บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 ฉันไม่ใช่น้องหนู 1

สองเดือนต่อมา

เวลาประมาณสิบ 13.00 น. ณ สนามบินสุวรรณภูมิ

สตรีนางหนึ่งเดินออกมาจากช่องประตูของผู้โดยสารขาเข้าด้วยรอยยิ้มแห่งความดีใจ นานสิบปีแล้วที่เธอไม่ได้กลับมาเหยียบบ้านเกิดเมืองนอน หลังจากที่เธอต้องย้ายไปอยู่กับพ่อแม่บุญธรรมที่รับเลี้ยงดูเธอไปเป็นลูกยังประเทศนิวซีแลนด์

เพลงมีนาเฝ้ารอการกลับมาเมืองไทยทุกลมหายใจ เฝ้ารอให้ตนเองจบการศึกษาในระดับชั้นปริญญาตรีตามความตั้งใจของผู้มีพระคุณ แล้วหากถึงวันนั้น เธอจะได้กลับมาเยือนแผ่นดินเกิดตามคำสัญญา ซึ่งวันนั้นก็เดินทางมาถึง...

วันที่เธอจะได้พบหน้าน้องสาวฝาแฝด พบเด็กๆ หลายคนที่ตอนนี้เติบโตเป็นหนุ่มเป็นสาว ได้พบกับคุณแม่วนารัตน์ แม่ที่ให้โอกาส ให้ที่อยู่และให้ชีวิตใหม่กับเด็กกำพร้าคนนี้ และอาจได้พบกับสมาชิกใหม่อีกหลายชีวิต ได้กลับไปหาบ้านหลังแรกแสนอบอุ่น

...สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าวนารัตน์...

“คุณแม่คะ เพลงถึงสนามบินแล้วนะคะ ตอนนี้กำลังออกไปเรียกแท็กซี่ค่ะ”

พอตนเองออกมายืนอยู่หน้าประตูตรงช่องทางที่ตัวเองเดินออกมา สิ่งแรกที่เพลงมีนาทำก็คือ โทรศัพท์ไปหามารดาบุญธรรม รายงานตามที่ได้ตกลงกันไว้

“ดูแลตัวเองดีดีนะลูก” เสียงแสดงความเป็นห่วงและห่วงใยดังมาจากปลายสาย

“ค่ะคุณแม่ คุณแม่กับแด๊ดดี้ดูแลตัวเองด้วยนะคะ”

ลูกที่ดีเอ่ยตอบกลับไป ปลายสายพูดโต้กลับมาไม่กี่ประโยค การสนทนาก็ยุติลง เพลงมีนาหย่อนโทรศัพท์เข้าไปในกระเป๋าสะพาย จากนั้นก็เข็นรถที่บรรจุสัมภาระออกไปยังอาคารของสนามบิน ไปยังจุดจอดแท็กซี่

“ไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าวนารัตน์ค่ะ อยู่ถนนพหลโยธิน”

ผู้โดยสารสาวเอ่ยบอกโชเฟอร์แท็กซี่รูปร่างเล็ก อายุประมาณห้าสิบปี พอได้ยินสถานที่ที่จะต้องไปส่งสาวหน้าสวย เขารีบทะยานรถออกไปทันที โดยไม่รู้ตัวเลยว่ามีรถยนต์คันหนึ่งขับตามไป

คนขับสูงวัยขับรถมาตามถนนสายหลัก และอีกไม่ถึงสองกิโลเมตรก็จะถึงทางด่วน เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อรถยนต์คันงามราคาแพงที่ขับตามมาได้ชนกับท้ายรถแท็กซี่ไม่แรงมากนัก ส่งผลให้โชเฟอร์แท็กซี่ต้องหยุดรถ ก้าวลงจากรถเพื่อตรวจสอบความเสียหาย การเดินทางของเพลงมีนาจึงล่าช้าลง ตามความต้องการของใครบางคน

“นี่ลุงค่าเสียหาย” ยังไม่ทันที่คนขับรถแท็กซี่จะเอ่ยปากพูดอะไร เจริญกรุงที่ก้าวลงจากรถคันหรูพร้อมกับบุรุษร่างสูงอีกสองคนก็ยื่นเงินปึกหนึ่งให้คู่กรณี ส่วนชายอีกสองคนเดินไปยังรถแท็กซี่ เปิดประตูตอนหลังของรถคันดังกล่าว

เพลงมีนาที่ตกอยู่ในอาการตกใจกับอุบัติเหตุ ใบหน้าของเธอยิ่งซีดเผือดมากขึ้น เมื่อได้ยินเสียงและบางสิ่งบางอย่างในมือของชายหนุ่มรูปงามที่เธอไม่รู้จักมาก่อน

“ลงมาจากรถเดี๋ยวนี้น้องหนู แล้วอย่าแหกปากร้องแม้แต่นิดเดียว ไม่งั้นยิงไส้แตกแน่”

เสียงเหี้ยมเกรียมของกวินภพดังขึ้น ใบหน้าของเขาดุเข้ม จริงจัง มองเธอไม่ไหวติง

“พวกคุณเป็นใคร เป็นโจรเหรอจะมาจี้ฉันใช่มั้ย เอาไปเลยอยากได้อะไรก็เอาไปเลย แต่อย่าทำอะไรฉันก็พอ”

ความที่คิดว่าเขาเป็นโจร ทำให้เธอพูดประโยคนี้ขึ้นมา เงินทองและสิ่งของมีค่าที่ติดตัวมาสำคัญน้อยกว่าชีวิต เพราะฉะนั้นอีกฝ่ายอยากจะได้อะไร เธอพร้อมที่จะยกให้อย่างไม่มีข้อแม้ ขอเพียงละเว้นชีวิตของเธอก็พอ

“อย่าทำเป็นไขสือแกล้งจำฉันไมได้นะน้องหนู ฉันไม่ใช่โจรแล้วไม่ต้องการเงินของเธอ เงินของฉันน่ะมี มีท่วมหัวเลยด้วย แต่สิ่งที่ฉันต้องการได้คือเธอ ตัวเธอต่างหาก เพราะฉะนั้นกรุณาลงมาจากรถ ไม่อย่างนั้นจะยิงให้พรุนเลยคอยดู”

คำขู่ของเขาดังขึ้นอีกครั้ง ดวงตาสาวเวลานี้มีแต่ความตื่นตระหนก ใจเต้นรุนแรง สมองแทบคิดอะไรไม่ออก หยุดทำงานอย่างเฉียบพลัน นาทีฉุกเฉินตรงหน้าสร้างความกลัวจับขั้วหัวใจของเพลงมีนาก็ว่าได้ ยิ่งมองเห็นปืนเก็บเสียงของผู้พูดยิ่งทำให้สติของเธอเตลิดไปไกลสุดกู่

“ไม่ ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น ฉันไม่ใช่น้องหนู ฉันไม่รู้จักพวกคุณ” เธอพูดเสียงสั่น

“พูดไม่รู้เรื่องชอบให้ใช้กำลังดีนัก ลงมาเลย ลงมาเดี๋ยวนี้”

กวินภพหมดความอดทน ส่งปืนให้จตุรทิศที่ยืนอยู่ข้างๆ ก่อนจะใช้มือใหญ่ของตนคว้าหมับตรงลำแขนสาว แล้วกระชากอย่างแรง แรงจนร่างสาวลงไปนั่งบนพื้นถนน ไม่สนใจสายตาของไทยมุงที่ยืนดูเหตุการณ์

“น้องหนูลุกขึ้น ถ้าไม่ลุกขึ้นฉันจะลากเธอไป ลุกขึ้น”

กวินภพตวาดเสียงเข้ม กระตุกแขนของเพลงมีนาหลายครั้ง คล้ายจะบอกเธอเป็นนัยว่า ให้ลุกขึ้นยืน

“ไม่ลุก ฉันไม่ใช่น้องหนู ฉันชื่อเพลงมีนา ไม่ใช่น้องหนู”

คนที่ไม่ใช่น้องหนูพูดเสียงค่อนข้างดังให้เจ้าของมือใหญ่ที่จับแขนเธอไม่ปล่อยได้รับรู้

“ปากแข็งดีนัก อยากเนื้อตัวถลอกปลอกเปลือกก็เอา ได้เลย...ฉันไม่แคร์อยู่แล้ว”

พูดจบก็ลากร่างสาวไปตามพื้นถนน ไม่สนใจเสียงร้องโอดครวญของเธอ ส่วนจตุรทิศทำหน้าที่หยิบกระเป๋าสะพายและกระเป๋าเดินทางของเพลงมีนาไปไว้ยังรถยนต์ของผู้เป็นนาย ปล่อยให้กวินภพจัดการกับสาวดาวยั่วเพียงลำพัง

“ปล่อยฉัน อย่าทำกับฉันแบบนี้ ฉันไม่ใช่น้องหนู ไม่ใช่ คุณเข้าใจผิด”

เพลงมีนาไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมให้เขาลากเธอเยี่ยงหมูเยี่ยงหมาง่ายๆ ฝืนตัวเต็มที่ พร้อมกับร้องตะโกน “ช่วยด้วย ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยทีค่ะ”

“พ่อหนุ่มจะทำอะไรน่ะ ปล่อยผู้หญิงเดี๋ยวนี้นะ”

คนที่พูดคือโชเฟอร์แท็กซี่ที่อดรนทนไม่ไหว ห้ามปรามการกระทำของชายหนุ่มรุ่นลูก

“เรื่องของผัวเมีย ลุงอย่ายุ่ง” กวินภพตวาดกลับ

“ไม่ค่ะลุง หนูไม่ใช่เมียเขา” ฝ่ายหญิงค้านสวนกลับไป

“อย่ามาตอแหลว่าไม่ใช่ หนีตามชู้ไปอยู่เมืองนอกตั้งหลายเดือน ทิ้งลูกทิ้งผัวให้นอนร้องไห้อยู่กลับบ้าน โดยที่เธอไม่คิดจะใส่ใจ พอกลับมาจากเมืองนอกแทนที่จะกลับไปดูหน้าลูกที่เอาแต่ร้องไห้ทุกวัน พร่ำเพ้อถึงแม่ชั่วๆ ดันจะไปหาชู้ต่อซะนี่ ไม่ตบให้คว่ำก็บุญเท่าไหร่แล้ว ไป...กลับบ้านไปหาลูก”

กวินภพจงใจที่จะเปล่งเสียงให้ดังกว่าเดิม หวังจะให้ทุกคนที่ยืนมุงดูเหตุการณ์ได้ยิน และทำให้ความคิดของบุคคลทั้งหลายเปลี่ยนแปลงไป แล้วมันก็ได้ผล ทุกคนต่างซุบซิบนินทากับคำพูดที่ได้ยิน มองมายังสาวที่โดนกระชากลากถูด้วยสายตาประณามหยามเหยียด ไม่มีใครก้าวเท้าไปช่วยหญิงสาวที่ถูกลากเลยสักคน แม้กระทั่งลุงขับรถแท็กซี่ที่ยืนมองเพลงมีนาด้วยสายตาที่แตกต่างกับคนอื่นๆ

เพลงมีนาหน้าชาวาบ เมื่อได้ยินคำพูดของชายที่ไม่รู้จัก ได้เห็นสายตาของใครหลายๆ คนที่มองมายังเธอ สายตาของพวกเขาอัดแน่นด้วยความชิงชัง เป็นสายตาที่เธอไม่เคยได้รับจากใครมาก่อน

“ไม่จริง ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่อย่างนั้น หนูไม่ได้เป็นอะไรกับเขานะคะ”

“ยังจะปากแข็งไม่เลิกอีก จะให้โชว์หลักฐานให้ทุกคนดูมั้ยว่าเธอสวมเขาให้ฉัน มานี่เลย มานี่กลับบ้านเดี๋ยวนี้”

กวินภพใช้แรงกำลังที่เหนือกว่า ลากร่างสาวไปตามพื้นถนน แม้ว่าเธอจะฝืนร่างกายเอาไว้ก็ตาม

“ลุงจ๋า ลุงช่วยหนูด้วย ช่วยหนูด้วยนะคะ” เธอหันมาเว้าวอนคนที่อยู่ใกล้ที่สุด

“กลับบ้านไปหาลูกเถอะนังหนู กลับตัวกลับใจเสียใหม่นะ”

คนขับแท็กซี่พูดจบก็หมุนตัวเดินกลับไปยังรถทำมาหากินของตน พร้อมกับค่าเสียหายหลายหมื่นที่อยู่ในมือ กวินภพยิ้มเยาะยามที่ได้เห็นสีหน้าของเธอตอนนี้

“ไม่มีใครช่วยเธอได้หรอกน้องหนู งานนี้เธอตายคาไร่ของฉันแน่ มานี่”

เขาขู่ฟ่อเธออีกครั้ง ก่อนที่จะลากร่างสาวไม่หยุด เพลงมีนาก็ยังฝืนตัวและเปล่งเสียงร้องห้าม เสียงขอความช่วยเหลือต่อไป แต่ทว่าไม่มีใครสนใจเรื่องของผัวเมียเลยสักคน ต่างเดินกลับไปทำงาน ไปค้าขายของตนตามเดิม

กวินภพลากร่างอวบอิ่มมาจนถึงประตูตอนหลังของรถยนต์คันหรูของตนที่เปิดอ้าอยู่ ออกแรงกระชากเธอให้ลุกขึ้นยืนเพียงครั้งเดียว ก่อนจะผลักร่างสาวเข้าไปนั่งในรถ ก่อนจะหันไปรับกระเป๋าสะพายของเพลงมีนาที่อยู่ในมือของจตุรทิศมาปาใส่ร่างของหญิงสาว

กระเป๋าใบใหญ่ที่มีน้ำหนักมากเนื่องจากเธอใส่เครื่องมือสื่อสารไว้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์และไอแพด เธอจึงเจ็บจนจุกไปในทันทีเมื่อโดนกระแทก หนำซ้ำตรงช่วงขาที่ถูไถไปบนพื้นถนนคอนกรีตยังแสบร้อนไปทั้งขา โชคดีที่ว่าวันนี้เธอสวมใส่กางเกงยีนส์ จึงทานแรงเสียดสีได้มากโข หากเธอสวมใส่กระโปรงมามีหวัง ขาของเธอต้องถลอกเป็นรอยแดงแน่นอน

ปัง...

เสียงปิดประตูโครมใหญ่ หลังจากที่เจ้าของรถสอดตัวเข้ามานั่งข้างๆ ร่างเล็กที่ถอยร่นไปนั่งชิดติดประตูอีกด้าน นั่งมองหน้าเขานิ่งงัน มองทั้งน้ำตา

“ฮือๆๆ คุณทำกับฉันอย่างนี้ทำไม ฉันไปทำอะไรให้คุณ”

เพลงมีนาร้องไห้ออกมาอย่างสุดจะกลั้น เหลือบมองใบหน้าของเขาเพียงแวบเดียว ก่อนจะก้มหน้ามองหน้าตักของตนเอง เมื่อเห็นประกายตาน่ากลัวคู่นั้น

“อย่ามาทำเป็นไม่รู้จักฉันน้องหนู ทั้งๆ ที่เธอรู้อยู่แก่ใจว่าตัวเอง

ทำอะไรไว้กับฉันบ้าง”

เสียงเข้มโต้กลับ ดวงตาคมกล้ามองเขม็งไปยังร่างสาวที่กอดกระเป๋าเอาไว้แน่น สายตาคู่นั้นแข็งกร้าว โกรธแค้น อยากจะเฉือนเนื้อเธอออกมาทาเกลือแล้วแปะทับเข้าไปใหม่ ให้เธอแสบร้อนครางครวญอย่างทุกข์ทรมาน

“ฉันไม่ใช่น้องหนู ฉันไม่ใช่ ฉันชื่อเพลงมีนา”

“อย่ามาทำอย่างนี้กับฉันน้องหนู อย่ามาทำเป็นไม่รู้จักฉัน ไม่รู้ว่าตัวเองชื่อเสียงเรียงนามอะไร” เขาตวาดลั่นเสียงดังลั่นรถที่กำลังมุ่งตรงไปยังไร่พฤกษาจังหวัดลำปาง “อ๋อ!!...ฉันลืมไป ชื่อน้องหนูเป็นชื่อปลอม ชื่อจริงของเธอคงจะชื่อเพลงมีนาล่ะซิ”

“ไม่ใช่ ฉันไม่ได้ชื่อน้องหนู ไม่เคยใช้ชื่อนี้ด้วย ฉันใช้แต่ชื่อเพลงมีนา เพลงมีนา เพลงมีนา เพลงมีนาได้ยินหรือเปล่า ฉันชื่อเพลงมีนา”

เธอตะโกนใส่หน้าชายหน้าเข้มบ้าง พอตะโกนออกไปใจสาวก็หล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที เมื่อเขาเลื่อนลำตัวเข้ามาใกล้ เอื้อมมือมาบีบแก้มทั้งสองข้างของเธอ จนแก้มเนียนสวยร้าวเจ็บไปทั่ว น้ำตาจึงขับออกมาจากเบ้าตาทั้งสองข้าง

“ใช่ เธอชื่อน้องหนู ฉันสมองไม่เสื่อม ตาไม่พร่ามัวถึงขนาดจำคนที่ทำให้ฉันเกือบจะเจ๊งไม่ได้หรอกนะ ฉันสู้อุตส่าห์ลงทุนลงแรงไปกับไร่นี้ตั้งหลายปี แต่พอเธอเข้ามาทำงานในไร่ของฉัน เธอก็สร้างความฉิบหายให้กับฉันอย่างมากมาย ยั่วยวนคนงานในไร่จนหลงหัวปักหัวปรำ ก่อนจะชักชวนให้ไปทำงานในไร่ของไอ้ท็อป พอพ้นวันกำหนดที่เก็บเกี่ยวเสร็จ เธอก็ให้ไอ้ท็อปมันถีบหัวคนงานทิ้ง ปล่อยพวกเขาลอยแพ ตกงานอย่างไม่ดูดำดูดี ส่วนเธอพอเป็นนกต่อเสร็จก็บินหนีอย่างไร้ร่องรอย สองเดือนมานี้ฉันไม่เคยหยุดตามหาเธอเลย แล้วคงไม่โง่ปล่อยให้เธอเดินออกไปจากไร่นี้ง่ายๆ แน่ เธอจะต้องได้รับบทเรียนที่ทำไว้กับฉัน”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel