คืนแต่งงานที่แสนเจ็บปวด
ตอนที่ 2
คืนแต่งงานที่แสนเจ็บปวด
“ผมขอตัวก่อน”
เจ้าบ่าวที่กำลังยืนต้อนรับแขกพร้อมกับเจ้าสาวทำท่าเหมือนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเมื่อมีคนส่งข้อความมาจนในที่สุดวิศเวศก็ทนไม่ไหวขอตัวเดินออกไปจากตรงนั้นทิ้งให้เจ้าสาวต้องทำหน้าที่รับแขกเพียงคนเดียว
“เจ้าสาวคนสวย เจ้าบ่าวไปไหนล่ะ”
บรรดาเพื่อนที่มหาวิทยาลัยเดินเข้ามาทักทายนิรดาแต่เมื่อมองไปรอบตัวไม่เห็นชายหนุ่มที่คิดว่าเป็นเจ้าบ่าวจึงถามด้วยความสงสัย
“คุณวิศเวศขอตัวไปเข้าห้องน้ำ เดี๋ยวก็คงมา พวกเรามาถ่ายรูปกันก่อนดีกว่า”
นิรดาเลือกที่จะโกหกทั้งที่เธอรู้ว่าชายหนุ่มไม่ได้เดินไปที่ห้องน้ำแต่แค่ไม่อยากให้เพื่อนๆรู้สึกว่า การแต่งงานของเธอครั้งนี้เจ้าบ่าวและตัวเธอไม่ได้เต็มใจเพราะแค่เธอแจกการ์ดเชิญแขกหลายๆคนก็พากันสงสัยไม่ว่าจะเป็นแขกของเขาหรือเธอต่างก็ไม่เคยรู้ว่าทั้งคู่ คบกันเพียงแต่ตามมารยาทถึงไม่มีใครกล้าซักถามอะไร
“ดีใจด้วยนะ มีแฟนปิดเงียบเลย เรียนจบได้ไม่ ถึงเดือนก็แต่งงานแล้ว พวกเราสิคบกับแฟนกันมาไม่รู้กี่ปียังไม่รู้เลยว่าจะได้แต่งไหมเผลอ ๆ ก็อยู่กันไปเรื่อย ๆ แบบนี้แหละ”
บรรดาเพื่อนๆต่างพากันพูดคุยเพราะหลายคนก็อยากจะรับรู้เรื่องราวของเจ้าบ่าวถึงแม้จะไม่กล้าถามตรงๆแต่ก็ทำให้เจ้ารู้ว่าเพื่อนๆต่างให้ความสนใจที่ทำไมไม่มีใครรู้จักชายหนุ่มที่เป็นเจ้าบ่าวของเธอในค่ำคืนนี้
“พวกเราไปนั่งก่อนนะ ตอนแรกว่าจะยืนเป็นเพื่อนรอจนกว่าเจ้าบ่าวของเธอจะมา อยากถ่ายรูปคู่ด้วยแต่ดูแล้วเขาน่าจะมีธุระทำในห้องน้ำเยอะไว้พวกเราค่อยถ่ายรูปกันวันหลังนะ”
หนึ่งในเพื่อนสนิทเริ่มดูท่าทางของเจ้าสาวออกจึง ไม่อยากจะยืนรอเจ้าบ่าวอยู่ตรงนั้นเพราะจะยิ่งทำให้นิรดาทำหน้าไม่ถูกจึงเลือกที่จะพูดเหมือนว่าทุกคนอยากที่จะไปนั่งที่โต๊ะเพื่อกินอาหารแล้วทั้งที่ความจริงทุกคนกำลังรู้สึกเป็นห่วงเพื่อน
นิรดาต้อนรับแขกอยู่แค่เพียงคนเดียวเกือบ ครึ่งชั่วโมงกว่าที่วิศเวศจะเดินกลับมาด้วยท่าทางเหมือนไม่ได้รู้สึกผิดที่ทิ้งเธอไปนานแบบนี้
“ได้เวลาที่เราต้องขึ้นเวทีแล้วคุณพร้อมหรือยัง”
เจ้าบ่าวหันมาถามเจ้าสาวของเขาทั้งที่จริงๆเขาควรจะถามตัวเองมากกว่าพร้อมหรือยังกับการที่จะให้พิธีดำเนินต่อไปเพราะท่าทางตอนนี้ของวิศเวศเหมือนคนเพิ่งผ่านการร้องไห้มา
ทุกอย่างในงานเป็นไปตามพิธีและขั้นตอนที่ถูกวางไว้หลายครั้งที่นิรดาแอบมองหน้าเจ้าบ่าวของเธอด้วยความรู้สึกที่ไม่สบายใจเพราะเหมือนเขากำลังมองหาใครสักคนอยู่ตลอดเวลาถึงแม้ว่ามือข้างหนึ่งจะจับมือของเธอไว้แต่เหมือนมืออีกข้างกำลังล้วงจับโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าซึ่งความจริงเขาไม่ควรที่จะมีท่าทางแบบนี้ในวันสำคัญที่ทั้งคู่กำลังยืนอยู่ต่อหน้าแขกที่ต่างเป็นคนสำคัญของทั้งสองครอบครัว
“มีอะไรเกิดขึ้นคะ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า”
นิรดาเดินตรงเข้าไปหาเจ้าบ่าวของเธอหลังจากที่ทั้งคู่เสร็จสิ้นพิธีเข้าหอหลังจากเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นและ วิศเวศก็หายออกไปนอกระเบียง เขากลับเข้ามาอีกทีพร้อมด้วยดวงตาแดงก่ำแล้วมองดูเธอเหมือนกำลังรู้สึกโกรธแค้น