บทที่ 1 จอมยุทธ์หญิง
หยางหลิวอวี้
การเดินทางที่แสนยาวนานของข้าเกิดขึ้นนับตั้งแต่วันที่ข้าท่องยุทธภพเป็นการออกมาทำอะไรในที่ใหม่มันทำให้ข้ารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกตอนอยู่จวนข้าเหมือนกับเด็กไม่ยอมโตแต่เมื่ออกมาท่องยุทธภพเองการใช้ชีวิตอิสระแบบนี้ดีที่สุด
"แม่นางจะเดินทางไปที่ใด"
"เดินทางขึ้นเหนือไปท่องเที่ยว"
"ตอนนี้มีโจรป่าออกมาเยอะมากมายแม่นางจะขึ้นเหนืออีกหรือ ข้าแนะนำให้เจ้าลงใต้ดีกว่า"
"ข้ามีธุระขึ้นเหนือจำต้องขึ้นไป"
"งั้นข้าขอให้เจ้าโชคดีก็แล้วกัน"
"ขอบคุณ"
ข้าแวะทานอาหารของโรงเตี๊ยมใกล้ๆแวะคุยกับเจ้าของโรงเตี๊ยมเรื่องการเดินทางขึ้นเหนือก่อนที่จะเอาอาหารแห้งติดตัวไปด้วยเพื่อเอาไว้กินระหว่างการเดินทางระหว่างการเดินทางสิ่งเดียวที่ทำได้คือการร้องเพลงกล่อมตัวเองไป
“ครั้งนี้มาต้าเหลียง ได้รู้จักคำใหม่ กลับไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริง ไม่ทราบว่าท่านใดจักไขข้อข้องใจนี้ได้บ้าง"
"คำเหล่านั้นคือ สายลม บุปผา เหมันต์ จันทรา”
“นี่ยากตรงไหน?--”
ดั่งวาโยพัดโบกเหนือภูผาธารา
ดั่งบุปผาทะนงแม้ยามแปดเปื้อนโคลน
ดั่งเกล็ดขาวต้องอรุโณทัยละลาย
ดั่งจันทราห่างแสนไกลกลับคล้ายใกล้เอื้อมถึง
ยอดเขายิ่งสูง
ยิ่งเหน็บหนาวไกล
หนทางผ่านจร
ย่อมมีพบพราก
วันคืนเปลี่ยนผัน
ไม่มียั่งยืน
พัดคนจากลา
ทิ้งใจคลุ้มคลั่ง
น้ำลึกหยั่งล้น
ทอดยาวไหลเลย
ผู้พ้นโศกตรม
ย่อมรู้ละวางฟ้าดินเปลี่ยนผัน
ยึดรั้งรื่นเริงเปรมปรีดิ์ไม่ลบ ไม่เลือน
สะบัดชายชุดโบกพลิ้วยามต้องพระพาย...
"แม่นางเจ้าร้องเพลงไพเราะเสียจริง"
"เจ้าเป็นใครกัน"
"ข้าหรือ อืม ข้าคือคนผ่านทางมา"
"ผ่านมาก็ผ่านไปเหตุใดยังหยุดรอฟังเพลงที่ข้าร้องด้วย"
"เสียงเจ้าดีมาก เจ้าชอบต้าเหลียงขนาดนั้นเลยหรือ"
"ข้าชอบเพลงไม่ได้ชอบต้าเหลียงขนาดนั้น"
"บ้านเกิดเจ้าอยู่ที่ใด"
"ทำไมข้าต้องบอกเจ้า"
"แต่ข้าอยากรู้"
"เจ้าเป็นใครมาจากใดก็เรื่องของเจ้าขนาดเจ้ายังไม่เอ่ยนามของเจ้าเลยยังกล้าที่จะมาพูดกับข้าอีก"
"ข้า อู๋หลิงหรูซือ ข้าเกิดที่แคว้นฉินแล้วเจ้าล่ะ"
"ข้าไม่บอกเจ้า"
"เหตุใดถึงไม่บอกล่ะ"
"ข้าก็แค่คนพเนจรเดินทางไปเรื่อย..."
"แล้วเจ้าจะเดินทางไปที่ใด"
"ขึ้นเหนือ"
"ข้าก็จะขึ้นเหนือเราสองคนร่วมเดินทางไปด้วยกันดีหรือไม่"
"ข้าไม่เอาตัวภาระอย่างเจ้าไปหรอกนะ"
"ข้าจะเป็นเด็กดีข้าจะไม่ดื้อให้ข้าไปด้วยนะ"
"หึ งั้นตามมา"
ข้าขี่ม้ามาสักพักก็หยุดพักก่อนจะพาม้าของข้าไปริมลำธารใกล้เพื่อให้ม้าหยุดพักกินน้ำกินหญ้าก่อนสัก 1 ชั่วยามเพื่อให้ม้ามันผ่อนคลาย
"เจ้าต้องเก่งกาจมากสินะถึงกล้าขึ้นเหนือคนเดียวเช่นนี้"
"ก็พอได้อยู่นะ"
"เจ้าลองกินอันนี้สิอร่อยนะ"
"เจ้าทำตัวตีสนิทข้าทำไมกัน"
"ข้าสู้คนอื่นไม่เก่งน่ะ"
"เหอะ เจ้าจึงอยากให้ข้าเป็นคนคุ้มกันสินะขี้กลัวขนาดนั้นทำไมไม่เอาคนมาคุ้มกันเจ้าล่ะ"
"ข้าขอติดตามท่านจอมยุทธหญิงไปด้วยได้หรือไม่"
"ช่างเถอะๆไม่ต้องเรียกอย่างนั้นหรอกมาๆข้าให้เจ้าตามก็ได้"
"ขอบคุณมากท่านจอมยุทธ์"
"เรียกซะข้าแก่ลงไปสิบปี แต่เอาเถอะข้าเห็นความประจบประแจงของเจ้า"
"แหะๆ"
ถ้าหน้าตาไม่ดีคารมไม่ดีข้าไม่พกตัวภาระไปด้วยหรอกนะ
ตลอดการเดินทางขึ้นเหนือล้วนมีโจรมากมายมาปล้นชิงเสบียงแต่มันคงชะตาขาดเมื่อมันมาปล้นชิงเสบียงเงินทองจากข้า ข้าจึงสอยมันไปคนละทีสองที มีแต่โจรกระจอกงอกง่อยหลังจากสำรวจแล้วล้วนแต่เป็นประชาชนที่อดยากที่ผันตัวจากชาวบ้านมาเป็นโจรฝีมือพอไปวัดไปวาได้บ้างข้าเลยสั่งสอนไปจนพวกนั้นสัญญาว่าจะไม่ทำตัวเช่นนี้อีกข้าก็เลยปล่ิยพวกนั้นไป
"เจ้าใจดียิ่งนัก"
"ข้าหรือใจดี"
"เจ้าให้เงินชาวบ้านไปตั้งตัวเหตุใดเจ้าถึงพกเงินมามากมายเช่นนี้"
"ข้าพกเงินมาแค่สองพันตำลึงทองกับตั๋วเงินอีกปึกหนึ่งเท่านั้นแต่ถ้าใช้หมดก็จะไปร้านในเมืองก็มีเงินใช้แล้ว"
"ร่ำรวยขนาดนั้นเชียว"
"จนกว่าฮองเต้แคว้นข้านิดหน่อย"
"ขนาดนั้นเชียว"
"ข้าไม่ใช่คนขี้อวดหรอหรอกนะแต่ข้ารวยจริงๆ"
"ข้าเชื่อเจ้า"
"หึๆ เจ้าเชื่อคนง่ายเสียจริง"
"เพราะเป็นเจ้าข้าถึงเชื่อ"
"หึๆเจ้าปากหวานเช่นนี้ภรรยาเจ้าคงชื่นชมเจ้าตายเลย"
"ข้าไม่มีภรรยา"
"เช่นนั้นหรือ"
"ตำแหน่งภรรยาข้าว่างท่านจอมยุทธ์สนใจมั้ย"
"เหอะ เจ้าไม่คิดหรือว่าข้าจะแต่งงานแล้ว"
"ถ้าเจ้าแต่งงานแล้วสามีเจ้าก็ต้องตามเจ้าออกมาท่องยุทธ์ด้วยมิใช่หรือ"
"แสนรู้เสียจริง"
"เจ้าเองก็น่ารักเสียจริง"
"หยอดข้าเก่งเสียจริง"
"ก็เจ้าหน้าหยอดคำหวานนี้นะ"
"เหอะๆ สันดานผู้ชายเจ้าชู้เจ้ามันก็แค่นั้นบิดาข้าหยอดคำหวานให้ท่านแม่ข้าทุกวันก็แบบนี้ข้าชินช้าเสียแล้ว"
"ข้าชอบความตรงไปตรงมาของเจ้าเสียจริง"
"ชอบมากงั้นหลังจากกลับไปข้าจะให้บิดาไปสู่ขอเจ้าดีมั้ยหึๆ"
"ดีสิข้าจะรอนะ"
"เจ้านี้นะถึงแล้วเราแยกกันตรงนี้หากมีวาสนาข้ากับเจ้าคงได้เจอกันอีกครั้ง"
"ถ้าเจอกันอีกครั้งท่านจอมยุทธ์ต้องมาสู้ขอข้านะ"
"ได้ข้าเป็นคนรักษาสัญญาข้าจะมาสู่ขอบุรุษเช่นเจ้าแน่นอน"