บท
ตั้งค่า

บทที่ 9 สาวความจำเสื่อม 1.1

“เอาไป อุปกรณ์การทำงานของเธอ” เพลงมีนารับจอบที่เขาส่งมาให้อย่างงงๆ ก่อนจะถามออกไป

“คุณจะให้ฉันทำอะไร?”

“ให้นอนอาบแดดมั้ง” เขาตอบได้สุดกวนมากๆ “จอบมีไว้ขุดดิน ไม่ได้มีไว้ทาปาก งานของเธอก็คือขุดดินเตรียมการเพาะปลูก งานที่เธอทำอยู่บ่อยๆ ไงน้องหนู เอ๊ย!!...เพลง”

เพลงมีนามีสีหน้าตกใจทันทีที่ได้รับรู้ว่า งานที่เธอจะต้องทำนั้นคือขุดดิน แล้วตกใจมากกว่าที่รู้ว่า น้องสาวของตนเองทำงานตรากตรำหนักขนาดนี้ ขุดดินเตรียมเพาะปลูก มันน่าจะเป็นงานของผู้ชายมากกว่า กวินภพช่างใจร้ายเหลือเกินที่ให้เธอกับน้องสาวทำงานหนักเยี่ยงนี้

“ตอนที่น้องหนูอยู่ที่นี่ ไม่ใช่สิ...ตอนที่ฉันความจำยังดีดีอยู่ ฉันทำงานอย่างนี้เหรอ มันน่าจะเป็นงานของผู้ชายมากกว่านะ คุณแกล้งฉันหรือเปล่า?”

“เธอความจำเสื่อมก็เลยจำไม่ได้ งานนี้แหละที่น้องหนูทำทุกวัน ทำตั้งแต่เช้ายันสิบเอ็ดโมง พอสิบเอ็ดโมงน้องหนูก็ต้องไปทำกับข้าวให้คนงานกิน พอตกบ่ายก็ต้องไปเลี้ยงวัวท้ายไร่โน่น บ่ายสองโมงครึ่งก็ต้องมานั่งรีดนมวัว พอสี่โมงเย็นก็เข้าครัวทำกับข้าวให้คนงานกินรอบเย็นอีก งานของน้องหนูในแต่ละวันก็มีเท่านี้แหละ อ้อ!!...ลืมไป เธอต้องตื่นตั้งแต่ตีห้าครึ่งเพื่อมาทำอาหารเช้าให้คนงานกินด้วยนะ งานของน้องหนูก็มีแค่นี้แหละ”

เพลงมีนาหน้าเบิกตากว้างหลังจากได้ยินกิจวัตรประจำวันของน้องหนูที่จะต้องทำในแต่ละวัน กวินภพใช้น้องสาวเธอคุ้มจริงๆ ให้ทำงานตั้งแต่รุ่งสางยันเย็นอย่างนี้เชียวหรือ แล้วงานแต่ละอย่างนอกเหนือจากการทำอาหารเลี้ยงคนงาน เป็นงานที่ผู้ชายทำทั้งสิ้น

ใช้แรงงานเกินไปแล้ว...

เพลงมีนารู้สึกสงสารน้องสาวเหลือเกิน แต่ก็ไม่เข้าใจว่าเพียงรัมภามีเหตุผลอันใดถึงได้ทนลำบากตรากตรำถึงเพียงนี้ แล้วคิดว่าเหตุผลนั้นคงจะสำคัญมากด้วย ไม่เช่นนั้นคงไม่อดทนทำงานที่หนักเกินหญิงแบบนี้

“คุณบอกว่าน้องหนูเป็นดาวยั่วประจำไร่ แต่ฉันมาคิดๆ ดูแล้ว มันไม่น่าจะใช่นะ คุณเข้าใจอะไรผิดแน่ๆ” เธอเอ่ยขึ้นมาด้วยความฉงนสงสัย

“เข้าใจผิด...เข้าใจผิดยังไงแม่คุณ?” เขาเท้าเอวถาม

“ก็คุณเล่นใช้แรงงานน้องหนูทั้งวัน แล้วจะมีเวลาที่ไหนไปยั่วผู้ชายล่ะ?” ความสงสัยของเพลงมีนาถูกขับออกไป

“คนเรามันคิดจะยั่ว มันก็ยั่วได้ตลอดเวลานั่นแหละ เธอจำไม่ได้ไง ก็เลยไม่รู้ว่าตัวเองยั่วยวนคนงานของฉันด้วยวิธีไหน อย่างไรบ้าง ถ้าเธออยากรู้เดี๋ยวฉันจะร่ายให้ฟังนะ กับข้าวตอนเช้าเธอก็แจกนมสดให้คนงานของฉันกินทุกวัน แล้วไอ้นมสดที่ว่านี้ก็คือนมของเธอนั่นแหละ เธอจะใส่สายเดี่ยวบ้าง เกาะอกบ้าง แต่ละชุดแม่คุณเอ๋ย นมแทบจะปลิ้นออกมา ฉันเห็นเธอใส่เสื้อผ้าครั้งแรกยังอึ้งเลย อึ้งที่ว่าเธอใส่เสื้อผ้าซะมิดชิด เนื้อนมไข่แทบไม่เห็นเลย แล้วที่เธอบอกว่า ฉันใช้แรงงานน้องหนูมากเกินไป ไม่จริงหรอก เพราะน้องหนูคนเดิมทำนมหกครั้งหนึ่ง คนงานของฉันก็รีบคว้าจอบคว้าเสียมมาขุดดินแทนทุกวัน น้องหนูแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย นอกจากทำนมหก ทีนี้เธอเข้าใจหรือยังว่า น้องหนูใช้เวลาไหนยั่วคนงานของฉัน”

กวินภพหาช่องทางแก้ตัวได้อย่างสวยงาม สวยงามจนคนที่ถามถึงกับอึ้ง เพลงมีนาหน้าร้อนวูบวาบขึ้นมาทันทีทันใด คิดในใจอยู่ว่า เพียงรัมภาทำถึงขนาดนี้เชียวหรือ ชักอยากรู้เหตุผลที่น้องสาวฝาแฝดทำลงไปมากขึ้นหลายเท่า แต่ก็ยังไม่เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดอยู่ดีจนกว่าเธอจะรู้ความจริงทั้งหมด

“ฉันก็แค่ถามดูเฉยๆ ว่าแต่ไหนๆ คุณก็บอกมาหมดแล้ว คุณบอกฉันได้มั้ยว่า ฉันทำอะไรให้คุณเจ็บแค้นใจนักหนา ถึงขั้นต้องลักพาตัวฉันมาที่นี่”

เธอคิดว่าการถามถึงเรื่องราวทั้งหมดน่าจะดีกว่ามาตามสืบตามหาด้วยตัวเอง และคนที่จะให้คำตอบดีที่สุดก็คือกวินภพ แล้วคนที่เธอถามคำถามตอนนี้ก็ไม่มีอารมณ์ตอบเสียด้วย หน้าแดงก่ำ กรามขบกันแน่น...ของขึ้นอีกแล้ว

“อย่าถามคำถามนี้อีกนะ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว เพราะฉันนึกถึงข้อนี้ทีไร ฉันของขึ้นทุกที”

เสียงเข้มห้วนโต้ตอบกลับมา เพลงมีนาหยุดคำถามที่จะเปล่งต่อไปทันควัน เธอกลัวที่สุดตอนที่เขาของขึ้น เพราะกวินภพจะทำอะไรได้หลายอย่างโดยที่เธอไม่คาดคิด

“งั้นฉันไปทำงานก่อนนะ” เธอรีบนำพาตัวเองออกไปจากจุดนี้ทันที ก่อนที่เขาจะของขึ้นไปมากกว่านี้

“เดี๋ยวก่อน” เพลงมีนาหันมามองต้นเสียงช้าๆ เกรงๆ และกลัวๆ

“อะไรอีกล่ะ?” คนงานสาวถามเสียงสั่น

“ตอนสิบเอ็ดโมงฉันจะให้ต้อมมารับไปทำกับข้าวที่โรงครัว”

คำสั่งนี้ทำเอาเธอตกใจมากขึ้น ทำกับข้าว มันห่างไกลเธอยิ่งนัก อาหารไทยเธอทำไม่เป็นสัปปะรด จะพูดได้อีกนัยหนึ่งว่าทำไม่เป็น จะมีเพียงไข่ดาวและไข่ต้มเท่านั้นที่ทำได้ งานนี้เธอจึงคิดหนักเอาการ

อีกประการหนึ่งตอนที่เขาร่ายงานของน้องหนูให้เธอฟัง มีการทำกับข้าวรวมอยู่ด้วย ซึ่งเพลงมีนาคิดว่า เป็นแค่ลูกมือคอยหยิบจับเฉยๆ แต่นี่เขาให้เธอเป็นแม่ครัวลงมือทำอาหารเอง งานนี้คงเททิ้งทั้งหม้ออย่างไม่ต้องสงสัย

“หา...ทำกับข้าวเหรอ?” เธอถามเสียงสูง

“ใช่สิ...ทำกับข้าว วันนี้ฉันอยากกินแกงเขียวหวานไก่ใส่นมสด ไปทำงานได้แล้ว ฉันก็จะไปทำงานของฉันเหมือนกัน แล้วอย่าไปยั่วใครให้มาทำงานแทนเด็ดขาด และถ้าเธอขุดดินมีความยาวน้อยกว่าสองร้อยเมตรตามเวลาที่ฉันกำหนด ฉันก็จะฟันเธอลากเธอไปฟันตรงเพิงพัก แล้วถ้าคิดหนีฉันจะให้คนงานชายจับเธอขึงพืด” พูดจบก็ก้าวเท้ายาวๆ ไปทันที

“คนบ้า คนไร้อารยธรรม เอะอะอะไรก็จะปล้ำท่าเดียวเลย ขู่ได้ขู่ดี”

พูดไปหน้าแดงไป ฟาดขาไปในอากาศอย่างเจ็บแค้นใจที่ทำอะไรเขาไม่ได้ ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบทุกกรณี แลบลิ้นใส่แผ่นหลังของคนชอบสั่งที่เดินห่างออกไป

คล้อยหลังกวินภพไปร่วมห้านาที แทนที่เธอจะไปทำงานตามที่เขาสั่ง แต่เพลงมีนากลับยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เธอกำลังยืนจมอยู่กับความคิดของตัวเองว่า จะทำแกงเขียวหวานไก่ใส่นมสดได้อย่างไร ในเมื่อเธอทำไม่เป็น กินเป็นเพียงอย่างเดียว เรื่องการทำอาหารต้องยกให้เพียงรัมภา เพราะรายนั้นเป็นแม่ครัวใหญ่ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าวนารักษ์

“จะทำยังไงดีเนี่ย?...เฮ้อ”

เธอถามตัวเอง ถอนหายใจออกมาอย่างกลัดกลุ้ม งานขุดดินไม่เหนื่อย ไม่ลำบากใจเท่าการทำอาหารเลย ยังนึกภาพตอนที่ตนเองทำอาหารไม่ออก ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นทำแกงเขียวหวานไก่ใส่นมสดยังไงดี

แต่กว่าจะถึงตอนนั้น ขุดดินให้ได้ตามคำสั่งของกวินภพก่อนดีกว่า เพราะไม่เช่นนั้น คำขู่ของเขาก็จะเกิดขึ้นจริง คิดได้ดังนั้นเพลงมีนาจึงลงมือทำงานขุดดินทันที

10.55 น.

จักรพงษ์เดินมายังที่ดินท้ายไร่ก่อนเวลาที่เจ้านายหนุ่มสั่งเล็กน้อย พอเดินมาถึงก็พบว่าเพลงมีนากำลังก้มหน้าขุดดินกลางแดดเปรี้ยง โดยไร้ซึ่งหมวกมากันความร้อนจากแสงตะวันลามเลียใบหน้า ยังดีที่ว่าเธอสวมใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาว มันจึงกันแสงที่ร้อนระอุได้ในระดับหนึ่ง

“ขุดได้แค่นี้เองเหรอ?”

น้ำเสียงเย็นชาของจักรพงศ์เอ่ยถาม เพลงมีนายืดตัวขึ้นเงยหน้ามองชายร่างสูง เช็ดเหงื่อที่ไหลอาบใบหน้าด้วยแขนเสื้อ

“ค่ะ ได้แค่นี้ ดินมันแข็งค่ะ แรงฉันก็มีน้อย เลยได้แค่นี้”

เพลงมีนาตอบเสียงอ่อย มองดินที่เธอขุดไปไม่ถึงห้าสิบเมตรอย่างเศร้าสร้อย หญิงสาวพยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่ก็ทำไม่ได้ดังที่กวินภพสั่ง ความที่เธอไม่เคยทำงานนี้มาก่อนก็เป็นอุปสรรคอย่างหนึ่ง บวกกับดินที่แข็งเรี่ยวแรงเธอก็มีน้อย ทำให้ขุดดินได้ยากกว่าคนอื่น งานจึงได้เท่าที่เห็น

เวลานี้เรื่องการทำอาหารเธอไม่กลัวเท่าคำขู่ของกวินภพที่ว่า หากขุดดินน้อยกว่าสองร้อยเมตรเขาจะปล้ำเธอกลางเพิงพัก เพลงมีนากลัวเหลือเกิน...กลัวว่าเขาจะทำตามคำขู่ เนื่องเขาบ้าดีเดือดใช่เล่น

“ทีหลังทำงานหัดใช้สมองหน่อยนะ ไม่ใช่เก่งแต่ยั่วผู้ชาย ถ้าดินมันแข็งก็เอาน้ำมาราดสิ ดินมันจะได้อ่อนตัว การขุดมันก็จะได้ง่ายขึ้น”

ปากของจักรพงษ์นั้นร้ายพอๆ กับปากของเจ้านาย เชือดเฉือนหัวใจคนฟังไม่ต่างกัน

“ก็ฉันไม่รู้นี่” เพลงมีหน้าพูดเสียงเศร้า หน้าตาเศร้าตามไปด้วย

“ทีนี้ก็รู้แล้ว ครั้งหน้าก็ทำตามที่บอกก็แล้วกัน วางจอบซะหน้าที่ต่อไปของเธอก็คือ ทำกับข้าว”

คนที่พูดหมุนตัวก้าวเดินไปยังโรงครัวที่อยู่ไม่ไกล เพลงมีนาทิ้งจอบที่อยู่ในมือลงบนดิน เร่งฝีเท้าเดินตามร่างสูงด้วยหัวใจห่อเหี่ยว เวลานี้หากให้เลือกระหว่างขุดดินกับทำกับข้าว เพลงมีนาเลือกทำอย่างแรกดีกว่า

แน่นอนระหงว่างทางที่ย่ำเดินไปโรงครัว สายตาของคนงานทั้งหญิงและชาย มองมายังเธอด้วยสายตาที่แสดงถึงความเกลียดชัง สายตาบางคู่ยังมีความอาฆาตแค้นปะปนมาด้วย เพลงมีนารู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง หวาดกลัวเป็นอย่างมาก ท่าทางเช่นนี้ สีหน้าอย่างนี้แสดงว่าเพียงรัมภาต้องฝากความเจ็บแค้นไว้ให้กับคนงานทั้งหลายอย่างมากมาย

มันคือเรื่องอะไรนะ...อยากรู้จริงๆ

“น้องหนู เธอไม่ต้องกลัวหรอกว่าคนงานพวกนั้นจะทำอะไรเธอ เจ้านายกำชับแล้วสั่งทุกคนไว้แล้วว่า อย่าทำอะไรเธอแม้แต่ปลายเล็บ เพราะเจ้านายจะจัดการกับเธอเอง”

จักรพงษ์หันมาพูดกับสาวที่เดินตามมา เขาลอบเห็นสายตาของคนงานหลายคน และหันมามองสีหน้าของเพลงมีนา ทำให้เขารู้ว่าเธอกำลังกลัว

“น้องหนูทำอะไรไว้กับที่นี่บ้าง บอกฉันได้มั้ย?” เธอถามด้วยความอยากรู้

“เรื่องทุกอย่างมันอยู่ในสมองของเธอไม่ใช่เหรอ เพียงแต่ว่าเธอจำมันไม่ได้เท่านั้นเอง สักวันหนึ่งเธอจะจำได้ว่า ทำอะไรไว้ให้กับคนที่นี่บ้าง”

เขาพูดขณะที่ก้าวเดินเข้าไปในโรงอาหารขนาดใหญ่ ที่มีโต๊ะและม้านั่งเรียงรายเป็นแถว

“ถึงแล้ว ไปทำหน้าที่ต่อไปของเธอได้แล้ว”

เขาหยุดเดินเมื่อเข้ามาถึงโรงครัว สถานที่ที่เพลงมีนาจะต้องทำงานเป็นลำดับต่อไป

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel