ตอนที่1 หนึ่งหลุดพ้น...หนึ่งถือกำเนิด1
ย้อนกลับไปเมื่อหลายร้อยปีก่อนเกิดราชวงศ์ต้าถัง
คู่รักคู่หนึ่งสาบานยึดมั่นรักกันจนแก่เฒ่า แม้ตายจากก็จะมิพรากดวงใจไปให้ใคร
ฝ่ายสตรีเป็นถึงองค์หญิงสูงศักดิ์สะคราญโฉม นามซีซิน
ฝ่ายบุรุษเป็นสามัญชนรั้งตำแหน่งพลทหารม้า ทว่าฝีมือกลับเก่งกล้ากว่าผู้ใด ทั้งเชี่ยวชาญม้าศึก องอาจผึ่งผาย แม้มิได้รูปงามสะกดสายตาแต่ก็น่าคบหาไม่น้อย
เขามีนามว่าเฟิงซือหง
แต่ด้วยสองใจมีรักผูกพัน ไม่หวั่นแม้ต่างยศศักดิ์ชาติตระกูล ฐานันดรกางกั้น
ฝ่ายชายจึงบากบั่นกรำศึกหนักกระทั่งได้เป็นแม่ทัพพิทักษ์ดินแดน รักษาความกร้าวแกร่งดุจหินผา ฝ่ายหญิงยิ่งเฝ้าบ่มเพาะถนอมตัวเพียรรอบุรุษหนึ่งเดียวจนวัยล่วงเลยย่างยี่สิบปี
ในที่สุดเมื่อบุรุษสร้างผลงานมีความดีความชอบกลับมา จึงได้สมรสพระราชทานสมใจกับองค์หญิงสูงศักดิ์อันที่รัก
แม้งานมงคลจักล่าช้า ทว่าสามีภรรยาเคียงคู่หวานล้ำเคียงข้างหวานซึ้ง ผ่านคืนวันหวานชื่นด้วยกันดุจห้วงฝัน
กาลเวลาเคลื่อนผ่านอย่างราบรื่น สามีเดินทางนำทัพสร้างผลงาน พลทหารในอาณัติสมัครสมานสามัคคี ภรรยาดูแลหลังเรือน บ่าวไพร่ภักดี จวนพยัคฆ์สุขสงบ
กระทั่งฝ่ายชายเดินทางกรำศึกปราบโจรทะเลทราย บังเอิญช่วยเหลือสาวน้อยนางหนึ่งเอาไว้ได้
ทั้งสองเกิดถูกชะตาโดยมิได้นัดหมาย สนิทสนมชิดเชื้ออย่างไม่อาจห้ามใจ
สุดท้ายฝ่ายบุรุษจึงตัดสินใจพานางกลับจวนเพื่อขออนุญาตภรรยารับสตรีอีกคนเป็นอนุอย่างถูกต้อง
แม้ซีซินจักรักสามีมากเพียงใด แต่ด้วยนางเป็นองค์หญิงซึ่งเติบโตในวังหลังทั้งยังเคร่งครัดบัญญัติสตรีครองเรือน จึงเข้าใจและยอมรับได้ถึงการมีสามภรรยาสี่อนุของบุรุษ
หญิงสาวเลือกมองข้ามสัญญาใจที่เคยมีให้กัน แย้มยิ้มด้วยใจบริสุทธิ์ จำยอมรับอนุของสามีอย่างใจดี แบ่งปันค่ำคืนหวานชื่นตามธรรมเนียมปฏิบัติอย่างใจกว้าง
ทนมองเขามีความสุขยามโอบกอดสตรีอื่น
ทุกวันซีซินทั้งอดทนและยอมรับได้ ทว่ากลับเป็นฝ่ายสตรีผู้มาทีหลังที่ไม่พึงพอใจอย่างยิ่ง
ดรุณีน้อยยังอ่อนต่อโลกหล้าทั้งยังไม่ประสาต่อความรัก
นางอดรนทนมิได้ยามที่ฝ่ายสามีไปเยือนเรือนของสตรีอีกคน แม้ว่าสตรีผู้นั้นจะเป็นถึงภรรยาเอกผู้มาก่อนก็ตามนางแสดงออกชัดเจนไม่มีเก็บข่ม ทั้งแง่งอนร่ำไห้ น้อยอกน้อยใจ เร่งเอาใจสารพัดเพื่อขอความเมตตาจากบุรุษ
หลังเรือนเริ่มวุ่นวายวันละน้อย
กระนั้นซือหงเพียงยิ้มรับ บอกกับซีซินเสียงนุ่มว่าอย่าได้ถือสาหาความเพราะนางยังเด็กเหลือเกิน จะอย่างไรสตรีนางน้อยย่อมไม่อาจเทียบเท่าฮูหยินผู้สง่างามรู้ความของเขาได้ แค่สตรีที่มีไว้ปรนนิบัติเรื่องบนเตียง ไม่นับเป็นอะไร
ซีซินนิ่งฟังไม่เอ่ยวาจา แต่ในใจกลับกังขาไม่หลงเชื่อ
แค่กามกิจหรือ?
เช่นนั้นยามจุมพิตแนบชิดสัมผัส
ยามลูบไล้เคล้นคลึงทั่วเรือนร่าง
ยามสอดใส่พากันไต่บันไดสวรรค์จนถึงฝั่งฝันบนฟากฟ้า
ท่านบอกข้าได้หรือไม่ว่าไม่รู้สึกอะไรเลย
ไม่เคยรู้สึกลึกซึ้ง ไม่เคยรู้สึกผูกพัน
หากไม่นับเป็นอะไร เหตุใดยามนี้เราสอง...
แม้ใจร้อนรุ่มดุจไฟสุม ทว่ายังคงรักษาความสง่างามตามวิสัย พลางเพ่งพิศดวงตาคู่คมของคนคุ้นเคยซึ่งมักจะมองนางด้วยรักใคร่เสน่หาเพียงหนึ่งเดียวเสมอมา ไม่เคยมองใคร
ทว่าบัดนี้กลับมิเป็นเช่นนั้นอีกแล้ว
ดวงตาซึ่งทอประกายลึกล้ำคู่นี้มิได้มีเพียงนางอยู่ในนั้น
นัยน์ตาบุรุษเป็นสิ่งที่ยึดมั่นไม่ได้อีกต่อไป
สตรีไร้เดียงสาคือพิษร้าย วาจาบุรุษเชื่อมิได้
ท้ายที่สุดด้วยต้องการเป็นหนึ่ง แม่นางน้อยจึงใช้ความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาของตนชนะใจบุรุษจนเกิดผล กระทั่งสามารถยึดครองเรือนร่างกร้าวแกร่งได้ถึงเจ็ดราตรีติดต่อกัน แม้มิต้องใช้ยากำหนัดผิดศีลธรรมก็ตาม
นับว่ายาวนานพอที่จะทำให้ห่างเหินจากอีกคนได้ไม่ยาก เพราะการกระทำนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารขั้วอำนาจนางสนม หรือรักษาสมดุลสกุลใดเฉกเช่นเชื้อพระวงศ์
ปัญหาหลังเรือนที่เกิดขึ้นมิใช่จากสตรีเพียงฝ่ายเดียว หากแต่เป็นเพราะจิตใจหวั่นไหวของบุรุษอย่างไม่ต้องสงสัย
ในเมื่อเขาไม่หนักแน่นมั่นคงอีกต่อไป สุดท้ายปลายทางเป็นเช่นใด เพียงหลับตาย่อมรู้แจ้งเห็นสัจธรรม
ภรรยาเอกอย่างซีซินทั้งใจกว้างและมองการณ์ไกล
ที่สำคัญ สตรีผู้หนึ่งซึ่งถือกำเนิดจนเติบใหญ่จากวังหลัง ล้วนหล่อหลอมให้นางเป็นสตรีที่เด็ดขาดเฉียบคมเหนือใคร
ซีซินเลือกวิธีเฉกเช่นสตรีชั้นสูงทั่วไป นั่นคือการสงบนิ่งอย่างสุขุมเยือกเย็นเพื่อสยบทุกความวุ่นวายหลังเรือนมิให้เป็นที่ครหาจนเสื่อมเสียมาถึงสามี ต้องอดทนมองคู่ยวนยางด้วยดวงใจที่ปวดร้าว ผ่านม่านตาร้อนผ่าวทุกวัน
กระนั้นท่าทางยังคงเปรียบประดุจนางพญาผู้เข้มแข็ง นางไม่จำเป็นต้องอ่อนแอให้ใครเห็น
ต่อมาสตรีนางน้อยก็ตั้งครรภ์ สามีหนึ่งเดียวยิ่งรักใคร่หลงใหลไม่ลืมหูลืมตา ทะนุถนอมอีกฝ่ายราวหยกล้ำค่า
กระทั่งซีซินยังรู้สึกตัวได้ว่า ตนเองถูกสามีลืมเสียสิ้น
มีเพียงซือหงเท่านั้นที่ยังคงไม่รู้ตัว เขาไม่รู้ว่าตัวเองได้เปลี่ยนไป ไม่มีใจให้สตรีผู้มาก่อนอย่างซีซินอีกแล้ว
การทักท้วง กล่าวเตือน มีหรือที่ซีซินจะไม่ทำ
นางย่อมดึงสติสามีของตนให้คืนกลับมา
ด้วยภาระหน้าที่และสิ่งที่เรียกว่าผิดชอบชั่วดี ใช่ว่าซีซินจะไม่หวังดีต่อสามีที่กำลังหลงทาง นางเอ่ยเตือนเขาอย่างจริงใจอยู่หลายประโยค
ทว่าต่อหน้านางเขาเพียงรับคำแค่ลมปาก ยังโอบกอดคลอเคลียทำทีร่วมรักอย่างทะนุถนอมเพียงให้พ้นผ่านราตรีนั้นไป
แต่ลับหลัง...ซือหงกลับแสดงกิริยาไม่พอใจ
โดยมีอนุคนงามพะเน้าพะนอปลอบประโลมไม่ห่างกาย
พวกเขาให้กำลังใจกันอย่างแนบชิดสนิทเนื้อแม้ฝ่ายหญิงจะกำลังตั้งครรภ์อยู่ก็ตาม
ซีซินรับฟังเรื่องราวจากบ่าวผู้ภักดีที่คอยเป็นหูเป็นตาให้ด้วยความรู้สึกยากจะบรรยาย
ความเข้มแข็งคล้ายถูกทะลวงด้วยปลายกริชแหลมคมนับหมื่นจ้วงแทง
ความเจ็บปวดซึมลึกกำลังล้นทะลักออกมาจากดวงใจที่รวดร้าวเพิ่มขึ้นทุกที มันฉายชัดออกมาจากดวงตาทีละน้อย ความรู้สึกเจ็บแค้นและปวดแปลบกำลังกระจายไปทั่วร่าง
บ่าวคนสนิทที่มองอยู่แทบจะทนไม่ไหว นางเปรยเสียงเย็นว่าขอแค่เจ้านายสั่งคำเดียวจักทำให้อนุแพศยาผู้นั้นหายไป
ซีซินไหนเลยจะโง่เขลาถึงขั้นใช้วิธีต่ำช้าเช่นนั้น
นางเพียงปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปเหมือนเช่นทุกวัน อยู่กับความทุกข์ระทมเช่นนั้น
ด้วยหวังว่าคงชาชิน...
กระทั่งวันหนึ่ง เรื่องไม่คาดฝันพลันบังเกิด เมื่ออนุคนงามของสามีเกิดเจ็บท้องขึ้นมาแล้วแท้งบุตรกะทันหัน
เรื่องราวเกินคาดเกิดขึ้นอีกคำรบ เมื่อซือหงกลับจากงานแล้วรับทราบ เขาถึงขั้นเดือดดาลเข้ามาบันดาลโทสะกับซีซิน
“ฝีมือเจ้าใช่หรือไม่? เพราะเจ้า...บุตรของข้าจึงต้องตาย”
สายตาเย็นชา วาจากล่าวหา พร้อมริ้วรอยฝ่ามือหยาบกระด้างบนข้างแก้มนวลของซีซินที่แดงก่ำ ทำลายความอดทนเสี้ยวสุดท้ายในใจของนางลงทันที
เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะอนุนางนั้นฟ้องว่าเป็นฝีมือของซีซิน
หลักฐานคือยาบำรุงอันได้รับการแบ่งสรรปันส่วนตามปกติของคำสั่งภรรยาเอกให้โรงครัวดูแลปรนนิบัติ
ซือหงเชื่อสนิทใจแล้วพุ่งเข้าใส่ซีซินด้วยอารมณ์แค้นเคือง
แผนการตื้นเขินเช่นนี้ เหตุใดสามีถึงดูไม่ออก
คำถามล้วนไร้ซึ่งคำตอบ เพราะซือหงไม่เคยมาเยือนเรือนของซีซินอีกเลย
ความห่างเหินหมางเมินระหว่างพวกเขาเกิดขึ้นนับแต่นั้น
ทุกคืนวันนางเดียวดายหาใดเปรียบ
ระหว่างนั้นซีซินพลันคิดได้ถึงช่องโหว่มากมายเรื่องการแท้งบุตรของอนุคนโปรดกับสามีของนาง
แน่นอนว่าการสืบความจริงสำหรับซีซินย่อมไม่ยาก