2
การจราจรวันนี้แน่นขนัดอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาที่ผู้คนจะเลิกงานกลับบ้าน โชคดีที่รถยังสามารถเคลื่อนตัวไปได้ ไม่ติดแหง็กเหมือนในชั่วโมงเร่งด่วน ทำให้โชติกามาถึงบริษัททลอเรลี่ช็อกโกแลตก่อนเวลาเพียงสิบห้านาที
เธอเดินอย่างมั่นใจเข้าไปในตึกที่ถูกตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา ที่หน้าล็อบบี้มีน้ำพุช็อกโกแลตขนาดใหญ่ ซึ่งดูเหมือนจริงจนน้ำลายสอแม้จะไม่ได้กลิ่นช็อกโกแลตจริง ๆ ผนังถูกทาด้วยสีชมพูสดใสสมกับเป็นบริษัทผลิตช็อกโกแลตและลูกกวาดอันดับหนึ่ง
โชติกาเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์เพื่อแนะนำตัวเองและรอการอนุญาตให้เข้าพบซีอีโอ ไม่นานนัก เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์สาวก็ผายมือและแนะนำทางไปยังห้องทำงานของซีอีโอ เมื่อไปถึงที่หน้าห้องทำงาน ปรากฏว่าไม่มีใครอยู่ เธอจึงลองเคาะประตูและได้ยินเสียงทุ้มเข้มจากด้านในเอ่ยอนุญาตให้เธอเข้าไป
“ขออนุญาตค่ะ”
“ยินดีต้อนรับครับคุณโชติกา”
ชายหนุ่มเบื้องหลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่เอ่ยต้อนรับ ทั้งยังลุกขึ้นเดินมาจับมืออย่างมีมารยาท เขาเป็นลูกครึ่ง ส่วนใหญ่ติดต่องานกับลูกค้าต่างชาติจึงค่อนข้างถนัดวิธีการแบบสากลมากกว่า
โชติกายื่นมืออกไปจับ คิดในใจว่าตัวจริงชายหนุ่มหล่อร้อนแรงกว่าที่เห็นในรูปเสียอีก แล้วเขาก็ตัวสูงมาก เธอปกปิดอาการตื่นเต้นแล้วยิ้มให้
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณคาร์ล และขอบคุณที่อุตส่าห์ยอมสละเวลาให้ฉันเข้าพบนะคะ”
“พอดีผมรู้จักกับอธิการน่ะครับ เชิญนั่งก่อนครับ” ชายหนุ่มผายมือยังเก้าอี้ด้านหน้า
“ขอบคุณค่ะ” โชติกาเลื่อนเก้าอีกหน้าโต๊ะทำงานออกนั่ง ส่วนชายหนุ่มเดินอ้อมกลับไปนั่งหลังโต๊ะ
“ผมค่อนข้างจะยุ่งมาก ๆ ขอให้คุณอธิบายสั้น ๆ ได้มั้ยครับ” คาร์ลเอ่ยเข้าประเด็น
“ค่ะ ฉันเข้าใจได้” โชติกาตอบแต่แกล้งไอหนัก ๆ หลาย ๆ ที หวังว่าชายหนุ่มจะสังเกตเห็น
“คุณต้องการดื่มอะไรมั้ยครับ”
เยส! อย่างน้อยเขาก็แสดงให้เห็นว่ามีน้ำใจซึ่งเป็นข้อดี
“ตอนนี้ขอเป็นน้ำผลไม้อะไรก็ได้ค่ะแต่ฉันชอบดื่มไวน์มากกว่า”
“ไวน์เหรอครับ” คาร์ลชะงักไปครู่หนึ่งแล้วมองหญิงสาว
“ขอโทษค่ะ พอดีฉันเวียนหัวที่ต้องฝ่ารถติดมาน่ะค่ะ”
“อ้อครับ” คาร์ลพยักหน้ายิ้ม แล้วต่อสายหาผู้ช่วยด้านนอก เอ่ยชื่ออะไรสักอย่างน่าจะเป็นไวน์ฝรั่งเศส พอวางสายก็ถามหญิงสาว “เป็นไงครับ”
“ขอบคุณค่ะ” โชติกายิ้มรับ ไม่รู้หรอกว่าไวน์อะไรเพราะปกติก็แค่ดื่ม ไม่ได้เสียเวลามาวิเคราะห์ชื่นชมรสชาติ จากนั้นก็เริ่มทำตัวเป็นการเป็นงานไม่ให้เขาจับได้ว่าเธอมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝง “รบกวนคุณช่วยอ่านเอกสารนี่หน่อยค่ะ ฉันไม่อยากให้คุณต้องเสียเวลา” ว่าจบก็หยิบเอกสารออกจากแฟ้ม
“ไม่เป็นไรครับ นิดหน่อย คุณเป็นสมาชิกสโมสรนักศึกษาเหรอครับ” คาร์ลชวนคุย รู้สึกว่าหญิงสาวตรงหน้าสวยน่าดึงดูดแต่เขาไม่คิดจีบเพราะเขาผ่านผู้หญิงสวย ๆ มามาก
“ค่ะ ฉันคิดว่าจะได้เป็นการหาประสบการณ์อย่างหนึ่ง แล้วฉันก็เป็นคนรักสนุกด้วย” หลังจากหย่อนเบ็ดก็รอดูปฏิกิริยาของชายหนุ่ม
“รักสนุกเหรอ” คาร์ลหรี่ตา มุมปากยกขึ้นเล็กน้อยคล้ายขบขัน รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้น่าสนใจ ไม่รู้ว่าเธอแค่หลุดปากเพราะใช้คำไม่ถูกหรือว่าจงใจยั่ว
“อ้อ พอดีฉันเรียนวาดรูป ก็เลยอยากหาอะไรอย่างอื่นทำบ้างน่ะค่ะ” คิดหาข้อแก้ตัวข้าง ๆ คู ๆ
“คุณวาดแนวไหนล่ะ” ชายหนุ่มไม่แปลกใจเพราะมหาวิทยาลัยที่หญิงสาวเรียนขึ้นชื่อเรื่องวาดรูปอยู่แล้ว
“แนวต่อต้านสังคม ไม่ก็อีโรติกค่ะ” คำตอบหลังโชติกาตั้งใจมาก
การที่เธอตอบตรง ๆ ยิ่งทำให้คาร์ลสนใจจากที่คิดจะชวนคุยเล่น ๆ ฆ่าเวลากลับคิดจะคุยจริงจังเพราะอยากรู้ความคิดของหญิงสาว
“ผมคิดไม่ถึงเลย ตอนแรกคิดว่าคุณน่าจะวาดพวกแนวธรรมชาติอะไรพวกนี้มากกว่า”
“ไม่แปลกหรอกค่ะ คนส่วนใหญ่ก็คิดแบบนี้ แต่ฉันว่ามันน่าเบื่อ ฉันสนใจที่จะลงลึกเข้าไปในจิตใต้สำนึกของมนุษย์มากกว่า”
“จิตใต้สำนึกของมนุษย์เหรอ” คาร์ลพยักหน้าครุ่นคิด ยิ่งคุยลยิ่งสนุกไม่น่าเบื่อ ผู้หญิงคนนี้ไม่เพียงแต่รูปลักษณ์ภายนอกความคิดก็น่าสนใจเช่นเดียวกัน
“มนุษย์ครั้งหนึ่งเคยเป็นสัตว์ป่ามาก่อนแล้วถึงค่อยพัฒนามาเป็นสัตว์สังคมอย่างเช่นทุกวันนี้ แต่ถึงยังไงส่วนลึกก็ยังมีสัญชาตญาณของความเป็นสัตว์ป่าซ่อนอยู่ โดยเฉพาะเมื่อมีสิ่งเร้า ภาพที่ฉันวาดส่วนใหญ่เลยออกมาในแนวขบถ คือฉันชอบแนวดุดันป่าเถื่อนมากกว่าน่ะค่ะ”
“อะแฮ่ม!”
คาร์ลกระแอมแทบสำลักน้ำลายตัวเอง เขายกมือคลายเน็กไทออกเล็กน้อย รู้สึกอึดอัดแปลก ๆ ใช้สายตาพิจารณามองหญิงสาว จากการแต่งตัวที่ไม่ใช่ชุดนักศึกษาหรือชุดที่ควรใช้มาติดต่องานแล้วลองวางเดิมพันดูบ้าง
“การได้วาดภาพถือเป็นการได้ปลดปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างลงในนั้น แต่ผมอยากรู้ว่าคุณได้แรงบันดาลใจมากจากไหน”
โชติกาช้อนสายตามองชายหนุ่ม
“จากเรื่องทั่วไปที่พบเจอในชีวิตประจำวันบวกกับจินตนาการนิดหน่อย ฉันชอบที่จะเอาสิ่งเหล่านั้นมาเสนอในมุมมองของฉัน อย่างเช่นลองนึกถึงภาพสุนัขสองตัวถูกขังอยู่ด้วยกันในฤดูผสมพันธุ์เป็นไงคะ”
“อืม เป็นภาพที่ชัดเจนมาก” ชายหนุ่มพยักหน้า
เมื่อเข้าสู่บทสนทนาเช่นนี้ บรรยากาศในห้องจากที่เคยราบเรียบผ่อนคลายเปลี่ยนมาเป็นเข้มข้นหนาหนัก สายตาที่ชายหนุ่มใช้มองหญิงสาวคล้ายมีเปลวเพลิงอยู่ในนั้น กวาดโลมเลียประเมินสิ่งที่สะดุดตาที่สุดบนตัวหญิงสาว
โชติกาบังคับตัวเองให้อยู่นิ่งไม่บิดไปมาเพราะรู้สึกเสียวซ่านวูบโหวงท้องน้อยเมื่อถูกสายตามคมจ้องมอง รู้ว่าดึงความสนใจของซีอีโอหนุ่มได้สำเร็จ แต่ถ้าเทียบกันเธอไม่ใช่คู่ต่อกรของเขาเลยแม้แต่น้อย
คาร์ลกำลังจะพูดบางอย่างแต่ถูกขัดจังหวะโดยเลขาฯ ที่นำไวน์เข้ามาเสิร์ฟ รู้สึกหงุดหงิดที่ถูกขัดจังหวะแต่ไม่ได้ตำหนิติเตียนอะไร เขาไม่ใช่คนที่ไม่พอใจอะไรก็ไปลงกับลูกน้อง
“ขอบคุณค่ะ” โชติกากล่าวยิ้มให้เลขาฯ ชายหนุ่ม
“คุณเบญครับ ผมกำลังคุยเรื่องสำคัญอยู่ อย่าให้ใครเข้ามารบกวนนะครับ” เสียงทุ้มออกคำสั่ง
“รับทราบค่ะท่าน” เลขาฯ สาวเหลือบมองแขกของเจ้านายแวบหนึ่งก่อนที่จะเดินออกจากห้อง