสันต์ร่วมกันเสียที
"ท่านพ่อ" เหอซีหยางเอ่ยเรียกบิดา
"อย่าได้ทำให้ตระกูลเหอของเราผิดหวัง เข้าใจหรือไม่อาหยาง" คำพูดนี้ได้ยินเพียงแค่สองคนเท่านั้น
"ขอรับ" เหอซีหยางขานรับด้วยความจำยอม
ทุกคนตบเท้ากันเดินออกไปจากห้องหอ ทิ้งให้คู่บ่าวสาวอยู่ด้วยกันตามลำพัง เมื่อไม่มีผู้ใดอื่นอีก เหอซีหยางก็คลำทางอย่างสะเปะสะปะไปยังห้องอาบน้ำ เขาสามารถช่วยเหลือตัวเองได้เป็นอย่างดี จนแม้แต่ไป๋อวี้ยังอดจะรู้สึกแปลกใจไม่ได้ ด้วยท่าเดินของเขาดูมั่นคงนัก
เสียงอาบน้ำดังขึ้นจากหลังฉากกั้นอยู่ครู่หนึ่ง ไม่นานร่างสูงกำยำที่สวมเพียงกางเกงเนื้อบางสีขาวก็เดินออกมา เส้นผมสีดำขลับเปียกลู่ไปตามกรอบใบหน้าคมสัน ไป๋อวี้ที่มองอยู่ก่อนแล้วอดจะรู้สึกหายใจติดขัดไม่ได้
สามีผู้นี้... รูปโฉมงดงามนัก ใบหน้าหล่อเหลาเป็นรูปไข่ กรอบหน้าชัดเจนโดยเฉพาะสันกรามที่ขึ้นนูนเด่นจนนางรู้สึกใจหวิว คิ้วกระบี่คมเข้มพาดเฉียงเหนือดวงตาคู่คมสีดำเข้ม ไล่ลงมาที่จมูกโด่งเรียวสวย รับกับริมฝีปากหยักหนาอวบอิ่มสีแดงระเรื่อน่าจูบ
อ่า... เขาหล่อเหลาเสียจนหัวใจของนางเต้นระรัวจนรู้สึกได้ นางคิดว่าใบหน้าของเขานั้นสามารถล่อลวงสตรีได้อย่างง่ายดาย แต่ถ้าเทียบกับหน้าท้องแกร่งที่เป็นลอนคลื่นอย่างสวยงามนี้ นางกลับรู้สึกว่านี่สิคือหุ่นผู้ชายที่ผู้หญิงต่างใฝ่ฝันถึง ที่นี่ไม่มียิม ไม่มีฟิตเนส ไม่มีโค้ชมาช่วยเรื่องปั้นกล้าม ปั้นหุ่น แต่เหตุใดกล้ามเนื้อของสามีนางถึงได้ดูกำยำน่าลูบไล้ขนาดนี้กันล่ะเนี่ย
โอ๊ย... น้ำลายไหล!!
ไป๋อวี้เช็ดน้ำลายที่ไหลออกมาจากมุมปากด้วยความว้าวุ่นใจ นางเหม่อมองเหอซีหยางด้วยแววตาแวววับ ในขณะที่เขาเองก็รู้สึกได้ถึงสายตาที่มองแทบจะทะลุเนื้อผ้าของเขาได้เช่นกัน ร่างสูงค่อย ๆ เดินมานั่งบนเตียงแล้วกระแอมไอออกมาเพื่อเรียกสติฮูหยินของตน
"เจ้ารีบไปอาบน้ำ ข้าจะนอนแล้ว"
"ให้ข้ารีบไปอาบน้ำเพื่อมาทำกิจกรรมระหว่างสามีภรรยาหรือ" นางเอ่ยถามด้วยดวงตาวาววับ แต่คนที่ได้ยินกลับอึ้งงันจนวางสีหน้าไม่ถูก
"เจ้าเลิกคิดเรื่องนั้นไปได้เลย ข้าจะไม่แตะต้องสตรีที่ร้ายกาจ เจ้ามารยาเช่นเจ้าเป็นอันขาด"
เหอซีหยางนึกถึงคำพูดที่ให้ไว้กับสหายที่เขาหลงรักมาตั้งแต่วัยเยาว์
'ข้าสัญญาว่าข้าจะไม่แตะต้องไป๋อวี้เป็นอันขาด ข้ารักเจ้าแต่เพียงผู้เดียว'
"ได้! ข้าน้อมรับคำพูดของท่านพี่เจ้าค่ะ"
ไป๋อวี้อมยิ้มตรงมุมปาก นางเดินไปยังหลังฉากกั้น แล้วสั่งให้บ่าวหน้าห้องมาเปลี่ยนน้ำในถังเสียใหม่ จากนั้นจึงลงไปแช่ตัวเพื่อเรียกสติของตนเองให้กลับคืนมา รวมถึงขบคิดเหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามาราวกับฝันหนึ่งตื่นนี้ เพื่อจะได้ก้าวเดินไปข้างหน้าต่อไปอย่างองอาจ!
คนอย่างไป๋อวี้ย่อมไม่อับจนหนทางเพียงเรื่องแค่นี้หรอก หึ ๆ!!