บท
ตั้งค่า

2

Hagan Villa… (07:04 น.)

พอกลับมาถึงคอนโด ฟ้ารดาก็รีบอาบน้ำ แล้วก็ถือหมอนขอเข้าไปนอนกับพี่ชาย ที่มีท่าทีเงียบขรึมไปจนเธอรู้สึกเป็นห่วง

คามินมองหน้าน้องสาวครู่หนึ่งก่อนจะขยับไปนอนชิดอีกฝั่งของเตียง ฟ้ารดาคลี่ยิ้มบางๆ แล้วขยับขึ้นไปนอนบนเตียงพร้อมกับกอดพี่ชายที่แม้จะมีอายุห่างกันสิบกว่าปี แต่ก็ไม่ได้ทำให้สายใยของคำว่าพี่กับน้องลดน้อยลงไปแต่อย่างใด

เวลา 19:02 น. หลังจากที่คามินตื่นแล้วออกไปจัดการธุระต่างๆ ในตอนบ่ายโมง แล้วกลับเข้ามาดูน้องสาวที่คอนโดในตอนค่ำ ก็เห็นว่าสาวเจ้ายังคงหลับเป็นตายอยู่บนเตียงของตนเช่นเดิม จึงเข้าไปสะกิดเรียก

“ฟ้า! ฟ้า! ตื่นเร็ว”

“พี่คิม” คนที่หลับยาวสะดุ้งตื่น มองหน้าพี่ชายอย่างมึนงง

“นี่มือถือกับซิมการ์ดใหม่เบอร์เดิม” คามินวางลงข้างเตียงให้คนที่ยังอยู่ในอาการเบลอๆ

“ขอบคุณค่ะ ตอนนี้กี่โมงแล้วคะ” ฟ้ารดาหันไปมองรอบๆ

“ทุ่มกว่านิดๆ ลุกไปกินข้าวกับพี่ก่อนเร็ว!” คามินบอกพลางดึงแขนของน้องสาวจอมขี้เซาให้ลุกตาม

“ขอฟ้าโทรหามิกิก่อนนะคะ” สาวเจ้ารีบเอื้อมมือไปหยิบมือถือเครื่องใหม่ แล้วเดินตามพี่ชายออกไปที่ด้านนอก

“โอเค! พี่จะจัดจานรอแล้วกัน อ้อ! แบตมีแค่นิดหน่อยเราต้องปิดเครื่องชาร์จเอาไว้ก่อน 8 ชั่วโมง” คามินบอกก่อนจะเดินไปที่โต๊ะทานข้าวตัวใหญ่

“รับทราบค่ะ คุยแค่คำสองคำเท่านั้น” ฟ้ารดาบอกเสร็จก็รีบเปิดมือถือแล้วใส่อีเมลกับรหัสผ่านลงไป จากนั้นข้อมูลต่างๆ ในไลน์ ก็โชว์ขึ้นมา เธอจึงรีบกดต่อสายโทรหาเพื่อนสาวเพื่อจะขอโทษขอโพยเรื่องเมื่อวาน พอคุยกับเพื่อนเสร็จเธอก็รีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำเพราะปวดฉี่ ซึ่งทนอั้นเอาไว้เพราะอยากจะฟังเพลง Until You ในสายที่ ขับร้องได้ไพเราะจนเธอถึงกับเคลิบเคลิ้มไปชั่วขณะ

คามินมองตามน้องสาวที่บอกว่าวิ่งแจ้นเข้าห้องน้ำไปอย่างขำๆ แต่จู่ๆ ก็มีเสียงเรียกเข้าดังขึ้นจากมือถือที่ถูกวางไว้

ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ

“พี่คิมรับสายให้หน่อย” คนที่อยู่ในห้องน้ำตะโกนบอก

“โอเคๆ” คามินส่ายหน้าอย่างเพลียๆ ก่อนจะลุกไปหยิบมือถือที่วางอยู่มากดรับ เพราะคิดว่าคงจะเป็นแพรณารา แต่ทว่า...กลับเป็นเสียงของผู้ชาย

‘นั่นใครรับสาย!’

คามินหน้าตึงขึ้นมาทันทีทันใดที่ได้ยินเสียงน้ำห้วนๆ ของปลายสาย “แล้วจะพูดกับใครล่ะ”

‘แล้วมึงโทร. มาคุยกับเมียของกูทำไม’

คนที่ได้ฟังถึงกับสตั้นไปชั่วขณะ พอได้สติและกำลังจะด่ากลับ แบตของ มือถือก็ดันหมดไปซะก่อน ทำเอาคนที่โดนด่าฟรี ถึงกับโกรธจนหน้าแดงก่ำ รีบเดินไปเคาะประตูห้องน้ำรัวๆ เพราะคิดว่าน้องสาวแอบนัดผู้ชายเอาไว้ แถมยังเป็นผู้ชายที่มีนิสัยเถื่อน ถ่อย สถุล เกินกว่าที่ตนจะรับได้ ‘พระเจ้า! อยากจะเห็นหน้าไอ้คนพูดซะจริงๆ’

“มิกิโทรมาว่าไงบ้างคะ?” คนที่เพิ่งจะเดินออกห้องน้ำมาเอ่ยถามยิ้มๆ

“ไม่ใช่มิกิ” คามินตอบกลับด้วยน้ำเสียงตึงๆ

“อ้าว! งั้นใครกัน?” สาวเจ้าที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ว่าเกิดอะไรขึ้น ถามต่ออย่างสงสัย

“นั่นสิ! ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกัน” คนที่กำลังเดือดขึ้นเสียงใส่อย่างลืมตัว

“ทำไมพูดจากับน้องไม่ดีเลยล่ะ” ฟ้ารดามองหน้าพี่ชายด้วยสายตาไม่พอใจ

“สรุปแกนัดมิกิไปเที่ยว หรือว่าแอบนัดผู้ชายไปเที่ยวกันแน่” คามินถามก่อนจะวางมือถือกระแทกลงบนโต๊ะ

“ก็แล้วพี่คิมเห็นเป็นชื่อของใครล่ะคะ”

“หึ! เมมชื่อไว้ว่ามิกิแต่เป็นผู้ชายโทรมา”

“ไม่จริงอะ!”

“นี่แกคงไม่ได้นัดไอ้พระเอกนั่นมาเที่ยวที่นี่ใช่ไหม”

“พี่คิม!” ฟ้ารดายกมือปาดน้ำตาที่เอ่อล้นออกมาทิ้งลวกๆ อย่างเจ็บใจ ไม่คิดว่าแม้กระทั่งพี่ชายแท้ๆ ก็ยังคิดกับเธอแบบนี้

“แกโตแล้วนะฟ้า จะคบหาใครพี่ไม่ว่า แต่ไม่ใช่กับคนที่มีเจ้าของ” คามินจ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มอย่างไม่วางตา แม้ตนจะอยู่อังกฤษเป็นหลัก แต่ก็ทราบข่าวคราวของน้องสาวอยู่ตลอด รวมทั้งสาเหตุที่ทำให้ต้องบินมาเที่ยวครั้งนี้ด้วย

“ฟ้าไม่ได้นัด หรือว่าคุยกับผู้ชายคนไหนทั้งนั้น ถ้าพี่คิมไม่เชื่อก็เอามือถือไปชาร์จ แล้วโทรกลับหาอีกครั้งสิ” สาวเจ้าบอกอย่างทนไม่ไหว ไม่เข้าใจว่าทำไมใครๆ ถึงพากันคิดว่าเธอมีซัมติงกับชาริท ซึ่งถ้าหากว่ามันจะมีจริงๆ มันคงมีไปตั้งแต่สองปีก่อนแล้ว ไม่ใช่ตอนที่อีกฝ่ายเพิ่งจะประกาศคบหากับดาริษา (นางเอกหน้าใหม่ของวงการ)

“โทรแน่! แต่ถ้าโทรไม่ติด หรือไม่มีคนรับสาย พี่จะยึดมือถือคืน” คามินรีบคาดโทษ

“เอาเลยค่ะ” ฟ้ารดาตอบก่อนจะนั่งลงทานข้าวอย่างไม่สนใจ สีหน้ามึนตึงของพี่ชาย ‘บ้าบอที่สุดเลย! อุตส่าห์หนีมาเที่ยวตั้งไกล ยังต้องมาเจอเรื่องงี่เง่าเดิมๆ อีกเหรอเนี่ย’

“ค่อยๆ ทาน เดี๋ยวก็สำลักหรอก” คามินบอก ก่อนจะเดินเอามือถือไป เสียบชาร์จ

“ชิ!” คนที่ถูกพี่ชายจอมขี้หวงดุ ทั้งที่เธอไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลยสักอย่าง หันไปส่งค้อนให้อย่างนอยด์ๆ พลางนึกไปถึงเพื่อนรักว่าอาจจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับอีกฝ่าย

ยี่สิบนาทีต่อมา...

หลังจากที่ทานข้าวกับพี่ชาย ท่ามกลางบรรยากาศที่สุดแสนจะตึงเครียด ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมา นอกจากต่างคนต่างทานเงียบๆ จะมีเพียงสายตาที่เหลือบมองกันไปมาเป็นบางครั้ง กระทั่งทานเสร็จ ฟ้ารดาก็เก็บถ้วยชามไปล้าง คามินก็ลุกไปหยิบมือถือที่ชาร์จทิ้งไว้มาเปิดเครื่อง และกดโทรไลน์ไปยังสายที่โทรเข้ามาก่อนหน้า พร้อมกับเปิดสปีกเกอร์โฟนให้คนที่ยืนล้างจานอยู่ได้ยินไปด้วย

ตู๊ด...ตู๊ด...ตู๊ด...

เสียงสัญญาณรอสายดังนับสิบๆ ครั้ง โดยมีสายตาเอาเรื่องของคามินจ้องมองอย่างไม่วางตา เพราะเตรียมจะด่าคืนถ้าหากปลายสายกดรับ แต่ก็ไร้วี่แวว

“ไม่มีคนรับสาย ก็เก็บ!”

คนที่เพิ่งจะล้างจานเสร็จ หันไปมองมือถือเครื่องใหม่ที่เพิ่งจะได้มาสดๆ ร้อนๆ ไม่ถึงชั่วโมง กลับถูกพี่ชายเอาไปเก็บใส่ในลิ้นชัก แล้ว ล็อกกุญแจตามซะแน่นหนา ครั้นจะเอ่ยปากอธิบายก็ดูจะเปล่าประโยชน์ เลยคิดว่าควรรอให้อีกฝ่ายใจเย็นลงกว่านี้ เพราะไม่เช่นนั้นเธออาจจะโดนพี่ชายส่งกลับไทยโดยที่ยังไม่ได้เจอกับเพื่อนสาว

วันต่อมา...ฟ้ารดาเดินทางไปร่วมงานไว้อาลัยของครูซกับพี่ชายตั้งแต่เช้า จนกระทั่งบ่ายสามโมงก็พากันกลับมาที่คอนโด

“พี่คิม”

“อะไร?” คามินหันไปมองตามเสียงเรียก

“น้องขอมือถือคืนได้ไหม” ฟ้ารดาทำใจกล้าเอ่ยขอ

“จะเอาไปติดต่อไอ้พระเอกนั่นเหรอ”

“บ้า! จะติดต่อมิกิต่างหาก เมื่อคืนฟ้านอนไม่หลับเลยกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับมิกิน่ะ”

คามินหันมองหน้าน้องสาวครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินไปไขกุญแจที่ลิ้นชักแล้วรีบหยิบส่งให้ เพราะเริ่มจะกลัวขึ้นมานิดๆ ถ้าหากเป็นไลน์ของแพรณาราจริง ก็อาจจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับอีกฝ่ายอย่างที่น้องสาวบอกก็เป็นได้

ฟ้ารดาดีใจรีบเอาไปชาร์จแบตได้เพียงครู่ก็พิมพ์แชตไลน์ส่งไปหาเพื่อนสาว เพื่อนัดเจออีกครั้ง

คามินยืนจ้องอ่านข้อความจนกระทั่งสองสาวนัดกันเสร็จจึงให้น้องสาวพิมพ์ขอไอดีไลน์ไป และทันทีที่อีกฝ่ายส่งไอดีไลน์มาในแชต ตนก็รีบกดแอดเพื่อนไปพร้อมกับส่งไอดีนั้นไปให้มารดาที่อยู่ประเทศไทยแอดตาม เพื่อป้องกันน้องสาวจอมซุ่มซามทำมือถือพังอีก

“ตกลงจะไปเจอมิกิจริงๆ ใช่ไหม?”

“ค่ะ” ฟ้ารดายิ้มให้กับคนมีท่าทีที่เย็นลง ก่อนจะเดินเอามือถือไปชาร์จแบตทิ้งไว้ให้เต็ม

“งั้นพรุ่งนี้พี่จะไปด้วย” คามินรีบบอก เพราะอยากจะเจอแพรณาราอยู่ไม่น้อย จากตอนแรกที่ลังเลว่าจะทำงานต่อที่อังกฤษอยู่ไหม? พอรู้ว่าอีกฝ่ายย้ายมาอยู่ในความดูแลของแขไขกับคาทอร์ เขาก็ตอบรับตำแหน่งที่อังกฤษทันที เพราะจะได้ตามสอดส่องเด็กสาวที่บิดาและมารดาเสียชีวิตไปแบบกระทันหันจากอุบัติเหตุ โดยทิ้งเงื่อนงำต่างๆ เอาไว้อย่างมากมาย แต่พอเข้ารับตำแหน่งจริง! ก็กลับไม่มีเวลาตามไปดูแลแพรณาราอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ เพราะงานที่นี่เยอะและยุ่งมากๆ

“ก็ดีสิคะ จะได้มีเจ้ามือเลี้ยง” ฟ้ารดาหัวเราะเบาๆ อย่างเข้าทาง

“งั้นไปอาบนอนพักก่อน ค่ำๆ ค่อยออกไปหาอะไรทานกัน” คามินบอกก่อนจะตรงไปห้องนอนของตัวเอง

ฟ้ารดามองตามพร้อมกับส่ายหน้าอย่างเพลียๆ แล้วรีบเดินเข้าไปยังห้องนอนของตัวเองด้วยสีหน้ายิ้มแย้มระคนดีใจ ที่จะได้เจอเพื่อนรักหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แต่ก็ยังคุยไลน์และวิดีโอคอลกันอยู่ตลอดๆ เว้นแต่ช่วงสองปีหลังที่เธอมีงานเข้าเยอะจนแทบไม่มีเวลา เพราะงานเดินแบบ ถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณาและงานอีเว้นท์ต่างๆ พากันโหมกระหน่ำเข้ามา ทำให้เธอตั้งรับกับความโด่งดังแทบไม่ทัน และถึงแม้ว่ามันจะรู้สึกเหนื่อย จนแทบไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง แต่ทว่า...ค่าตอบแทนที่แสนจะแพงนั้นก็คุ้ม! ทำให้เธอต้องรีบโกยเงินให้ได้มากที่สุด เพื่อที่วันหนึ่งเธอจะได้ไปใช้ชีวิตในแบบที่อยากจะใช้ ด้วยเงินที่หามาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง

ช่วงเย็นของวันต่อมา...

ขณะที่ฟ้ารดานั่งรอพี่ชายกลับจากที่ทำงานอย่างกระวนกระวายใจ เพราะใกล้จะถึงเวลาที่นัดกับเพื่อนสาวเอาไว้ แต่คามินก็ยังไม่โผล่มารับเธอสักที

ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ ทันทีที่ได้ยินเสียงมือถือดังขึ้น ฟ้ารดาก็รีบเปิดดู พอเห็นว่าเป็นสายเรียกเข้าของพี่ชายก็รีบกดรับ

“พี่คิม ถึงไหนแล้ว”

“ฟ้า! เอ่อ...พอดีพี่มีงานด่วนน่ะ เรานั่งแท็กซี่ไปก่อนได้ไหม เดี๋ยวเคลียร์งานเสร็จแล้วพี่จะรีบตามไป”

“เฮ้อ...ก็ได้ค่ะ” ฟ้ารดาถอนหายใจอย่างเพลียๆ ‘แล้วก็หลอกให้เรานั่งรออยู่ตั้งนาน’

“โอเค! อย่าแรดให้มากล่ะ” ปลายสายเตือนด้วยน้ำเสียงดุๆ

“หูยยย เห็นน้องเป็นคนยังไงกัน” สาวเจ้ากลอกตาอย่างเซ็งๆ ที่พี่ชายชอบมองตนในแง่ลบเกินไป

“หึ! ไอ้ที่เห็นก็ไม่เท่าไหร่นะ แต่กลัวไอ้ที่ยังไม่ได้เห็นซะมากกว่า”

“ชิ! แค่นี้นะคะ เดี๋ยวไปช้า” ฟ้ารดาส่ายหน้าอย่างเซ็งๆ ไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงให้เสียเวลา

“อืม! เจอมิกิแล้วแชตบอกพี่ด้วยนะ”

“รับทราบค่ะ” ฟ้ารดาวางสายเสร็จก็รีบตรงดิ่งไปยังลิฟต์แล้วกดลงไปยังล็อบบี จากนั้นก็ให้พนักงานเรียกแท็กซี่ให้พร้อมกับบอกจุดหมายปลายทาง

ร้านสิงโตดุ...เพชรดนัยขับมัสแตงเข้าไปจอดใกล้ๆ บูกัตติ เวย์รอน สีขาวมุก ก่อนจะอุ้ม ‘ซีซ่าร์’ ลูกหมาตัวน้อยแสนรู้เดินเข้าไปด้านในร้าน

“เพชร! ทางนี้” เชคาริกรีบลุกขึ้นยืนโบกมือให้ตัวช่วยทันใด

เพชรดนัยรีบเดินเข้าไปหารุ่นพี่ที่คบหากันมานาน ก่อนจะเอ่ยถามถึงเพื่อนรักที่นัดกันไว้เมื่อชั่วโมงก่อน

“อลันล่ะครับ!”

“คุยสายอยู่ในห้อง” เชคาริกบอกพลางชี้ไปที่ห้องทำงานที่เป็นห้องเก็บเสียง

“พี่เชคมีอะไรหรือเปล่าครับ?” เพชรดนัยถามหลังจากสังเกตอาการแปลกๆ ลนๆ ของอีกฝ่าย

“มี! ก็อลันน่ะสิ ดราม่าเรื่องของมิกิใหญ่เลย” เชคาริกบอกด้วยน้ำเสียงที่ตึงเครียดนิดๆ

“ทำไมเหรอครับ” เพชรดนัยถามอย่างสนใจก่อนจะส่งซีซ่าร์ให้กับพนักงานเสิร์ฟที่รู้จักเอาไปดูแลต่อ

“ก็น้อยใจที่มิกิหนีไปเที่ยวกับเพื่อนที่มาจากไทย แล้วไม่ยอมชวนไปด้วย น่ะสิ”

“ฮ่าๆๆ อาการหนักขึ้นทุกวันนะครับ” เพชรดนัยหันมองเพื่อนรักที่มีสีหน้าเคร่งเครียดผ่านกระจกใสของห้องทำงานอย่างขำๆ

“อืม! เมื่อครู่ก็ร่ำๆ ว่าจะไปตามมิกิ พี่น่ะห้ามแล้วห้ามอีก บอกว่าจะไปตามทำไมให้ยุ่งยาก แค่ให้คนขับรถไปถ่ายรูปมาให้ดูก็พอ!”

“ฮ่าๆๆ” เพชรดนัยหัวเราะลั่นกับอาการบ๊องๆ ของเพื่อนรักที่กำลังเดินกลับมาที่โต๊ะ ด้วยสีหน้าตื่นๆ

“เพชร! พี่เชค มะ...มิกิ มิกิ...”

“อลันใจเย็นๆ ก่อนเพื่อน” เพชรดนัยบอกพร้อมกับดึงเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆ มาให้อีกฝ่ายนั่ง

“เมียฉัน! เมียฉันเป็นเลสเบี้ยน” คนที่หัวใจสลายบอกด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด

“อะไรนะ!” เชคาริกกับเพชรดนัยอุทานพร้อมกันอย่างตกใจ

“ดะ...ดูนี่สิครับ” ออร์แลนโด้ส่งมือถือให้ทั้งสองดูมือไม้สั่นราวกับคนที่ทำอะไรไม่ถูก

เพชรดนัยจ้องมองภาพด้านข้างของสองสาวที่กำลังกอดกัน ก่อนจะเอ่ยถามอย่างสงสัย “ก็แค่เพื่อนกอดกันธรรมดา นายรู้ได้ยังไงว่าพวกเธอเป็นเลสเบี้ยน?”

“ก็แล้วทำไมต้องกอดกันแน่นขนาดนี้ด้วยล่ะ” คนขี้หึงหน้าตึงขึ้นมาทันใดที่โดนแย้ง

“โธ่! อลัน พี่ว่าเราคิดมากไปนะ” เชคาริกบอกอย่างเพลียๆ กับอาการล้นๆ ของรุ่นน้องคนสนิท

“ใช่! นายต้องสงบสติอารมณ์บ้างรู้ไหม” เพชรดนัยจัดต่อ

“ก็ถ้าพวกเธอทานข้าวเสร็จ แล้วพากันไปเปิดห้องที่โรงแรมแล้ว...แล้วก็ทำ...เอ่อ...”

“โอ้พระเจ้า!” เชคาริกอุทานออกมาเสียงดังกับความคิดของอีกฝ่ายที่ดูจะมโนไปไกลจนกู่ไม่กลับ

“นายก็ต้องปล่อยมิกิไปตามทางที่เขาชอบน่ะสิเพื่อน” เพชรดนัยแกล้งหยอก ‘แม่ง! มันเอาสมองส่วนไหนคิดวะ’

“เพชร! นี่ฉันซีเรียสนะโว้ย ฉันรักมิกิมากและฉันจะไม่ยอมเสียเมียให้กับผู้หญิงอย่างเด็ดขาด”

“เฮ้! พวกนายช่วยเอากระดาษกับปากกามาให้อลันหน่อย” เพชรดนัยหันไปบอกบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่

“เอามาทำอะไร?” เชคาริกที่กำลังกุมขมับอยู่เงยหน้าขึ้นถาม

“ก็จะเอามาให้อลันเขียนนิยายน่ะสิครับ! จินตนาการล้ำเลิศจริงๆ”เพชรดนัยเอ่ยแซวอย่างขำๆ

“ไอ้เพชร! ทำไมแกพูดแบบนี้วะ” ออร์แลนโด้ลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าไม่พอใจกับคำล้อเลียน ในขณะที่ตนกำลังเครียดจนแทบจะเป็นบ้า

“นั่งลง! แล้วดื่มเบียร์นี่ให้หมดแก้ว” เพชรดนัยบอกเสียงเย็น เมื่อเห็นอาการขึงขังของเพื่อนที่ดูคล้ายกับคนพร้อมจะมีเรื่อง

“ไม่! ฉันจะไปหาเมีย” ออร์แลนโด้บอกพร้อมกับคว้ากุญแจรถที่วางอยู่บนโต๊ะ

“นายจะไปหามิกิ แล้วยังไงต่อ สั่งสอนผู้หญิงคนนั้นอย่างงั้นเหรอ?” เพชรดนัยเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงประชด

“ใช่! ฉันจะทำแบบนั้นแหละ” ออร์แลนโด้ตอบกลับอย่างโมโห

“ถ้านายอยากเสียมิกิไปล่ะก็ เอาเลย! เชิญเลย แต่ฉันอยากจะบอกว่าถ้ามองในมุมกลับกัน ถ้ามิกิเข้าใจผิด คิดว่าฉันกับนายเป็นคู่ขา แล้วเธอก็อาละวาดด่าทอต่างๆ นานา พร้อมกับบอกให้นายเลิกคบฉัน นายจะทำยังไงฮะอลัน?” เพชรดนัยพยายามอธิบายให้เห็นภาพ

ออร์แลนโด้กลอกตาอย่างเซ็งๆ ก่อนจะแอบตอบในใจ ‘ก็ทำตามที่เมียบอกน่ะสิโว้ย!’

“นายควรนั่งลงแล้วใจเย็นให้มากกว่านี้ อย่าเพิ่งตีโพยตีพายอะไรออกไปจนกว่าจะรู้แน่ว่าสิ่งที่คิด มันใช่อย่างที่คิดแล้วจริงๆ” เพชรดนัยบอกพร้อมกับส่งเบียร์เย็นๆ ไปให้

“อายุก็ไม่ใช่น้อยๆ กันแล้วนะ พี่ว่าใจเย็นๆ แล้วค่อยๆ คุยกันดีกว่า” เชคาริกเอ่ยเตือน

“ผมขอโทษครับพี่เชค” ออร์แลนโด้เอ่ยก่อนจะรับแก้วเบียร์มาดื่ม แล้วถามเพื่อนรักกลับด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง “ไหนนายลองบอกมาซิ!ว่าฉันต้องทำยังไงบ้าง”

เพชรดนัยยิ้มก่อนจะยกแก้วเบียร์ขึ้นชนกับอีกฝ่าย จากนั้นก็เริ่มทำการเสี้ยม เอ๊ย! สอนคนใจร้อนให้กลายร่างเป็นผู้ชายอบอุ่นที่แสนสุภาพดั่งที่หญิงสาวทุกคนปรารถนาจะได้สัมผัส แม้ว่ามันอาจจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่พวกเธอจะได้เจอก็ตาม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel