ตอน 5
หาทางยักยอกเงินของไร่ร่วมหลายสิบล้าน รวมๆ กันแล้วกับเงินที่ผัวเธอยืมฉันไปให้ผู้หญิงร่านสวาทคาวโลกีย์มารยาสาไถพันเล่มเกวียนอย่างเธอ ไม่ใช่น้อย ไอ้ธีบ้าก็โดนของหมอเขมรที่เธอใส่ให้มัน” วายุอดร่ายยาว ด่าหญิงสาวไปด้วยในเวลาเดียวกัน แม้ไม่เคยหยาบคายกับผู้หญิงแต่กับผู้หญิงที่เขาคิดว่าเป็นอินทุอร ได้อานิสงส์คนแรกในโลก
“นั่นไม่ใช่เงินพี่ธีหรอกหรือ”
เท่าที่น้องสาวเล่าให้ฟัง บอกว่าขอเงินจากธีรพงศ์ใช้ทุกเดือน ทางนี้ส่งให้ตลอดไม่เคยขาดมือ ที่แท้หนุ่มชาวไร่สามีเก่าน้องสาว ไม่ใช่เจ้าของเงินแม้กระทั่งไม่ใช่เจ้าของไร่ ฐานะแท้จริงแค่หัวหน้าคนงานที่ยักยอกเงินของไร่ ตอนนี้กลายเป็นลูกหนี้อีตาสุดหล่อนี้น่ะหรือ ไม่น่าเชื่อ
อริสาไม่อยากเชื่อกับเรื่องที่ได้ฟังจากปากผู้ชายหน้าหล่อหุ่นน่ากินคนนี้ จะไปมีประโยชน์อะไรที่เขาจะโกหก หรือว่าเขามีจุดประสงค์อะไร ใครกันที่โกหก น้องสาวหรือว่าคาวบอยหุ่นเท่ห์ ความหล่อเหลาเกินกว่าชายทั้งสามโลก เครื่องหน้าลงตัวไร้ที่ติ
ไม่ว่าจะเป็นคิ้วโก่งดกดำรับกับจมูกโด่งเป็นสัน ตัวสูงใหญ่อย่างกับหนุ่มชาวต่างชาติ ริมฝีปากสวยอิ่มดั่งคนดูแลตัวเองเป็นอย่างดี เรียวคางแน่นหนั่น เคราสากขึ้นเขียวครึ้ม ยิ่งไปกว่านั้นรูปร่างยังสมส่วนงามสง่า แม้จะอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีน้ำตาล แบบหนุ่มคาวบอยตะวันตก ท่าทีองอาจนั้นแฝงเงาของมัจจุราชสูบวิญญาณชัดๆ
“ถูก ไอ้ธีมันแค่หัวหน้าคนงาน กินเงินเดือนจากฉัน มันคงคิดว่าดีเด่นนักหนาได้เด็ดดอกอุตพิดอย่างเธอ เชอะ เน่าเหม็นสุดๆ ฉันคือเจ้าของไร่ตัวจริงเสียงจริงที่จะเอาเงินที่ได้เสียไปทุกบาททุกสตางค์จากเธอตัวต้นเหตุ จำใสสมองเน่าๆ ของเธอไว้ซะ” ทั้งวาจาทั้งแววตา ท่าทีเชือนเฉือนหัวใจดวงน้อย ให้ขลาดกลัวจนตัวบางสั่นงันงก
“คุณหลอกฉันมาเพื่ออะไร”
“ใช้หนี้” เขาตอบสั้นๆ แววตายังเย็นชา น่าควักออกจากเบ้าเช่นดั่งนาทีแรกที่สบประสานกับแววตาคู่หวานของเธอ
“พี่ธียืมก็ต้องให้พี่ธีใช้สิ เกี่ยวอะไรกับฉัน” เธอพยายามโต้
“ไอ้ธีมันยืมเพื่อไปบำเรอผู้หญิงชั่วๆ อย่างเธอ ฉะนั้นเงินทุกบาททุกสตางค์เธอ...” นิ้วแกร่งชี้หน้าหวานแสร้งแกล้งเปรี้ยวของหญิงสาว
“ต้องชดใช้แทนไอ้ธี ทุกบาททุกสตางค์ไม่ขาดตกแม้สักบาทเดียว อ้ออย่าหวังจะใช้ร่างกายเน่าๆ ของเธอใช้หนี้ บอกได้คำเดียวฉันไม่สน ของคาวๆ ผ่านมือผู้ชายนับไม่ถ้วนอย่างเธอ ไอ้ธีมันหน้ามืดตามัว สำหรับฉันไม่มีทาง” ว่าจบสายตาคู่คมเย็นชาระคนโหดเหี้ยมส่งผ่านมาโดยตรงให้กับอริสา ร่างบางรู้สึกหนาวสั่น สิ่งที่เธอกำลังเผชิญ ณ เวลานี้ อินทุอรอยู่เบื้องหลังหรือว่าน้องสาวไม่รู้เรื่องเลย อริสาหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้นอกจากมีโอกาสออกไปให้พ้นจากสถานที่บ้าๆ แห่งนี้
“อย่าคิดจะโทรหาใคร เพราะที่นี่ไม่มีคลื่นโทรศัพท์”
นอกจากจะเป็นมัจจุราชหน้าเหี้ยม ตาบ้านี่ยังเป็นพระเจ้า เดาความคิดเธอได้ถูก เธอกำลังคิดจะโทรหาน้องสาวเพื่อให้รับรู้เรื่องนี้ เธอไม่มีส่วนกับเงินหรือแม้แต่ธีรพงศ์ ในเมื่อไม่มีคนป่วย หน้าที่ของเธอต้องจบลง กลับบ้านไปอยู่ในที่ของเธอ
“พี่ธียืมเงินคุณเท่าไหร่” อริสาตัดสินใจถามออกไป ใบหน้าสวยนัยน์ตาวาววับ มีเลือดหยิ่งทระนงเต็มเปี่ยม แค่นเสียงถามเจ้าหนี้ที่ได้มาโดยไม่ได้ตั้งใจ
“รวมเบ็ดเสร็จสามสิบห้าล้าน นี่ยังไม่รวมดอกเบี้ยที่ฉันจะคิดทบกับเธอ ไหนๆ ก็เจอลูกหนี้ตัวจริงแล้ว ฉันคิดเลยแล้วกัน”
“สะ...สามสิบห้าล้าน ทำไมมันมากมายขนาดนี้”
“ตั้งแต่เธอกับไอ้ธีเริ่มรักกัน มันก็เริ่มกู้เงิน เธอคงไม่คิดว่าไอ้เงินเดือนคนงานในไร่จะปรนเปรอคนฟุ้งเฟ้ออย่างเธอได้หรอกนะ อ้อ ลืมไปมันหลอกเธอว่าเป็นเจ้าของไร่ ขอนิดขอหน่อย ไอ้ธีมันเปย์ไม่อั้น เธอมันตัวปลิงดูดเลือดชัดๆ เหลือบ ลิ้น ไร ยังอาย ปลิงอย่างเธอ” ด่าว่าไป ร่างหนาเดินวนรอบร่างบาง ด้วยสายตาดูถูก
ให้ตาย อริสาอยากตายให้พ้นๆ เธอไม่เคยรู้เรื่องนี้เลยจริงๆ อินทุอรจะรู้บ้างหรือไม่ หรือว่ารู้แต่ส่งเธอมาเพื่อรับกรรมแทน เวลานี้ไม่ควรสนใจจำนวนเงิน สนใจแค่จะหาทางพาตัวเองกลับออกไปจากสถานที่อันน่ากลัวและรกร้างนี้ได้อย่างไร แสงแดดยามนี้จัดจ้าน ชวนให้เป็นลมหน้ามืด ร่างบางพยุงกายทั้งอาการเมารถ มึนงงกับเรื่องที่เพิ่งได้ฟัง ร่างบางแทบจะรับไม่ไหว สมองปั่นป่วนคิดอะไรไม่ออก หากว่ายังใจแข็ง เชิดหน้าฟังคนบ้าเมาน้ำลาย ฟังคำพิพากษาให้จบสิ้น เธอจะไม่อยู่ ยังไงก็ไม่อยู่....
“ชุดที่เธอใส่ไม่เหมาะกับไร่นี้ หาชุดอะไรก็ได้เปลี่ยนซะ ก่อนที่ฉันจะฉีกมันทิ้งด้วยมือของฉัน ที่นี่ไม่มีตะเข้ให้เธอล่อ เปลี่ยนซะก่อน” เขาสั่งด้วยสายตาดุ เหยียดหยามระคนดูถูก สายตาเข้มดุจ้องมองเรือนร่างของเธออย่างโจ่งแจ้งหยาบคาย ไม่ปิดบังสายตาขยะแขยง ราวกับจะปอกเปลือกลอกคราบเธอด้วยสายตาคมคู่นั้นเสียให้ได้
“อย่าบอกนะว่าฉันต้องอยู่ที่นี่ แล้วฉันต้องอยู่กับใคร”
“ถูก คนเดียว จนกว่าจะใช้หนี้หมดทุกบาททุกสตางค์ เธอถึงจะมีสิทธิ์ออกไปจากที่นี่”
“ฉันจะใช้หนี้ให้คุณ แต่ตอนนี้ฉันไม่มีเงินสดมากมายขนาดนั้น”
“ทำงานใช้หนี้ จนกว่าจะหมด” เขายืนยัน
“เงินเยอะขนาดนั้น ฉันไม่ต้องทำงานทั้งชีวิตเลยหรือตาบ้า”
“อย่าคิดด่าฉัน คนอย่างเธอไม่มีสิทธิ์ต่อรอง จำเอาไว้ ในเมื่อไม่มีเงินมาใช้หนี้ สิ่งเดียวที่เธอควรจะทำใช้หนี้คือ ทำงาน แต่...น้ำหน้าอย่างเธอ คงทำเป็นอย่างเดียว นอนให้ผู้ชายเอา อ้อ...มีอีกวิธี แค่เธอ โทรกริ๊งเดียวผู้ชายหน้าโง่ๆ ทั้งหลายขี้คร้านจะแห่กันมาใช้หนี้แทนเธอ แต่....นายวายุจะไม่มีวันให้มันง่ายขนาดนั้น” เขากล่าวหาเธอด้วยสายตาดูถูก
“ฉันขอโทรหาญาติได้ไหม อาจจะมีเงินมาใช้หนี้คุณ”
“บอกแล้วว่าไม่มีคลื่น” เพราะความจริงเขาไม่ต้องการเงินที่เสียไป แต่ต้องการสั่งสอนให้ผู้หญิงเลวชาติอย่างอินทุอร ได้รู้สึกนึกกับการกระทำ
อริสาอาจเชื่อในสิ่งที่เขาพูด มือบางหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋า ผลคือไร้คลื่นโทรศัพท์ นี่มันอะไรกันโลกก้าวไปถึงไหนต่อไหน ที่นี่ยังคงล้าหลัง บ้านป่าเมืองเถื่อนของจริง
“ส่วนนี่คือสัญญาเงินกู้ เซ็นซะ ส่วนว่าคนอย่างเธอจะหาเงินมาใช้ฉันด้วยวิธีไหนเชิญ....ฉันไม่เกี่ยง ขอให้เธอใช้หนี้ฉันเท่านั้นเป็นพอ” ทั้งที่ความจริงเงินจำนวนแค่นี้ วายุ คมพิทักษ์ ไม่แคร์สักนิด ขนหน้าแข้งยังล่วงมากกว่าเงินที่เสียไป
แค่ต้องการสั่งสอนผู้หญิงมักมาก ร่านโลกีย์ ใช้มารยาเล่นงานผู้ชายดีๆ คนหนึ่งให้เสียผู้เสียคน ยอมแม้กระทั่งเป็นหนี้มหาศาลที่สุดในชีวิตเพื่อให้ผู้หญิงที่ตัวเองรักหลง กะอีแค่เมียเก่าผุๆ ให้ได้สุขสบาย หนำซ้ำตอนนี้หล่อนยังหาที่เกาะใหม่ได้ แล้วตัดสวาทขาดสัมพันธ์กับธีรพงศ์อย่างสิ้นเชิง วายุจำต้องใช้วิธีเก่าครึ ล่อหลอกให้อินทุอรเดินเข้ามาติดกับมัจจุราชร้ายอย่างเขา
เอกสารการกู้ยืมถูกยื่นไปตรงหน้าหญิงสาว อริสารับกระดาษแผ่นนั้นไปด้วยมือสั่นเทา คิ้วยับย่น หญิงสาวไล่สายตาอ่านข้อความทุกบรรทัดทุกตัวอักษร ด้วยหัวใจเต้นระทึกผิดจังหวะ แววตาสีสนิมจ้องมองหญิงสาวไม่กะพริบ ดุจจะจับผิดในความอ่อนหัด ซึ่งสวนทางกับสิ่งที่วายุได้รู้มา ผู้หญิงตรงหน้าราวกับไม่ใช่อินทุอร นังผู้หญิงแสนร้ายกาจคนนั้น
“ฉันไม่เซ็น เพราะฉันไม่เชื่อว่าคนอย่างพี่ธีจะกู้เงินจำนวนนี้ พะ...เพื่อมาให้ฉัน”
“ขนาดนี้เธอยังไม่เชื่อฉันอย่างนั้นหรือ”
“ใช่ คุณอาจจะเป็นพวกสิบแปดมงกุฎหรือไม่อย่างนั้นก็พวกโจรลักพาตัวมาเรียกค่าไถ่ก็ได้ ไม่มีหลักฐานให้ฉันต้องเชื่อ”
“หน้าอย่างฉันเนี่ยนะโจร” สาวๆ ทั้งบ้านทั้งเมืองต่างหลงใหลได้ปลื้มกับความหล่อเกินพิกัดของเขา ล้วนต้องการมอบกายถวายหัวใจ อยากมาเป็นคุณนายของไร่มันฝรั่งแห่งนี้ใจแทบขาด ผู้หญิงสกปรกคนนี้เอาอะไรมาพูดว่าเขาเป็นโจรลักพาตัวเรียกค่าไถ่ “เธอจะไม่มีวันได้เจอไอ้ธี จนกว่าจะใช้หนี้หมด จำเอาไว้ซะ ถ้ายังไม่มีเงินมาใช้หนี้ ก็กรุณาอยู่ที่นี่ต่อไป โน่นไปลากกระเป๋าเธอมา กระท่อมหลังนี้จะเป็นที่อยู่ของเธอนับแต่วินาทีนี้” นิ้วแกร่งชี้ไปตรงกระท่อมหลังโทรมๆ
อริสามองตามนิ้วนั้น พบแค่กระท่อมเก่าๆ ผุๆ พังๆ สภาพไม่น่าเรียกว่าที่อยู่ได้เลย แถมอาณาบริเวณรอบข้างไม่มีบ้านใครสักหลัง นี่มันสถานที่อะไร รกร้างว่างเปล่าน่ากลัว ไม่ต่างอะไรกับป่าช้าวัดดอน หัวใจดวงน้อยไหวกระตุก ราวกับถูก บีบอัดด้วยแท่นเหล็กหนาให้แบนติดกับพื้น
อริสาดั้นด้นมาแสนไกล เพื่อมาเจอกับเรื่องโหดร้าย โดยที่เธอไม่ใช่คนทำผิดตัวจริง หนำซ้ำสิ่งที่เขาใส่ร้ายต่างๆ นานาเธอไม่ได้กระทำเลยสักนิด คิดแล้วพานน้ำตาจะไหล แม้จะพยายามเข้มแข็งอดกลั้น เก็บกักมันไว้ ทั้งที่ทรมานแทบขาดใจ ในใจเพรียกหาน้องสาวตัวดี ไม่ว่าอินทุอรจะรู้หรือไม่รู้เรื่องนี้ แต่เจ้าหล่อนต้องรับผิดชอบไม่ใช่เธอ