บทที่ 3 ไม่รับเงื่อนไข
"นายท่าน นายท่านเรียกนางมาให้รับโทษไม่ใช่หรือเจ้าคะ เหตุใดต้องมาถามนางด้วยเล่า ว่ากินข้าวรึยัง" ฮูหยินใหญ่อดหุบปากมิได้ ในเมื่อเรื่องราวไม่เป็นไปตามที่นางหวัง
"ใช่ ท่านพ่อต้องลงโทษนังสารเลวนี่"
เซียวเหยียนไม่ยอมเป็นอันขาด
สองคนนี้จะทำให้เเผนการใหญ่ เขาเสีย กระนั้นเขาจึงอดด่าพวกนางสองแม่ลูกไม่ได้
"หุบปาก!!! แล้วออกไป"
ไม่คาดคิดว่า เขาจะตะวาดสองแม่ลูก ทั้งสองคนพลันก้าวเท้า ออกไปจากห้องโถง เซียวหยางงเป็นไก่ตาแตก
ใบหน้าบิดามีความร้อนรน ราวกับมีเรื่องกังวลใจ
"ท่านพ่อ ข้าไม่หิวเจ้าค่ะ ข้าขอบคุณท่านพ่อที่เป็นห่วงเจ้าค่ะ" นางมองบิดา ดูท่าบิดาคงจะมีเรื่องกังวลเป็นแน่แท้
"ไม่หิวอย่างนั้นรึ เซียวหยา เจ้าแต่งเข้าไปใจจวนท่านแม่ทัพเเล้ว พ่อหวังว่า เจ้าจะดึงเขามาเป็นขุนนางฝ่ายพ่อให้ได้ เพราะพ่อ เป็นขุนนางฝ่ายองค์ชายสาม"
ว่าเเล้วเชียว ตาเฒ่าคนนี้ ช่างเจ้าเล่ห์นัก นางมีผลประโยชน์จึงพูดดีกับนาง เซียวหยาเเค่นยิ้ม ตาเฒ่าเห็นบุตรสาวยิ้มก็พลันโล่งอก บุตรสาวคงจะทำตามคำขอเป็นแน่แท้
"ต่อไปนี้ พ่อจะดีต่อเจ้าให้มากเเล้วกัน"
"ท่านพ่อ ข้ามิได้ตกลงนะ ที่จะให้ท่านแม่ทัพเป็นพวกเดียวกับท่าน อีกอย่างเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับราชสำนัก หาใช่เรื่องที่คุณหนูในห้องหับอย่างข้าสามารถ สอดมือเข้าแทรกได้ ท่านแม่ทัพเสิ่นเป็นคนฉลาด เขาคงไม่ต้องมาฟังคำสั่งของข้ากระมัง" นางหยุดหายใจแล้วพูดต่อ
"ข้าขอตัวลา"
"เจ้า นังลูกเนรคุณ" เซียวหยาไม่ฟังเสียงบิดา เดินออกจากห้องโถงรับรองอย่างสบายใจ นางจะไม่มีวันตกเป็นเครื่องมือของผู้ใดเป็นอันขาด
ค่ำคืนนั้นในค่ายทหารนอกเมือง เสิ่นจ้านมองดูกระต่ายน้อยในกรงอย่างมีความสุข เขาพลันชอบกระต่ายยิ่งนัก หานต่งเดินเข้ามาคำนับเจ้านาย
"เรียนท่านแม่ทัพ วันนี้เซียวอี้เรียก คุณหนูรองเข้าไปหา ให้นางเกลี้ยกล่อมท่าน เป็นพวกองค์ชายสาม แต่ทว่าคุณหนูรองปฏิเสธไป ทำให้ตาเฒ่าเซียวอี้พลันโกรธ นางมาก" เมื่อได้ยินหานต่ง รายงานเช่นนี้มุมปากหนาก็พลันยกยิ้มขึ้นมา คุณหนูรองเซียวหยา ช่างน่าสนใจจริง ๆ ยอมทะเลากับบิดา การแต่งงานครั้งนี้ เขาต้องทำดีกับนางเสียเเล้ว
"จับตาดูนางต่อไป"
คล้อยหลังหานต่ง เสิ่นจ้านพลันหวนคิดเซียวหยา นางเป็นคนเช่นไรกันแน่ เขาได้ยินมาว่า นางเป็นคนที่อ่อนแอที่สุดในจวนเซียว แต่พอได้สมรสพระราชทานกับเขา นางดันเเข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ
พอกลับมาถึงเรือนเซียวหยาก็เดินเข้ามาอย่างสบาย เสี่ยวอ้ายมองเจ้านายกลับมาอย่างปลอดภัย นึกว่าจะโดนนายท่านลงโทษเสียเเล้ว
"บ่าวคิดว่า คุณหนูจะโดนนายท่านทำร้ายเสียเเล้วเจ้าค่ะ"
"พวกเขาไม่กล้าทำร้ายข้าหรอก อีกหน่อย ข้าจะได้เป็นฮูหยินในจวนท่านแม่ทัพเเล้ว" นางต้องใช้ท่านแม่ทัพเป็นโล่กำบัง จากคนชั่วพวกนั้นที่ทำร้ายนาง
เรือนใหญ่ในยามนี้ สองแม่ลูกมาโวยวายกับเซียวอี้ เหตุผลเพราะทำไมไม่ลงโทษ เซียวหยา เซียวอี้มองดูฮูหยินและบุตรสาวคนโปรด ถ้าเสิ่นจ้านแต่งงานกับ เซียวเหยียนคงจะดีไม่น้อย
ถึงอย่างไรเซียวเหยียนก็เป็นสาวงามแห่งแคว้น อย่างน้อยนางคงจะมัดใจเสิ่นจ้านได้ กระนั้นเซียวอี้จึงคิดแผนการบางอย่างออกมา
"เซียวเหยียน เจ้าอยากเป็นฮูหยิน ของเสิ่นจ้านหรือไม่"
เมื่อบิดาถามเยี่ยงนี้ นางหรือจะไม่ดีใจ
"ท่านพ่อ ข้าชอบท่านแม่ทัพ แต่ทว่า ฝ่าบาททรงพระราชทานสมรสให้นังแพศยาไปแล้ว"
"เรื่องนี้ไม่ต้องห่วง ขอแค่เจ้าชอบ ท่านแม่ทัพก็เป็นพอ ข้าจะเเย่งมาให้เจ้าเอง"
"จริงรึท่านพ่อ"
สองแม่ลูกพลันดีใจกันยกใหญ่ ที่เซียวอี้มีแผนการดี ๆ ที่จะให้เสิ่นจ้านมาชอบเซียวเหยียน ในเรือนใหญ่จึงเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เซียวอี้คิดในใจว่า อย่าได้โทษบิดาเยี่ยงเขาใจร้ายกับนางเเล้วกันเซียวหยา เพราะเขายื่นข้อเสนอให้เเล้ว นางไม่รับเอง เขาต้องเปลี่ยนเเผนเช่นกัน
วันต่อมาเซียวหยารับสำรับเช้า อาหารเช้าวันนี้ดูดีขึ้นมาหน่อย ตั้งแต่วันที่นางไปอาละวาด สาวใช้ในโรงครัวพลันหวาดกลัว จึงได้ปฏิบัติต่อนางอย่างดี
"คุณหนูตอนที่บ่าวไปที่โรงครัว ได้ยินมาว่า คืนนี้ นายท่านจะจัดงานเลี้ยงขึ้นที่ห้องรับรอง เชิญท่านแม่ทัพมาด้วยเจ้าค่ะ"
เซียวหยาคิดในใจ เมื่อวานนางไม่ตอบตกลง ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์นั้น วันนี้จึงได้มีแผนการร้ายแน่นอน หญิงสาวพลันยกยิ้มขึ้นมา "คืนนี้รอดูว่าเรือนใหญ่จะเชิญข้าหรือไม่ ถ้าไม่เชิญข้า ข้าจะบุกไปที่เรือนใหญ่เอง"
หรือพวกเขาคิดจะให้เซียวเหยียนพลันทำข้าวสารกลายเป็นข้าวสุข เซียวหยาไม่ยอมเป็นอันขาด วาสนานี้เป็นของนางแล้ว จะเป็นของผู้ใดไม่ได้
ในค่ำคืนนั้นเสิ่นจ้านได้รับเทียบเชิญ ตั้งแต่ยามเช้าเเล้ว พอตอนค่ำก็พลันเข้ามาที่จวนเซียวทันที อยากจะรู้นักในจวนเซียวมีละครงิ้วสนุกรอให้เขาชมอยู่ เขาจะพลาดได้อย่างไร
เซียวเหยียนแต่งงานงดงามเป็นพิเศษคืนนี้ นางสวมชุดสีชมพูดลายผีเสื้อล้อมบุบผาถักด้วยดิ้นทองทั้งชุด ทำให้คนสวมใส่ดูสุภาพและอ่อนโยน รวมทั้งเครื่องประดับปิ่นเงินเล็กน้อยบนศีรษะ ทำให้นางดูงดงามสมวัยยิ่งนัก นางนั่งฝั่งตรงข้ามเสิ่นจ้าน สายตาของเสิ่นจ้านกวาดไปรอบ ๆ เหตุใดตัวละครหลักเยี่ยงเซียวหยายังไม่มา
เซียวเหยียนรับรู้ได้ว่า สายตาของเสิ่นจ้านคงจะมองหาเซียวหยา ในใจพลันเกิดเเรงริษยาขึ้นมาทันที
"คุณหนูรองไม่มาด้วยรึ" ชายหนุ่มพลันเอ่ยถาม เซียวอี้
"ท่านแม่ทัพ บุตรสาวของข้านางไม่สบาย ชอบอยู่แต่เรือน ท่านแม่ทัพอย่าได้สนใจนางเลย" เสิ่นจ้านไม่พอใจกับคำตอบของเซียวอี้ว่าที่พ่อตาเขานัก
"ข้าไปดูนางดีกว่า"
"ท่านแม่ทัพ ให้ข้าดีดเพลงพิณให้ฟังก่อน ท่านค่อยไปเยี่ยมนางก็ได้นี่เจ้าคะ" น้ำเสียงหวานพลันเอ่ยขึ้นมา สายตามองไปที่สาวใช้ให้รินสุรา ให้ท่านแม่ทัพ สาวใช้รู้ความหมายของเจ้านาย เรื่องนี้จะทำให้ผิดพลาดไม่ได้
เสิ่นจ้านมองตัวคนพวกนี้เสเเสร้งกับเขา จากนั้นพลันยกสุรากระดกเข้าปาก รสชาติสุราเหตุใดจึงได้มีสิ่งแปลกปลอมผสมอยู่
เสียงพิณที่ไพเราะดังขึ้น ในห้องโถงรับรอง นายท่านเซียวเอ่ยชมบุตรสาวคนโตไม่ขาดปาก ไม่เสียงแรงที่นางได้ร่ำเรียนกับอาจารย์อันดับหนึ่งในเมืองหลวง ฮูหยินใหญ่พลันภูมิใจในตัวบุตรสาวไม่น้อยเช่นกัน บรรยากาศด้านในคงจะมีแต่สาวคนที่หัวเราะกันอย่างสนุกสนานเท่านั้นล่ะกระมัง
สตรีนางหนึ่งสาวเท้าเข้ามาในห้องโถงใหญ่ ทั้งสามคนที่หัวเราะ ได้หยุดหัวเราะทันที เสิ่นจ้านไม่คิดว่าสตรีที่แต่งกายเรียบง่ายจะงดงามเพียงนี้ อย่าบอกนะว่านางคือคุณหนูรองเซียวหยา
"คารวะ ท่านพ่อ ฮูหยินใหญ่" น้ำเสียงหวานพลันเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนหวาน