อเวจีร้อนพิศวาส

129.0K · จบแล้ว
พิมพ์ชนก
62
บท
172.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“วายุ คมพิทักษ์” เขาคลั่งแค้นนางแบบสาว อินทุอรหล่อนคือสาเหตุให้ลูกน้องในไร่ของเขาเสียผู้เสียคน ถึงกับสิ้นเนื้อประดาตัวไม่สนใจทำการทำงาน พึ่งพาเหล้าเป็นสรนะ วายุสาบานกับตัวเองไว้เด็ดเดี่ยวต้องลากตัวผู้หญิงสารเลว แพศยา ดีแต่หลอกล่อผู้ชายให้หลงเสน่ห์ให้มาชดใช้สิ่งที่หล่อนได้กระทำกับผู้ชายดีๆคนหนึ่ง ให้จงได้...

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันรักหวานๆคนรับใช้ปลูกผักทำฟาร์มแก้แค้นโรแมนติก

ตอน 1

“เอิร์นจ๋าช่วยอินหน่อยสิจ๊ะ” เสียงหวานอ้อนเรียกคนในบ้าน ชวนให้เจ้าของชื่อหันไปมองเสียงหวานๆ นั้นอย่างสนใจ

เสียงหวานพร้อมร่างบาง อรชรอ้อนแอ้นเดินกรีดกายย่างเท้าเข้ามาในบ้านหลังเล็กซอมซ่อ สาวสวยผู้ดูแลรูปร่างดี เจ้าของเสียงหวาน ปรากฏกายด้วยชุดเดรสเข้ารูปเน้นสัดส่วนเต็มตึง เหมาะกับละลายหัวใจหนุ่มๆ ทั้งโสดไม่โสดมานักต่อนัก ขยับกายดุจนางพญาเข้ามาหาพี่สาว พกพาใบหน้านิ่วยับนิดๆ มาพร้อม

ทิ้งกายลงนั่งกับโซฟาราคาบ้านๆ ด้วยความรู้สึก เซ็งระคนเบื่อหน่าย ยกขาไขว่ห้างด้วยกิริยาเคยชิน บ้านหลังนี้เธอไม่ค่อยย่างกรายเข้ามาบ่อยครั้งนัก ด้วยไร้สิ่งจรรโลงใจใดๆ เครื่องเรือนเก่าแก่เชยๆ ไร้รสนิยม ใช้ของโอทอป แถมเจ้าของบ้านเฉิ่มเชยไร้สีสัน หน้าตาบ้านๆ ไม่ชวนมอง

หากไม่ใช่มีเรื่องต้องไหว้วานเธอคงไม่ยอมมา นางแบบสาวรูปร่างหมดจด อ้อนแอ้นหมดหนทาง ไร้ตัวช่วย จึงต้องบากหน้างามๆ มาขอพึ่งพี่สาวให้เป็นตัวแทนจัดการเรื่องร้อนใจนี้ให้ มิเช่นนั้นเรื่องร้อนใจนี้จะตามมารังควานเธอถึงกรุงเทพ หากไม่รีบไปปรากฏกาย ณ ที่แห่งนั้นภายในสองหรือสามวันอันใกล้นี้

“นานๆ มาที มีเรื่องให้พี่ช่วยเชียวนะ ไม่เดือดร้อนไม่มาล่ะสิ นั่นหอบอะไรมาเสียมากล่ะ” อริสาขยับแว่นสายตามองสิ่งของในมือน้องสาว

“จดหมาย” คำตอบเจือน้ำเสียงเซ็งจับจิต ยกสลับขาที่ไขว่อวดขาสวย

“วะ...ว่าไงนะ สมัยนี้มีใครที่ไหนติดต่อกันทางจดหมายบ้าง โลกหมุนจะวิ่งถึงดวงจันทร์แล้ว” ถึงอริสาจะเชยก็จริง แต่เธอยังทันโลกหมุนเร็วอย่างทุกวันนี้ มือบางเอื้อมหยิบจดหมายที่น้องสาววางลงบนโต๊ะ พลิกดูไปมาหน้าหลังอย่างแปลกใจ ทั้งที่การสื่อสารสมัยนี้ไหลเร็วยิ่งกว่าน้ำประปา ยังมีคนนิยมติดต่อกันด้วยวิธีนี้อยู่อย่างนั้นหรือบ้าล่ะ

