บท
ตั้งค่า

ช่วยพาไปเปลี่ยนเสื้อที่ห้องทีค่ะ>.<

“เอ่อ..ขอโทษนะ” กวินท์เอ่ยบอกกับร่างบางที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาตอนนี้รูปของพวกเขาทั้งสองต่างแพร่กระจายไปทั่วคณะแถมยังโดนนินทากันอย่างสนุกปากเอิงเอยพยักหน้ารับเบาๆ ไม่มีการพูดโต้กลับเพราะตอนนี้เธอรู้สึกดิ่งเอามากๆ ทั้งๆ ที่พยายามไม่เป็นจุดสนใจของคนอื่นแล้วแต่สุดท้ายเธอก็ยังคงถูกพูดถึงและโดนนินทาอยู่ดีแม้มันจะเกิดขึ้นบ่อยครั้งในเวลาที่เธอใส่กระโปรงพีทสั้นแทนพีทยาวที่เธอใส่อยุ่ทุกวันจนกลายเป็นกระแสพูดถึงเรื่องขาของเธออยู่พักหนึ่งแต่สำหรับข่าวนี้มันค่อนข้างที่จะรุนแรงอยู่ไม่น้อยเลยกับภาพที่ออกไป

“เห้อน่าจับมาปรับทัศนคติให้หมดจริงๆ” กวินท์เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจังเขาไม่คิดว่าวัยรุ่นสมัยนี้จะมีนิสัยขี้แกล้งคนอื่นโดยไม่สนใจคนที่โดนแกล้งและยิ่งมีสื่อโซเชี่ยลยิ่งแล้วใหญ่

“หนูชินแล้วค่ะ เพราะปกติทุกคนก็ชอบนินทาหนูกันอยู่แล้ว” เอิงเอยบอกเสียงเบาไม่ว่าเธอจะทำอะไรที่ผิดแปลกจากตัวเองไปเล็กน้อยทุกคนก็พร้อมที่จะหัวเราะและนินทากับการกระทำของเธออยู่เสมอเธอเลยกลายเป็นคนที่ค่อนข้างเก็บตัวทำตามกิจวัตรประจำวันเดิมๆ แต่งกายเดิมๆ อยู่ตลอดเวลาเพื่อเลี่ยงการเป็นจุดสนใจ

กวินท์ส่ายหน้าเบาๆ อย่างรับไม่ได้กับพฤติกรรมของเด็กวัยรุ่นสมัยนี้เอิงเอยถอนหายใจแรงๆ ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้น

“จะกลับบ้านหรอ แต่ยังมีเรียนคาบบ่ายอยู่นะ”

“วันนี้หนูคงเรียนไม่ไหวจริงๆ ขอตัวก่อนนะคะ” ร่างบางเอ่ยบอกก่อนจะก้มหัวให้เขาเล็กน้อยและเดินจากไปทามกลางสายตาและเสียงหัวเราะจนร่างบางต้องเดินก้มหน้าแทนกวินท์เลยตัดสินใจที่จะลุกขึ้นและเดินตามเธอไป

“เดี๋ยวเดินไปส่ง” ร่างสูงเอ่ยบอก

“แต่มันจะยิ่งเป็นจุดสนใจนะคะ” เอิงเอยเอ่ยบอกเธอกันมองคนซ้ายขวาไม่ว่าจะทางไหนตอนนี้ก็มีแต่คนที่กำลังมองมา

“ช่างมันเถอะไม่ต้องไปสนใจ” ร่างสูงถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะดันหลังร่างบางให้เดินไปข้างหน้าท

ซ่าาา~

“อ๊ะฝนตก!” เอิงเอยรีบวิ่งเข้าไปหลบใต้หลังคาทันทีเพราะเธอไม่อยากให้เสื้อนักศึกษาเปียกจนเห็นรูปร่างของตัวเองแต่ด้วยฝนที่ตกลงมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยทำให้เจ้าตัวไม่ทันได้ตั้งตัวกว่าจะวิ่งมาถึงใต้หลังคาได้ก็เล่นเอาเสื้อเปียกโชกไปครึ่งตัวแล้ว ร่างสูงที่วิ่งตามมาเขามองท้องฟ้าที่มืดครึ้มทั้งๆ ที่เมื่อเช้ายังสดใสอยู่ก่อนจะมองมายังร่างบางที่กำลังหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กมาเช็ดตามลำตัวพร้อมกับถอดแว่นออกมาเช็ดทำให้เห็นใบหน้าน่ารักของเธอ

“วู้วมึงดูคนนั้นดิ” กวินท์หันไปมองนักศึกษาชายที่อยู่ถัดจากเขาไปสายตาของคนพวกนั้นมองตรงมายังร่างบางที่ยืนอยู่

“เชี่ยมึงดูนมกับหน้า น่าเอาสัส!” คำพูดของนักศึกษากลุ่มนั้นทำเอาเขาต้องหันกลับมาดูร่างบางอีกครั้งและพบว่าเสื้อนักศึกษาของเธอมันค่อนข้างเปียกและทำให้เห็นเสื้อกล้ามกับสีของสายเสื้อในรวมถึงใบหน้าที่ไร้แว่นนั่นอีกกวินท์เลยตัดสินใจที่เข้ามายืนบังสายตาจากพวกนั้น

“ขะเขยิบเข้ามาทำไมคะ?” เอิงเอยเอ่ยถามเธอมองร่างสูงที่มีสีหน้าหงุดหงิดที่กำลังเขยิบเข้าหาเธอจนแขนของทั้งคู่ชนกัน

“นี่หนู..ไปห้องพี่ไหม”

“คะ!? ว่าอะไรนะคะ?” ร่างบางเบิกตาโตก่อนจะถามย้ำอีกครั้งอย่างไม่เชื่อหูส่วนเจ้าของคำพูดก็พึ่งนึกได้ว่าใช้คำล่อแหลมเกินไปก็ได้แต่หัวเราะแก้เขินและพูดขึ้นใหม่

“ไม่ๆ คือจะให้ไปเปลี่ยนเสื้อ..เสื้อเธอมันเปียกมากและมันค่อนข้างที่จะเห็น..” กวินท์ไม่กล้าอธิบายต่อร่างบางใบหน้าแดงก่ำเธอมองไปที่เสื้อของตัวเองและรู้ว่าเขาต้องการจะสื่ออะไร

“ก็อย่ามองสิคะ!” เอิงเอยบอกเสียงกระแทกเล็กน้อยคิ้วของเธอขมวดเข้าหากันก่อนจะเอากระเป๋ามาบังน่าอกแทน

“ใครมอง จะบ้าหรอพี่เป็นตำรวจนะหนูไม่ใช่โรคจิต” กวินท์เอ่ยขึ้นอย่างร้อนลนก่อนจะหัวเราะเบาๆ

“สายตาแบบนั้นมันโรคจิตชัดๆ” ร่างบางบ่นเสียงเบาเธอหันข้างให้อีกฝ่ายพร้อมกับสวมแว่นตาก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมากดโทรหาคนที่บ้าน

“ป้าคะบอกลุงคนขับรถให้มารับหนูหน่อยได้ไหม”

“อุ้ยตายแล้วคุณหนู คนขับรถไม่อยู่ค่ะพึ่งออกไปส่งนายท่าน นี่เลิกเรียนแล้วหรอคะป้านึกว่าจะเลิกเย็น”

“เอ่อพอดีอาจาร์ยยกคลาสน่ะค่ะ ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวหนูเรียกแท็กซี่กลับเอง” ร่าบางเอ่ยบอกก่อนจะกดตัดสายไปอย่างเซ็งๆ แม้จะบอกว่าจะเรียกแท็กซี่กลับแต่เพราะทางนั้นไม่รู้น่ะสิว่าเธอกำลังตัวเปียกอยู่แบบนี้ หวังขึ้นรถด้วยสภาพแบบนี้คงโดนมองแน่ๆ

“นี่คุณตำรวจ” ร่างบางตัดสินใจหันกลับไปหาร่างสูงอีกครั้ง

“เป็นตำรวจก็มีหน้าที่ดูแลประชาชนใช่ไหมคะ” คำพูดของร่างบางทำเอาเขามึนงงเล็กน้อยแต่ก็พยักหน้ารับไป

“ใช่ แล้วยังไง”

“ชะช่วยพาไปเปลี่ยนเสื้อทีค่ะ” เพราะเสียงฝนที่กระทบกับหลังคามันดังมากและอีกฝ่ายก็พูดเบามากจนทำให้เขาไม่ได้ยินร่างสูงเลยตัดสันใจก้มหน้าไปอีกฝ่ายเล็กน้อยจนร่างบางสะดุ้ง

“พูดใหม่ทีไม่ได้ยินเสียงฝนมันดัง” กวินท์เอ่ยบอกอย่างไม่คิดอะไรแต่ผิดกับอีคนที่ตอนนี้เขินไปหมดแล้ว

“ชะช่วยพาไปเปลี่ยนเสื้อที่ห้องทีค่ะได้ยินชัดรึยังคะ>.< “ร่างบางพูดด้วยท่าทีเขินอายส่วนร่างสูงที่ได้ยินก็อึ้งไปสักพักแต่ก็กลับมาทำตัวตามปกติ

“อะแฮ่มอะแฮ่ม..ดะดะได้สิ เรื่องแค่นี้เอง ฮ่าๆ” ท่าทีแปลกๆ ของร่างสูงทำเอาคนรอบข้างมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ เมื่อเขาเห็นดังนั้นจึงรีบจับมืออีกฝ่ายเดินออกมาทันทีก่อนจะพาลัดเลาะไปยังทางเดินที่มีหลังคาจนในที่สุดก็มาโพล่ที่หน้าคอนโดของเขาจนได้

กวินท์พาร่างบางขึ้นไปยังห้องพักก่อนจะเปิดห้องที่ไม่ค่อยมีของอะไรมากเพราะแค่มาอยู่เพื่อทำภารกิจเท่านั้นเอิงเอยมองไปรอบห้องแม้จะกล้าๆ กลัวๆ แต่ยังไงอีกฝ่ายก็เป็นถึงตำรวจมันก็พอที่จะไว้ใจได้อยู่ดีกว่าต้องตัวเปียกกลับบ้านแบบอันตรายทั้งอย่างนั้น

“ไปเลือกเสื้อในห้องได้เลยนะ” กวินท์เอ่ยบอกก่อนจะชี้ไปยังห้องนอนของตัวเองร่างบางพยักหน้ารับก่อนจะค่อยๆ เดินเข้าไปเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเดินเข้าไปแล้วเจ้าตัวจึงปลดกระดุมเสื้อออกก่อนจะโยนมันทิ้งไว้ที่โชฟาเพราะเสื้อของเขาก็เปียกไม่แพ้กัน

“คะคือว่าขออาบนะ..กรี๊ดดถอดเสื้อทำไมคะ!” เอิงเอยร้องลั่นมองร่างสูงที่เปลีอยท่อนบนกำลังกระดกน้ำจากตู้เย็นกินอยู่ส่วนร่างสูงที่เห็นก็รีบหาอะไรสักอย่างมาปิดด้วยความเร็วแสง

“ละแล้วเปิดออกมาทำไมเล่า!” กวินท์เอ่ยถามพร้อมกับมองร่างบางที่ปิดตาตัวเองอยู่ ร่างกายเขาก็ออกจะดูดีมันไม่น่ามองตรงไหนกัน

“คะคือว่าจะขออาบน้ำค่ะ” ร่างบางเอ่ยขึ้นในขณะที่ปิดตาอยู่แบบนั้นเพราะเป็นลูกคุณหนูรึเปล่าก็ไม่รู้แต่ตอนนี้เธอรู้สึกถึงผืนแดงคันๆ รอบตัวคงมาจากผลที่เธอใส่เสื้อเปียกเป็นเวลานาน

“อ๋อ ได้ๆ ตามสบาย” ร่างสูงเอ่ยบอกก่อนจะกระดึบไปยังตะกร้าผ้าพร้อมกับหยิบชุดเก่าขึ้นมาสวมแทน

“ใส่เสื้อแล้วเลิกปิดตาได้แล้วหน่า..” กวินท์เอ่ยบอกร่างบางที่พอได้ยินแบบนั้นก็ค่อยๆ ลืมตาก่อนจะวิ่งหายเข้าไปในห้องน้ำทันทีส่วนร่างสูงก็เดินเข้าห้องไปหยิบเสื้อตัวใหม่มาเปลี่ยนก่อนจะมานั่งที่โชฟาพร้อมเปิดหาอะไรดูพลางๆ ไม่นานเอิงเอยก็ออกมาพร้อมเสื้อตัวใหญ่กับกระโปรงพีทยาวผมที่เคยมัดไว้ก็ถูกคลายออกปล่อยตามธรรมดาชาติใบหน้าที่เคยมีแว่นปกปิดก็เผยให้เห็นใบหน้าสีซีดขาวของเจ้าตัว

“ขอบคุณมากนะคะ” ร่างบางเอ่ยบอกหลังจากที่ได้อาบน้ำตัวเองก็รู้สึกสดชื่นขึ้นไม่คันตามตัวอีกต่อไป

“ละจะใส่กระโปรงนั้นกลับหรอ แปลกๆ นะไปหากางเกงใส่เอาสิน่าจะมีตัวเล็กๆ ที่พอใส่ได้อยู่” ร่างสูงเอ่ยบอก

“ขะขอบคุณค่ะ” เอิงเอยเอ่ยขอบคุณอีกครั้งก่อนจะเดินเข้าไปในห้องของร่างสูงและเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เสียงกริ่งหน้าประตูดังขึ้น กวินท์รีบวิ่งไปส่องตาแมวทันทีก่อนจะเบิกตากว้างเพราะคนที่ยืนอยู่หน้าห้องของเขาตอนนี้เป็นพวกๆ เพื่อนตำรวจของเขานั่นเอง

“เชี่ยแล้ว” ร่างสูงสถบออกมาเบาๆ ก่อนจะวิ่งไปยังห้องของตัวเองโดยไม่ทันได้เคาะประตู

“กรี๊ดดด!เข้ามาทำไมคะ!” เอิงเอยกรี๊ดลั่นห้องเมื่อจู่ๆ ร่างสูงก็โพล่เข้ามาดีที่เธอเปลี่ยนกางเกงเสร็จแล้ว

“หยุดกรี๊ดก่อนเบาๆ ชู่ว~” ร่างสูงรีบเข้ามาอุดปากเธอก่อนจะชี้นิ้วสั่งให้เธอเงียบซึ่งเธอก็ได้แต่ทำหน้าอย่างไม่เข้าใจจนอีกฝ่ายเอามือออกไป

“อยู่ในนี้ก่อนนะห้ามออกไปไหน ล็อคประตูด้วยเข้าใจไหม”

“มะมีอะไรหรอคะ” ร่างบางเอ่ยถามด้วยความมึนงง

“ไม่มีเวลาแล้ว อยู่ในนี้เงียบๆ นะห้ามส่งเสียงเข้าใจไหม”

“เอ่อค่ะๆ” ร่างบางตอบรับเบาๆ มองดูท่าทีร้อนลนของอีกฝ่ายที่วิ่งออกไปเธอจึงเดินไปปิดประตูและล็อคมันตามคำสั่งของเขาไม่นานเธอก็ได้ยินเสียงประตูพร้อมกับเสียงของผู้คนที่พากันหลั่งใหลเข้ามาในห้อง

“โย้วววผู้กองง”

“สวัสดีครับผู้กองกวินท์”

“ไงไอน้องรัก”

“นะนี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!” ร่างบางเอ่ยขึ้นมาเบาๆ ก่อนจะปิดปากด้วยความตื่นเต้น

กรี๊ดดดยัยน้องโดนขังค่าาาา>.<

อย่าลืมคอมเม้นเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะ

อีบุ๊คลดราคาวันสุดท้ายแล้วนะคะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel