นักร้องบนเวทีของคุณหมอมิว(2)
“เห็นคุณสมพงษ์บอกว่าเธออยากเป็นหมอ”
ชายหนุ่มเข้าเรื่องทันทีเพราะไม่อยากให้หญิงสาวในชุดนักร้องตรงหน้ามองว่าเขาเหมือนกับลูกค้าทั่วไปที่คิดจะจีบเธอจึงเรียกมาคุยเป็นการส่วนตัว
“ใช่ค่ะดาวอยากเป็นหมอตอนนี้ก็เลือกที่จะเรียนสายวิทย์คณิตอยู่แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสสอบเข้าสมดั่งที่ตั้งใจไหมเพราะคณะแพทย์เป็นคณะที่มีแต่คนเก่งเท่านั้นที่สอบเข้าได้ก็คงแต่หวังว่าโชคจะช่วยดาวบ้างนะคะ”
คนฟังได้แต่หัวเราะออกมาเมื่อคนตัวเล็กตรงหน้าฝากชีวิตไว้กับดวงโดยที่เธอไม่ได้บอกเลยว่าเธอมีความพยายามขนาดไหนที่จะไปสู่เส้นทางที่เธอใฝ่ฝัน
“ถ้าเธอหวังดวงช่วย คนอื่นก็หวังเหมือนกันทั้งนั้นไหนลองบอกผมซิว่าเธอมีวิธีไหนที่ทำให้เห็นว่าเธอพยายามมากกว่าคนอื่นถึงได้จะเหมาะเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อกับคนมากมายที่ต่างพยายามที่จะเข้าเรียนในคณะนี้”
วาดดาวเริ่มเล่าวิธีการที่เธอวางแผนไว้สำหรับการไปสู่ ความฝันในอาชีพที่เธอตั้งใจไม่ว่าจะเป็นการเตรียมตัวอ่านหนังสือ การจดสรุปย่อการเรียนพิเศษและอีกหลายๆอย่าง การพูดคุยตลอดเวลาเกือบสองชั่วโมงที่คุณหมอนั่งฟังพร้อมออกความคิดเห็นอย่างสนุกสนานทำให้ทั้งคู่ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันจนได้รู้จักกันมากขึ้น สมพงษ์ที่แอบดูอยู่ก็อดที่จะแอบยิ้มไม่ได้เพราะเขาต้องการให้หลานสาวคนนี้หลุดออกจากแวดวงที่เขาทำงานอยู่ไปสู่เส้นทางที่ดีเพราะตัวเขาเองก็มองว่าร้านอาหารที่เขาทำไม่เหมาะกับผู้หญิง
“เหลืออีกปีเดียวแล้วคงต้องเตรียมตัวให้พร้อมถ้าจะไปคิดเตรียมตัวตอนจะจบไม่ทันเขาแน่ ๆ เอาเป็นว่าถ้าผมว่างจะหาโอกาสมาติวให้แต่คงไม่ใช่ที่นี่นะไว้เราค่อยนัดกันอีกทีแต่คงเร็ว ๆ นี้เพราะผมไม่อยากให้วาดดาวเสียเวลา การสอบมีแค่ไม่กี่ครั้งถ้าพลาดแล้วก็พลาดเลย”
“คุณหมอพูดจริงนะคะ”
หญิงสาวดีใจกระโดดเกาะแขนคนข้าง ๆ ทันที เธอลืมตัวไปเลยว่าเธอกับเขาเพิ่งเคยเจอกันวันนี้ครั้งแรกเพราะมัวแต่ตื่นเต้นที่เธอจะได้มีติวเตอร์เป็นถึงคุณหมอตัวจริง เพื่อน ๆ ของเธอที่ได้ไปติวกับโรงเรียนกวดวิชาต่างก็ต้องเสียเงินกันหลายบาทแต่ตอนนี้เธอกำลังได้ติวเตอร์แบบที่ไม่ต้องเสียเงินเลย
“พูดจริงสิ...ความจริงแล้วนอกจากเป็นหมอ ผมก็อยากเป็นครูนะแต่ทำไงได้ความอยากเป็นหมอมันแรงกว่า การที่ผมจะได้สอนเธอมันก็ทำให้ผมได้ทำตามความฝันได้เป็นคุณครูกับเขาแต่บอกไว้ก่อนเลยนะถ้าถึงเวลาที่ให้ติวจะมาเล่นมาหัวเราะแบบนี้ไม่ได้นะ ผมไม่ชอบ วาดดาวต้องจริงจัง โลกใบนี้มีแต่การแข่งขันวันที่เรากำลังหยุดเล่นคนอื่นอาจจะนำเราไปแล้วไม่รู้กี่ช่วงก็ได้”
วาดดาวรู้สึกชื่นชมชายหนุ่มตรงหน้าเหลือเกินนอกจากเขาจะเป็นคุณหมออาชีพในฝันของเธอแล้ว เขายังดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าอายุซึ่งความเป็นจริงแล้วเขาก็อายุมากกว่าเธอสิบกว่าปีแต่ความคิดของเขามันดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าอายุบวกกับหน้าตาที่ดูอ่อนกว่าวัยทำให้เธออดคิดไม่ได้ว่าคุณหมอคนนี้ช่างมีอะไรค้านกันไปหมดทั้งตัว
“ขอไลน์เธอหน่อยนะไว้ผมจะได้คุยมีอะไรจะได้แนะนำ”
นันทภพไม่ได้ขอแค่เพียงเพราะต้องการคุยในเรื่องของการติวเพียงอย่างเดียวแต่เขารู้สึกถูกชะตากับหญิงสาวตรงหน้าตั้งแต่เธอยืนร้องเพลงอยู่บนเวทีแล้วและยิ่งมีโอกาสได้คุยกันแบบนี้ยิ่งรู้สึกมีความสุขที่ได้แลกเปลี่ยนความรู้สึกความรู้ด้วยกันเขาจึงต้องการได้ไลน์ของเธอเพื่อจะได้พูดคุยในเวลาที่ต่างคนต่างเหงาหรือในเวลาที่เขาต้องการคุยกับใครสักคนเพื่อผ่อนคลายจากความเครียดที่ต้องพบเจอจากทั้งที่บ้านและที่ทำงานและเขามั่นใจว่าหญิงสาวตรงหน้าจะเป็นเพื่อนคุยที่สร้างความสนุกและรอยยิ้มให้เขาจนลืม ความทุกข์ที่เกิดขึ้นในเบื้องหลังได้
“ได้สิคะคุณหมอแล้วแบบนี้ดาวสามารถทักไปปรึกษาคุณหมอได้ไหมคะแต่ถ้าตอนไหนที่ดาวไลน์ไปแล้วคุณหมอไม่สะดวกก็ไม่ต้องตอบก็ได้เพราะบางทีดาวก็เข้าใจว่าการเป็นคุณหมอมันมีเรื่องฉุกเฉินอยู่ได้ตลอดเวลาและยิ่งเวลาทำงานที่ไม่ตรงกับอาชีพอื่นจึงทำให้คาดเดาได้ยากว่าเวลาไหนที่คุณหมอจะพร้อมให้ดาวปรึกษา”
“ยินดีครับไว้ผมสะดวกตอบเมื่อไหร่จะรีบตอบทันทีและอย่าลืมกลับไปตั้งใจอ่านหนังสือแบ่งเวลาให้เป็น ผมอยากเห็นอนาคตของคุณหมอวาดดาวนะครับ”
รอยยิ้มของคนทั้งสองที่ส่งผ่านให้กันอย่างมีความสุข วาดดาวรู้สึกว่าชีวิตของเธอมีกำลังใจขึ้นเยอะเลยจากที่หลายครั้งที่เธอมองว่าความฝันสู่การเป็นแพทย์หญิงอยู่ไกลเกินเอื้อมแต่ตอนนี้เธอรู้สึกว่าระหว่างทางที่เธอกำลังจะเดินไปถึงความฝันเธอมีคนเดินเป็นเพื่อนเธอแล้ว