“ในจดหมายนั้นบอกว่า พี่ธีป่วย ขาดคนดูแล พี่เอิร์นก็รู้ว่าอินไปดูแลพี่ธีไม่ได้” อินทุอรใส่อารมณ์น่าสงสาร ตีสีหน้าเครียด รำคาญจดหมายบ้าๆ พวกนี้เต็มแก่ เธอได้รับมันทุกเดือนต้องคอยแอบซ่อนจากแฟนคนใหม่ ความจริงมันไม่ได้มีผลต่อชีวิตเธอมากนัก

“ทำไมเขาไม่โทรมา ไอ้จดหมายพวกนี้ยังใช้เขียนหากันอยู่หรือไง ใช่ว่าโลกจะล้าหลัง”

“อันนี้อินก็ไม่เข้าใจ ทั้งที่อินพยายามโทรหาคนที่ไร่นั้น แต่ไม่มีใครต่อสายให้อินคุยกับพี่ธีสักครั้ง บอกแค่ว่ามารับสายไม่ได้ ป่วยหนักอะไรบ้าง แต่เขียนจดหมายได้มันก็น่าแปลก”

“ที่บอกให้พี่ช่วย อย่าบอกนะว่าให้ช่วยตอบจดหมายยุคพระเจ้าเหาพวกนี้” คนเชยๆอย่างอริสา ยังขอผ่านกับเรื่องพรรค์นี้

“ไม่ต้องตอบหรอกค่ะ อินเองยังไม่คิดอยากจะตอบ โทรสิบรอบแล้วคนใช้ที่บ้านพี่ธีไม่ยอมต่อสายให้คุย อินเลยต้องบากหน้ามาปรึกษาพี่เอิร์นนี่ละ เพราะพี่เอิร์นหน้าเหมือนอิน สวมรอยเป็นอินได้สบาย ไม่มีใครสงสัย” นางแบบสาวหุ่นทรมานใจหนุ่มๆ นั่งในท่าเบสิคอินสติ้งได้น่าอภิรมย์ เผลอหลุดปากบอกบางอย่างที่ใจคิดก่อนจะลงมือเจรจา

“ให้สวมรอยเป็นอิน” ยิ่งฟังยิ่งงงระคนตกใจมากกว่างง คำว่าสวมรอย....ในความหมายของน้องสาวคืออะไรกันนะ

“ค่ะพี่เอิร์น” สาวเจ้าเล่ห์ระบายยิ้มอย่างมีความหวัง ทอดสายตาเฉี่ยวมองพี่สาว แม้จะเชยใช่ว่าจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ อริสามีความสวยทว่าความสวยถูกปิดบังด้วยความเรียบง่าย จนมองผ่านความสวย

“เพื่ออะไร”

“เพื่อดูแลพี่ธีแทนอินจนกว่าพี่ธีจะหายหรือไม่หายก็ตามที แต่ขอให้อินตระเตรียมงานแต่งให้เสร็จ คิดจะให้อินไปที่นั่น อย่าหวัง อินไปไม่ได้จริงๆ อินจำเป็นต้องมาขอ... เอ่อ... ขอวานพี่เอิร์นให้จัดการเป็นธุระกับเรื่องนี้ให้ไงคะ” เวลาจะหลอกใช้ใคร ช่างออเซาะได้หวานหยดย้อย ใส่จริตมารยาเต็มที่ นี่คือไม้เด็ดของผู้หญิงมากมารยา

“เตรียมงานแต่ง หมายความยังไงกัน” อริสาอดตกใจกับคำพูดน้องสาวเมื่อครู่ไม่ได้ ตอนนี้น้องคบอยู่กับใคร มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งถึงขึ้นแต่งงานกับผู้ชายคนใด หญิงสาวไม่เคยรู้เลย

“อินกำลังจะแต่งงานใหม่ กับ มหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของเมืองไทย เขาเป็นพ่อหม้าย แต่อินไม่สน อินสนแค่เงินเท่านั้น” เธอว่าด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ภูมิใจกลเม็ดเด็ดพราย พิชิตใจพ่อหม้ายเมียตาย

“อิน.....” อริสาครางชื่อน้องสาวฝาแฝดด้วยความไม่เข้าใจ น้องสาวเพิ่งเลิกรากับสามีชาวไร่ได้ไม่นาน แถมทางนั้นยังป่วยหนัก เพราะตรอมใจที่อินทุอรบอกเลิก แล้วนี่อะไร ทำไมยังมีกะจิตกะใจจัดงานแต่งงานทั้งที่สามีเก่าป่วยปางตาย

“จะแต่งก็แต่ง เลิกกับเขาแล้วต่างคนต่างอยู่ เกี่ยวอะไร ทำไมต้องวานให้พี่ไปดูแลเขาแทนอินด้วยล่ะ”

“สงสาร ช่วงที่อินลำบากอินโทรไปขอเงินกับพี่ธี เขาเองก็ใจดีโอนมาให้ใช้ทุกเดือนไม่เคยขาดมือ แม้จะเลิกกันไปแล้ว”

“อินหลอกให้เขาโอนเงินให้อย่างนั้นหรือ ทั้งที่เลิกกันไปแล้วเนี่ยนะ”

“ไม่ใช่หลอก เขาเต็มใจให้เอง แค่อินพูดหวานนิด อ้อนหน่อย พี่ธีเขาจัดการให้ทุกเดือน” ด้วยนิสัยส่วนตัว อินทุอรใช้เงินมือเติบ ซื้อง่ายจ่ายสะดวก ที่พึ่งในขณะตกอับในตอนนั้นมีเพียงธีรพงศ์คนเดียวเท่านั้นที่โง่เง่าที่สุด

“ตอนนี้หาที่เกาะใหม่ได้แล้ว เลยคิดจะเขี่ยเขาทิ้งถาวรล่ะสิ”

“ไม่ใช่อย่างนั้น อินจะแต่งงานอีกสองเดือนนี้ ช่วงนี้อยู่ในช่วงเตรียมงาน พิมพ์การ์ด เชิญแขก เยอะแยะ อินจะไปดูแลเขาได้อย่างไร คุณรุธรู้เข้าอินตายแน่ ชวดแต่งงานชวดเงินหลายล้าน ใครจะยอม นะนะ พี่เอิร์นช่วยอินหน่อย แค่เดือนเดียวเอง รอให้อินจัดงานแต่งงานเสร็จเท่านั้น นะถือว่าทำเพื่อน้อง จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่”

“อินกับพี่ไม่มีอะไรเหมือนกัน นอกจากหน้าตา ที่โขกออกมาเป็นพิมพ์เดียว พี่จะสวมรอยเป็นอินได้ยังไง ยาก”

“เรื่องนั้นไม่ยากสักนิดเชื่อฝีมืออินสิพี่เอิร์น รับรองเหมือนเด๊ะ”

แค่คำนั้นหลุดจากปากอริสาก็เหมือนยอมช่วย อินทุอรถือแบบนั้น เธอจึงรีบลากอริสาออกจากบ้านด้วยความรวดเร็ว ยัดร่างบางสุดเฉิ่มเชยเข้าไปในรถคันหรู ที่เพิ่งถอยออกมาไม่กี่วัน ว่าที่สามีใหม่จัดการให้ หวังเอาใจนางแบบเซ็กซี่ร้อนแรง อินทุอรลากอริสาไปยังห้างดังเพื่อเปลี่ยนแปลง พร้อมกับการสวมรอย

อริสากับอินทุอร สองฝาแฝดที่โชคชะตาเล่นงาน ครอบครัวให้มีปัญหา บิดามารดาเกิดปัญหาหนัก หมดหนทางใช้ชีวิตร่วมกันฉันท์สามีภรรยา ในความห่างหายที่บิดามักหายหน้าหายตา กลับดึกบ้าง ไม่กลับบ้าง มักอ้างเสมอว่าติดงาน ข้ออ้างในการหายจากไปคือเรื่องงาน

ในวันหนึ่งสัญชาตญาณความเป็นหญิง รีบสั่งให้มารดาค้นหาความผิดปกตินั้น สุดท้ายจับจนมั่นคั้นจนเกือบตาย บิดาไม่เคยมีวี่แววจะนอกใจมารดา ครอบครัวดูเหมือนจะอบอุ่นกว่าครอบครัวอื่นเสียอีก สังคมเปลี่ยนแปลงบิดาให้นอกใจมารดา บิดาผู้แสนดี มีผู้หญิงคนอื่นนอกจากมารดา ถึงขั้นเลี้ยงดูเป็นเมียเสมอเทียบกับมารดา

สุดท้ายมารดาใจเด็ดเดี่ยวตัดสินใจขอแยกทางกับบิดา แม้บิดาจะใช้ความพยายามขอคืนดี ขอโอกาส ด้วยทิฐิแรงกล้าในศักดิ์ศรีความเป็นหญิง มารดาเด็ดขาดไม่ยอมใช้สามีร่วมกับผู้หญิงหน้าไหนในโลก แม้จะตกลงหย่าโดยละม่อม แต่เรื่องไม่ง่ายอย่างที่คิด ด้วยความดื้อรั้นของบิดาเอง การหย่าจึงยืดเยื้อนานร่วมปี

เมื่อรอยร้าวประสานกันได้ยาก คำว่าแยกทางจึงดูดีที่สุดในชีวิตสมรส ซึ่งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่มั่นคง มักมากในกามารมณ์ แต่ด้วยความรับผิดที่มีต่อโซ่ทองสองเส้น บิดายังคงส่งเสียค่าเลี้ยงดูให้กับมารดาประจำทุกเดือนไม่ขาด กระทั่งเหตุนี้จึงทำให้มีปากเสียงกับทางเมียน้อย

คุณอำพน ไม่ยอมมีลูกใหม่กับภรรยาน้อย คุณอำพนจึงขอแบ่งลูกกับคุณรุจิดาคนละหนึ่งคน แฝดน้องอินทุอรจึงตกไปอยู่ในปกครองการเลี้ยงดูของคุณอำพน การเลี้ยงดูบุตรสาวแบบฉบับผู้ชายย่อมไร้ซึ่งความละเอียด ยิ่งมีปัญหากับเมียน้อยด้วยแล้ว

ฉะนั้นการเลี้ยงดูคือการให้อิสระ ไม่ใส่ใจความเป็นอยู่กับอินทุอร ปรนเปรอให้เพียงเงินตรา ปล่อยให้อินทุอรทำทุกอย่างตามใจตัวเอง อยากเรียนอะไร ทำสิ่งใดล้วนตามใจ อินทุอรค่อนข้างมีความคิดแปลกแยก ชอบอิสระไร้ขอบเขต ชอบงานทางด้านบันเทิง

เธอจึงไต่เต้าเพื่อก้าวเข้าสู่วงการนางแบบ ไม่ว่าจะถ่ายแฟชั่น เดินแบบ ทำอะไรเธอทำได้ทุกอย่าง ขอให้ได้มาซึ่งเม็ดเงิน ส่วนแฝดพี่อริสาอยู่ในการดูแลของมารดาผู้เคร่งครัด เจ้าระเบียบ เฝ้าอบรมสั่งสอนให้อริสาอยู่ในระเบียบแบบแผน รักนวลสงวนตัว ให้ตั้งใจเรียน แต่งกายมิดชิดเรียบร้อย ห้ามปล่อยเนื้อปล่อยให้กับผู้ชายหน้าไหนทั้งสิ้น อริสากับอินทุอรจึงแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง