บทที่ 1/2
ณ มหาวิทยาลัยเอกชนชั้นนำแห่งหนึ่งในเมืองหลวงของประเทศ มหาวิทยาลัยที่รวมบรรดาลูกคนมีเงินมารวมกัน เพราะเป็นมหาวิทยาลัยที่ได้ชื่อว่ามีค่าเทอมแพงติดอันดับหนึ่งในสามของประเทศ คงไม่ใช่เรื่องแปลกหากมองไปทางไหนจะเห็นนักศึกษาแต่งตัวมาอวดความร่ำรวย สะพายกระเป๋าแบนด์เนม ใช้เครื่องประดับ หรือโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ราคาหลายหมื่นบาทรวมไปถึงขับรถหรูมาเรียน
เวลาแปดนาฬิกาตรงไม่มีขาดมีเกิน หญิงสาวที่ในชุดนักศึกษาพอดีตัว ใบหน้าแต่งแต้มเครื่องสำอางเดินยิ้มมาแต่ไกล เดินเข้ามาใต้ตึกคณะบริหารมุ่งหน้าไปยังโต๊ะประจำของกลุ่ม
“ไงมึง เดินยิ้มมาแต่ไกล เมื่อคืนได้ผัวสมใจไหม” พราวมุกเอ่ยถามอย่างหมั่นไส้กับใบหน้าเปื้อนยิ้มของเอวา ทว่าคนถูกถามกลับส่ายหน้าตอบกลับ แต่ใบหน้ายังคงไว้ซึ่งรอยยิ้มเช่นเดิม
“อ้าว! ยังไง ไหนเล่ามาซิ ก็เห็นไปอ่อยเขาถึงหน้าห้องน้ำ ก็นึกว่าเสร็จไปแล้ว ตกลงคือไม่ได้แอ้ม” เพราะเมื่อคืนขอตัวกลับก่อนจึงไม่รู้ว่าเพื่อนได้กินผู้ชายสมใจอยากไหม
“ก็ได้แค่ลูบคลำ แต่พอพี่เวย์บอกว่าจะเอากูแบบถือว่าทำบุญทำทานกูเลยไม่ให้เอา เดินหนีออกมา” พราวมุกเบะปากใส่เพื่อน
“อยากได้เขาเป็นผัวแต่ดันเล่นตัว” พูดจบยังไม่เท่าไหร่ รถสปอร์ตสีขาวก็ขับเข้ามาภายในมหาวิทยาลัย ไม่นานเจ้าของรถก็ลงมาจากรถ เสียงกรี๊ดกร๊าดของเหล่านักศึกษาสาวก็ดังขึ้น
“มาทำไมวะ” พราวมุกเอ่ยออกมา เมื่อเห็นผู้ชายหน้าตาดีราวเทพบุตรก็ว่าได้อย่างเวย์สันลงมาจากรถ ทั้งที่ชายหนุ่มก็เรียนจบจากที่นี่ไปตั้งหลายปีแล้ว ยังไม่ทันที่เอวาจะเอ่ยอะไรออกมา ประตูอีกฝั่งก็ถูกเปิดออกจากคนที่อยู่ด้านใน
“มึง! นั่นมันยัยเด็กการตลาดนี่น่า อีเอวามีคนปาดหน้าเค้กมึงไปแล้วว่ะ” เอวาอมยิ้ม ไม่สะทกสะท้านกับภาพที่เห็น มองอาการกระดี๊กระด๊าเหมือนปลากระดี่ได้น้ำของผู้หญิงคนนั้น และยังแอบเบะปากใส่ ก่อนจะสะบัดหน้ากลับมา
“ดูหน้ายัยนั่นดิ ท่าทางภูมิใจเนาะที่พี่เวย์มาส่ง หน้าเชิด คอตั้ง ปากนี่ยิ้มจนแทบจะฉีก” พราวมุกเอ่ยต่อ
“เดี๋ยวอีกไม่นานก็คงถูกเฉดหัวทิ้งเหมือนหมูเหมือนหมา”
“รู้อย่างนี้แล้วมึงก็ยังอยากไปเป็นของเล่นพี่เขาอะนะ” ถามอย่างอ่อนใจ
“ใครอยากเป็นของเล่นใครเหรอ เมื่อกี้ได้ยินไม่ค่อยชัด” เพื่อนชายใจสาว หุ่นมาดแมนใบหน้าคมคาย ทว่ากลับปัดขนตางอนเด้งยิ่งกว่าผู้หญิง ทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้ที่ว่าง เท้าคางมองเพื่อนสาวสองคนตาแป๋ว
“ดูทำหน้า สวยมากค่ะแม่” เอวาสัพยอกออกไป จนถูกชมว่าสวยยิ้มรับอย่างไม่เกรงใจ
“ขอบคุณค่ะลูกสาว ว่าแต่ใครจะเป็นของเล่นใครคะ” จีบปากจีบคอถามต่อ
“ก็อีเอวาน่ะสิ มันอยากได้พี่เวย์สันเป็นผัว”
“อกเอลล่าจะแตก!” แอลล่าหรือเอส ยกมือขึ้นทาบอกสีหน้าตกอกตกใจเกินเบอร์ หลังจากพราวมุกพูดจบ
“ยังไงอีเอเลี่ยน ไหนมึงเล่ามาให้แม่ฟังซิ ว่าผีห่าซาตานตนไหนเข้าสิง ถึงอยากได้พี่เวย์สันของกูไปเป็นผัว”
“อยากได้ก็คืออยากได้ปะ ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้น” เอสเบะปากใส่เพื่อนสาวหนึ่งกรุบ
“มั่นหน้ามั่นโหนกมากค่ะลูกสาว แล้วคิดเหรอคะว่าพี่เวย์เขาจะชายตาแล ถึงเขาจะแลคิดเหรอคะว่าเขาจะเอามึงทำเมีย อีเอวา ใครๆ ก็รู้ไหมว่าพี่เวย์เขาเสน่ห์แรงจะตาย เขาไม่คิดจริงจังกับใครง่ายๆ นอกจากพี่เฌอรีนอดีตแฟนเก่า ที่คบหากันมาตั้งแต่สมัยมัธยม แต่ที่ต้องเลิกกันเพราะพี่เฌอรีนต้องย้ายไปอยู่ต่างประเทศกับครอบครัวตอนปีสอง และหลังจากนั้นมาก็ไม่เห็นพี่เวย์จริงจังกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย ว่ากันว่าที่พี่เวย์ไม่จริงจังกับใคร เพราะพี่เวย์รอพี่เฌอรีนกลับมา รู้อย่างนี้แล้วยังจะเอากีไปให้เขาจิ้มอยู่เหรอลูกสาว”
“อดีตก็คืออดีตปะ ส่วนกูอะอนาคตเห็นๆ” พราวมุก เอส พร้อมใจกันกลอกตาบน เบะปากใส่คนมั่นหน้า มั่นใจ
“มั่นหน้าเว่อร์ กูนี่อยากเห็นวันที่พี่เวย์สันมาสยบแทบเท้ามึงจริงๆ” คนมั่นใจไหวไหล่ใส่คำพูดของพราวมุก อมยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างคนมั่นอกมั่นใจสุดขีด ว่ายังไงตัวเองต้องทำให้เวย์สันมาสยบแทบเท้าอย่างที่พราวมุกว่าแน่ๆ
“มึงคิดว่าจะมีวันนั้นไหม กูว่าเราสองคนจะได้ไปซื้อผ้าขนหนูมาซับน้ำตามันมากกว่า ท่าทางจะแห้วแดก เพราะแค่คิดจะเริ่มก็เห็นผู้ชายมาส่งหญิงอื่นต่อหน้า”
“ของแบบนี้ต้องใจเย็นๆ สิ ในเมื่อคิดจะล่าเสือ จะวู่วามได้ยังไง ไปเรียนได้แล้วไป ลุกๆ”
“เอ้า! กลายเป็นคนรักเรียนขึ้นมาซะงั้นเพื่อนกู เมื่อกี้ยังแรดอยากได้ผู้ชายอยู่เลย” เอสบ่นพึมพำ แต่ก็ยอมลุกจากเก้าตามเอวาเพื่อไปเรียนวิชาแรกของวัน