ตอนที่ 2 เส้นทางนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
หลังจากชั่งใจอยู่นานหนึ่งวันอลินาจึงตัดสินใจติดต่อหาโมเดลลิ่งตามนามบัตรที่ได้รับมาในวันแรกที่มาถึงประเทศไทย มือบางกดเบอร์โทรออกสิบหลักที่แสดงอยู่บนนามบัตร อลินาใจเต้นแรงขณะที่กำลังรออีกฝ่ายรับสายของเธอ อลินานั้นเพิ่งจะเรียนจบปริญญาตรีมาด้วยวัยเพียงยี่สิบปี งานที่เคยทำส่วนใหญ่ก็จะเป็นพาร์ทไทม์ตามร้านกาแฟ
เธอทำเช่นนั้นแม้บิดาจะให้เงินใช้ไม่ขาดมือ เป็นเพราะมารดาสอนเธอเสมอว่าไม่ให้รอใช้เงินจากใคร แม้คนคนนั้นจะเป็นพ่อหรือแม่เธอเองก็ตาม เพราะถ้าวันหนึ่งหากพวกเชาไม่อยู่กับเธอแล้ว เธอจะได้ช่วยเหลือตัวเองได้ อลินายึดคำสอนของมารดาเสมอมาจึงไม่เคยที่จะรอแต่เงินของผู้เป็นบิดาหลังจากมารดาจากไป
ลูซี่ : สวัสดีค่ะ ลูซี่ ผู้จัดการฝ่ายจัดหานายแบบและนางแบบ อเดลโมเดลลิ่งพูดสายค่า ไม่ทราบว่าต้องการติดต่อเรื่องอะไรคะ
อลินา : สวัสดีค่ะ ดิฉันคือคนที่พี่ให้นามบัตรที่ตลาดนัดกลางคืนเมื่อวันก่อนน่ะค่ะ
ลูซี่ : อ๋อ...คุณน้องที่เป็นลูกครึ่งไทยอเมริกันใช่ไหมคะ
อลินา : ใช่ค่ะ เอ่อ....เรียกหนูว่าฮาน่าก็ได้ค่ะ พอดีว่าฮาน่าสนใจเรื่องงานเดินแบบที่พี่บอกน่ะค่ะ แต่ว่าฮาน่าไม่เคยทำงานด้านนี้มาก่อน
ลูซี่ : อุ๊ย!!ไม่เป็นไรเลยจ้ะ พี่ว่าหนูเข้ามาที่บริษัท มาลองพูดคุยรายละเอียดกันดูก่อนนะจ๊ะ ทางเรามีอาจารย์สอนระดับมืออาชีพ รับรองว่าหนูต้องเป็นนางแบบที่เปล่งประกายอยู่บนรันเวย์ของไทยได้อย่างแน่นอนค่ะ
อลินา : อ๋อ...ค่ะ ได้ค่ะ
เธอไม่ได้อยากเป็นนางแบบที่มีชื่อเสียง แต่เธอแค่อยากหางานอะไรทำไม่ต้องอยู่ว่างๆ แล้วใช้เงินที่มีอยู่หมดไป ในเมื่อพ่อแม่ให้รูปร่างหน้าตามาเป็นทุน เธอก็อยากจะลองหาประสบการณ์ทางด้านนี้ดู
ลูซี่ : เป็นวันนี้ช่วงบ่ายได้ไหมเอ่ย พอดีพี่ว่างช่วงบ่ายพอดีเลย
ลูซี่ไม่ปล่อยให้เพชรเม็ดงามหลุดมือไป เธอรีบนัดแนะหญิงสาวในทันที ความจริงวันนี้เธอมีงานทั้งวัน แต่เพื่อว่าที่นางแบบที่เธอได้ข้อมูลคร่าวๆ มาจากบอสหนุ่มคนนี้ เธอจึงต้องให้ความสำคัญกับอีกฝ่ายก่อน งานช่วงบ่ายจึงส่งคนอื่นให้ไปทำแทน
อลินา : ค่ะ ได้ค่ะ บ่ายโมงตรงนะคะ
ลูซี่ : แล้วเจอกันนะคะ...น้องฮาน่า
สายถูกวางไปพร้อมกับเสียงกรีดร้องดีใจของอีกฝั่งที่สามารถคว้าตัวลูกครึ่งสาวที่เป็นเหมือนเพชรรอการเจียระไนมาได้ ลูซี่ สาวประเภทสองผู้ที่ทำหน้าที่จัดหานายแบบนางแบบหน้าใหม่ให้กับอเดลโมเดลลิ่งรีบสาวเท้ากลับเข้าห้องประชุมซึ่งมีท่านประธานรอฟังข่าวดีอยู่
“เป็นยังไงบ้างครับคุณลูซี่ นางแบบที่ผมให้ข้อมูลไปน่ะติดต่อมาทำงานกับโมเดลลิ่งของเราได้หรือเปล่า” เสียงทุ้มของผู้เป็นบอสใหญ่ดังขึ้น
“น้องบอกจะเข้ามาช่วงบ่ายค่ะบอส ลูซี่ไม่คิดเลยว่าบอสจะรู้จักสาวๆ สวยๆ แบบนี้ด้วย”
ลูซี่ตอบออกมาอย่างตื่นเต้น เพราะนานมากแล้วที่เธอไม่ได้เจอกับผู้หญิงที่มีรูปหน้าและรูปร่างที่เพอร์เฟคขนาดนี้
“คนรู้จักของเพื่อนน่ะ ความจริงแล้วผมไม่รู้จักเธอหรอก ยังไงผมฝากคุณด้วยนะ ทำให้เธอตัดสินใจเดินแบบในสังกัดของเราให้ได้”
ลูกน้องที่นั่งอยู่ในห้องประชุมถึงกับแปลกใจที่บอสให้ความสนใจว่าที่นางแบบคนใหม่ของอเดลโมเดลลิ่ง แต่พอได้ยินว่าเป็นคนรู้จักของเพื่อน พนักงานทุกคนภายในห้องประชุมก็ถึงกับหายข้องใจ เพราะที่ผ่านมาอเดลโมเดลลิ่งไม่เคยรับพวกที่มีเส้นสายเข้าทำงาน และคราวนี้ฝ่ายของเจ๊ลูซี่ก็ไปติดต่อฝ่ายหญิงด้วยตัวเอง ไม่ใช่อีกฝ่ายเสนอตัวเข้ามาเพราะฉะนั้นเลยไม่ถือว่าเป็นเด็กเส้น
“ไม่มีอะไรแล้วขอจบการประชุมไว้เพียงแค่นี้ครับ” บอสหนุ่มลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากห้องประชุมไปพร้อมกับเลขาส่วนตัว
“ชักอยากจะเห็นผู้หญิงที่ทำให้พี่ลูซี่ดีใจเหมือนกับเจอเพชรในตมอย่างตอนที่เจอกับน้องอิงค์แล้วล่ะสิ” หนึ่งในทีมของเจ๊ลูซี่เอ่ยขึ้นมา
“คนนี้งานดียิ่งกว่าน้องอิงค์อีกย่ะ สวยแบบธรรมชาติสุดๆ ดีนะที่เพื่อนของบอสแนะนำมา พี่เลยไปดักรอแถวโรงแรมที่น้องเค้าเข้าพัก โชคดีที่วันนั้นมีตลาดกลางคืนแล้วน้องเค้าออกมาหาอะไรกินพอดี เจ๊นี่ก็ตีเนียนไปแจกนามบัตรให้น้องเค้า นี่ถ้าพวกหล่อนเห็นแล้วจะอยากได้น้องไปดูแลเองเลยล่ะ” เจ๊ลูซี่จีบปากจีบคอ
“แสดงว่าเจ๊ลูซี่มีรูปน้องเค้าอยู่ก่อนแล้วสิ ถึงดูออกว่าน้องเค้าคือคนไหน ขอดูหน่อยได้ไหม อยากเห็นรูปก่อนเห็นตัวจริงอะ”
“โอ๊ย...เดี๋ยวตอนบ่ายก็ได้เห็นตัวจริงกันแล้ว เช้านี้เจ๊ยุ่ง...ขอตัวไปทำงานก่อนล่ะ”
เจ๊ลูซี่หลีกเลี่ยงที่จะบอกว่าเธอไม่มีรูปแบบเห็นหน้าชัดๆ แต่ทุกรูปที่เธอมีเป็นเหมือนรูปที่แอบถ่ายมามากกว่า และรูปที่หญิงสาวไปเดินตลาดในวันนั้นก็เป็นรูปที่บอสส่งมาให้
พนักงานในทีมดูแลนายแบบและนางแบบถึงกับเสียดายที่ไม่ได้เห็นรูปของว่าที่นางแบบคนใหม่ที่พี่ลูซี่เอ่ยปากชมนักชมหนา ทุกคนลุกจากที่นั่งแล้วเดินออกจากห้องประชุมไปทำงานของตนเองเช่นกัน
“ถ้าระดับพี่ลูซี่ไปตามจีบมาด้วยตัวเองคงจะสวยน่าดู ชักอยากจะเห็นแล้วสิ” ธัญญ่าที่ทำหน้าที่ดูแลนางแบบชื่อดังของโมเดลลิ่งนี้หลายคนเอ่ยออกมา
“ว่าแต่ถ้าน้องเค้าตกลงเป็นนางแบบของโมเดลลิ่งเราแล้ว งานดูแลน้องเค้าจะตกเป็นของใครล่ะ” อาคมเอ่ย เขามีหน้าที่ดูแลพวกนายแบบชายของโมเดลลิ่ง
“ก็คงแล้วแต่พี่ลูซี่จะแจกงานให้แหละ แต่แค่ในมือของพี่ตอนนี้ก็เยอะแล้วล่ะ แต่ละนางธรรมดาที่ไหนกัน มีน้องอิงค์คนเดียวที่ยังไม่เปลี่ยนไป เสมอต้นเสมอปลายมาตลอด” ธัญญ่าตอบพลางบ่นออกมาเล็กน้อย ยิ่งมีชื่อเสียงก็ยิ่งเรื่องเยอะเรื่องมาก
สองหนุ่มสาวที่ถือว่าเป็นผู้จัดการส่วนตัวของเหล่านายแบบนางแบบของอเดลโมเดลลิ่งแห่งนี้แยกย้ายกันไปจัดการงานของตน เพราะเชื่อว่าทั้งคู่ไม่มีใครจะได้งานเพิ่มแน่นอน
“ถ้าอย่างนั้นก็เหลือเจ๊พุดซ้อน กับเจ๊จีจี้แล้วล่ะ” ผู้ช่วยสาวที่เดินตามหลังของเจ้าของชื่อทั้งสองมาเอ่ยขึ้น
“ฉันยังไงก็ได้ นางแบบที่ฉันดูแลอยู่ก็ไม่ได้มีงานมากมายเหมือนกับนางแบบของพี่ธัญญ่า รับมาเพิ่มอีกสักคนก็ไม่เหลือบ่ากว่าแรงหรอก”
พุดซ้อนบอกก่อนที่จะเดินไปห้องสันทนาการของบริษัทเพื่อชงกาแฟก่อนที่จะเริ่มงานอย่างเช่นที่ทำเป็นประจำ ส่วนเจ๊จีจี้ยักไหล่แล้วเดินไปยังโต๊ะทำงานของตน วันนี้เธอต้องออกไปทำงานแทนเจ๊ลูซี่ที่มีนัดกับว่าที่นางแบบใหม่ของโมเดลลิ่ง ผู้ช่วยที่เดินรั้งท้ายสองคนส่ายหน้าไปมา เพราะเจ๊พุดซ้อนกับเจ๊จีจี้นั้นไม่ค่อยเลือกนางแบบที่ตนดูแลมาก ถึงได้แต่พวกนางแบบนายแบบที่ดันไม่ค่อยดัง
ภายในห้องพักของโรงแรมระดับห้าดาวที่อลินาเพิ่งจะมาเช็กอินเข้าพักเมื่อเช้า เสียงน้ำในห้องน้ำตกกระทบกับพื้น เรือนร่างเปลือยเปล่าที่สวยงามมีกล้ามเนื้อที่หน้าท้องเล็กน้อยจากการออกกำลังกายบ่อยครั้งกำลังมีฟองสบู่กระจายอยู่ทั่วตัว ก่อนที่ผู้เป็นเจ้าของเรือนร่างงามจะล้างออกด้วยน้ำที่ไหลลงมาจากฝักบัวแบบเรนชาวเวอร์ ตอนเช้าอลินาเช็กเอาท์ออกจากโรงแรมที่เข้าพักครั้งแรกหลังจากมาถึงประเทศไทย แล้วมาเช็กอินเข้าพักอยู่โรงแรมที่ใกล้กับอเดลโมเดลลิ่งแทน
หลังจากเช็ดตัวและเป่าผมที่ยาวประบ่าจนแห้ง อลินาจึงเดินออกไปหยุดอยู่ที่หน้าตู้เสื้อผ้าแล้วเลือกชุดเดสสั้นแค่เข่าสีน้ำตาลมาสวมใส่ เธอแต่งหน้าด้วยเครื่องสำอางเพียงบางเบาก่อนที่จะสำรวจร่างกายอีกครั้งแล้วออกจากห้องพักไปเมื่อมองนาฬิกา แม้จะใช้เวลาเดินจากโรงแรมที่เธอพักอยู่เพียงแค่ห้านาที แต่หญิงสาวก็เป็นคนที่ตรงต่อเวลาตามนิสัยของชาวต่างชาติที่มักจะไปก่อนเวลานัดอย่างน้อยสิบห้านาที
ตึกสูงเพียงห้าชั้นเป็นที่ตั้งของบริษัทอเดลโมเดลลิ่ง ร่างระหงเยื้องย่างมาหยุดยืนมองด้านหน้าเพียงครู่เดียวก่อนที่จะตัดสินใจเข้าไปด้านใน พอประตูเปิดออกก็มีพนักงานที่ยืนอยู่ตรงเคาน์เตอร์รอต้อนรับผู้ที่มาติดต่องานกับทางโมเดลลิ่ง พนักงานต้อนรับตกตะลึงในความสวยของผู้มาเยือนทันทีที่แว่นตาสีชาถูกถอดออก
“สวัสดีค่ะ ดิฉันมาพบพี่ลูซี่ค่ะ” อลินาส่งยิ้มให้เมื่อพูดจบแต่อีกฝ่ายกลับยืนนิ่งแถมยังอ้าปากค้างอีกต่างหากทำให้หญิงสาวนึกขำในใจ
“ขอโทษนะคะ ดิฉันมาพบพี่ลูซี่ค่ะ” เท่านั้นแหละพนักงานคนนั้นถึงได้สติกลับมา เธอส่งยิ้มแห่งๆ มาให้หญิงสาวตรงหน้า
“อ๊ะ....ค่ะ เดี๋ยวเชิญนั่งรอที่ห้องรับรองด้านซ้ายก่อนเลยนะคะ เดี๋ยวดิฉันจะตามพี่ลูซี่ให้ค่ะ” อลินาพยักหน้าก่อนที่จะเยื้องย่างไปทางห้องที่มีป้ายบอกอยู่ด้านหน้าว่าเป็นห้องรับรองลูกค้า
“หือ....สวยมาก สวยตาแตก ฉันนึกว่าเธอจะพูดภาษาอังกฤษเสียอีก พูดไทยได้ชัดแจ๋วเลย” เพราะอลินานั้นหน้าตาไปทางพ่อมากกว่ามาทางแม่จึงทำให้เธอคล้ายฝรั่งมากกว่าลูกครึ่ง
“คนนี้หรือเปล่าที่พวกผู้จัดการนายแบบนางแบบอยากเห็นหน้ากันตั้งแต่เช้า”
“ไม่รู้สิ เธอรีบโทรตามพี่ลูซี่มาเถอะ” เพื่อนอีกคนรีบบอก พนักงานต้อนรับสาวนึกได้จึงรีบต่อสายไปหาพี่ลูซี่ ผู้จัดการแผนกจัดหานายแบบและนางแบบหน้าใหม่ทันที
ผ่านไปไม่ถึงห้านาทีร่างอวบอัดของเจ๊ลูซี่ก็รีบพุ่งออกมาจากประตูลิฟต์ พอสองพนักงานสาวต้อนรับชี้ไปที่ห้องรับรอง ผู้จัดการสาวประเภทสองจึงรีบสาวเท้าไปทางห้องนั้นทันที
“สวัสดีค่ะน้องฮาน่า พี่นึกว่าหนูจะมาช้าสักหน่อย ขอโทษที่ให้รอนะคะพี่เพิ่งจะประชุมเสร็จ”
“สวัสดีค่ะพี่ลูซี่ ไม่เป็นไรเลยค่ะ ฮาน่ามาเร็วกว่าเวลาที่เรานัดกันเอาไว้มากกว่าค่ะ” อลินายกมือไหว้ผู้มาใหม่พร้อมกับตอบออกไป
“ขอฮาน่าทราบรายละเอียดการทำงานกับโมเดลลิ่งหน่อยได้ไหมคะ” ไม่รอช้าอลินาเริ่มพูดคุยเรื่องงานทันที เพราะเธอจะได้ตัดสินใจว่าจะทำหรือไม่ทำ ไม่ทันที่เจ๊ลูซี่จะอธิบายเสียงเคาะประตูหน้าห้องก็ดังขึ้น
“เข้ามาได้ค่ะ” เจ๊ลูซี่เอ่ยปากอนุญาต ผู้หญิงรูปร่างสมส่วนสวมแว่นตาจึงเปิดประตูห้องเดินถือเอกสารเข้ามาวางไว้ที่โต๊ะตรงหน้าของอลินา
พุดซ้อนลอบมองใบหน้าสวยเฉี่ยว จมูกโด่งรั้นของหญิงสาวที่ตกเป็นประเด็นในการพูดคุยกันเมื่อเช้าก็รู้สึกเห็นด้วยกับเจ๊ลูซี่ ว่าหญิงสาวตรงหน้านั้นสวยแบบธรรมชาติจริงๆ แม้บนใบหน้าจะมีเครื่องสำอางแต่ก็เพียงบางเบาเท่านั้น ไม่รู้ว่านิสัยกับหน้าตาจะเหมือนกันหรือเปล่าเรื่องนี้คือสิ่งที่เธอเองก็เป็นกังวล
“นี่เป็นรายละเอียดการทำงานและการแบ่งส่วนแบ่งค่าตัวให้กับนางแบบของทางบริษัทเราค่ะ เชิญหนูอ่านดูได้เลยนะคะ ถ้าไม่เข้าใจหรือสงสัยตรงไหนถามพี่ได้เลย”
อลินาหยิบเอกสารที่เจ๊ลูซี่บอกขึ้นมาอ่านก็พบว่าเป็นการรับงานที่ไม่ได้เอาเปรียบตัวนางแบบ เรียกได้ว่าต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ อลินานั่งอ่านรายละเอียดของส่วนแบ่งของค่าตัวที่จะได้รับและขอบเขตการทำงานของนางแบบในโมเดลลิ่งนี้ก็รู้สึกว่าเป็นที่น่าพอใจ ทั้งเจ๊ลูซี่และพุดซ้อนต่างพากันแอบลุ้นกับการตัดสินใจของหญิงสาวตรงหน้าจนในที่สุดเสียงหวานก็เปล่งออกมาจากริมฝีปากอิ่ม
“ฮาน่าจะลองดูค่ะ”