บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

เธอชอบมองหน้าตาของลูกพีช บางทีเด็กน้อยก็ดูงงๆ เพราะเพิ่งตื่นนอน ดวงตากลมบ้องแบ๊วเหลือเกิน ปากแดงย้อย แก้มกลมเป็นสีแดงเรื่อ เส้นผมดกสีดำขลับ แลดูเหมือนตุ๊กตาตัวน้อยๆ

“เป็นยังไงคะคนสวยของแม่ หนูนอนจนอิ่มเลยใช่ไหม หนูหลับตั้งแต่อยู่บ้านคุณยายราศี แม่อุ้มกลับบ้าน หนูก็ยังไม่ตื่น”

เมื่อแม่พูดกับตัวเอง ลูกพีชจึงส่งเสียงอ้อแอ้ตอบกลับ บางครั้งก็หลุดมาเป็นคำๆ ให้แม่ได้ลุ้น

“ปะ...ปาย...”

“ไปไหนอีก เราเพิ่งกลับเข้าบ้านกันนะ ท่าทางจะเป็นผู้สาวขาเลาะตั้งแต่เด็กนะเรา”

พอเห็นว่าแม่หัวเราะขันตัวเอง ลูกพีชก็ขย่มตัวแรงจนแม่แทบเอาไม่อยู่ เรียกได้ว่าออกอาการกระดี๊กระด๊า แถมยังหัวเราะเอิ๊กอ๊ากให้แม่อีกด้วย

เมื่อหยุดหัวเราะ เด็กน้อยก็ซุกใบหน้ากับอกของแม่ มือเล็กๆ ล้วงเข้าไปในอกเสื้อ

“หนูหิวหรือคะ แม่กำลังจะทำข้าวตุ๋นให้หนู แต่แม่ว่าหนูคงรอข้าวตุ๋นไม่ไหวแน่ๆ งั้นแม่จะชงนมให้หนูกินก่อนนะ”

ลูกพีชพยักหน้าหงึกๆ คะนึงนิจเชื่อว่าลูกเข้าใจในสิ่งที่เธอพูด ในแต่ละวันเธอจึงตั้งใจพูดกับลูก เพื่อลูกจะได้จดจำและเรียนรู้ไปด้วย

รถคันสีดำมันปลาบแล่นเข้ามาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่ที่กินพื้นที่หลายไร่ คนที่อยู่ภายในบ้านได้ยินเสียงรถก็แหวกผ้าม่านตรงหน้าต่างมองออกไป ก่อนจะหันมาบอกคนที่นั่งอยู่ด้วยกันมาสักพักแล้ว

“พี่โค้ดมาแล้วนะแม่ แม่จะให้ผมเรียกให้หรือเปล่า”

“ไปเรียกมาสิ ไม่งั้นก็หายหน้าไปอีก ไม่ได้คุยกันสักที”

สิ้นคำประกาศิตของแม่ ลูกชายคนเล็กก็เดินลิ่วๆ ไปดักรอคนเป้าหมายตรงโถงบ้าน ป้องกันไม่ให้เจ้าตัวเดินขึ้นบันไดไปหมกตัวอยู่ในห้องส่วนตัว

“แม่เรียกพบแน่ะเฮีย”

ภากรเลิกคิ้วแปลกใจ คิดจะถามน้องชายว่าแม่เรียกหาตนทำไม แต่ก็เปลี่ยนใจ เขาไม่อยากเสียเวลา เพราะเห็นเจ้าตัวตั้งท่าจะกวนอารมณ์เขาอยู่แล้ว เขาจึงก้าวดุ่มๆ ไปหาแม่เสียทีเดียว

“แม่มีธุระอะไรกับผมหรือครับ”

ชายหนุ่มถามพลางหย่อนกายนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงกันข้ามกับแม่ ส่วนคุณเครือวัลย์ก็ยิ้มกว้างตอบรับลูกชายคนโต ผิดกับท่าทางขึงขังเมื่อครู่ราวกับเป็นคนละคน ทำให้ลูกชายคนเล็กที่เดินตามหลังมาต้องกลอกตามองเพดานอย่างล้อเลียนแม่

“แม่จะถามเรื่องหนูพลอย เราสองคนคบกันถึงไหนแล้ว คิดจะแต่งงานกันได้หรือยัง แม่อยากรู้ แม่จะได้มีเวลาเตรียมตัวด้วย”

“แม่ไม่ใช่เจ้าสาว ไม่ต้องเตรียมตัวมากหรอก”

ไม่ใช่เสียงของลูกชายคนโต แต่เป็นลูกชายคนเล็กที่อยู่ๆ ก็นึกอยากกวนแม่ ทั้งที่เมื่อกี้ยังพูดจาถูกคอกันอยู่เลย

คุณเครือวัลย์ค้อนให้ แล้วหันไปยิ้มให้คนที่ตนต้องการเค้นคำตอบ

“เรายังไม่มีแผนแต่งงานครับ ผมกับพลอยยังไม่คิดเรื่องนี้”

ภากรบอกปิดทาง รู้ดีว่าความสัมพันธ์ของตนกับไฮโซสาวดูเลือนรางชอบกล ไม่เหมือนคู่รักที่จะมีอนาคตร่วมกัน แถมยังดูเหมือนว่าต่างคนต่างต้องการให้ความสัมพันธ์คงอยู่เพียงเท่านี้

“เราได้พูดกับน้องบ้างหรือเปล่า อย่ารอให้ผู้หญิงถามเองนะ ผู้หญิงบางคนไม่พูดเรื่องแต่งงานกับผู้ชายก่อนหรอก มันดูไม่มีราคา”

“นี่มันสมัยไหนแล้วแม่ เรื่องพวกนี้ใครพูดก่อนก็ไม่สำคัญหรอก ยิ่งผู้หญิงปิดปากเงียบ รับรองไม่ได้กิน”

ภีมะขัดอย่างอดไม่ได้ คนเป็นแม่เลยเบนเป้าหมายไปหาเขาแทน

“คุ้งล่ะ เมื่อไรจะพาแฟนมาพบพ่อกับแม่”

“แม่อย่าเพิ่งลัดขั้นตอนสิ ก่อนจะพาไปพบแม่ คุ้งต้องหาแฟนให้ได้ก่อน แต่เรื่องพวกนี้คุ้งไม่รีบ คุ้งให้เกียรติพี่โค้ด”

ภีมะบุ้ยใบ้ไปทางพี่ชาย บอกให้แม่รู้ว่าอย่าเพิ่งเปลี่ยนเป้ามาทางเขา เพราะมันเป็นงานที่ยากยิ่งกว่า...แม่กลับไปเคี่ยวเข็ญพี่ชายต่อเถอะ

“โค้ดอายุสามสิบสี่ปีแล้ว ส่วนคุ้งก็ไม่ใช่เด็ก ปีนี้ก็สามสิบสองปี ตามพี่เราไปติดๆ นั่นแหละ แต่ยังทำตัวลอยชายกันอยู่เลย...บอกตรงๆ ว่าแม่ไม่สบายใจ แม่อยากอุ้มหลานแล้ว”

ตบท้ายด้วยประโยคคลาสสิก ซึ่งทำให้ลูกชายทั้งคู่รู้สึกขนหัวลุกพิกล พวกเขาหันไปสบตากันโดยไม่ได้นัดหมาย แล้วค่อยๆ เบนสายตากลับไปยังแม่

“ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติดีกว่านะแม่นะ คุ้งยังไม่เจอผู้หญิงที่ถูกใจ ส่วนพี่โค้ดก็มีผู้หญิงเยอะเกินไปจนเลือกไม่ถูก มันเลยไม่ลงตัวสักทีครับ”

รู้ว่าน้องชายแค่หยอกเย้า แต่คนเป็นพี่ชายกลับสะดุดลมหายใจไปชั่วขณะ

เกือบสองปีแล้วที่ภากรแทบไม่สนใจเรื่องผู้หญิง เขาหันมาตั้งหน้าตั้งตาทำงานจนขยายกิจการได้อย่างน่าภาคภูมิใจ ถึงขนาดที่พ่อยกกิจการส่วนใหญ่ให้เขาดูแลแทน

เกือบสองปีเช่นกันที่ภากรเปิดตัวคบหากับพลอยชมพูซึ่งเป็นไฮโซชื่อดังและเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าที่กำลังบุกตลาดยุโรป กระแสตอบรับจากสังคมเป็นไปในทางที่ดี พวกเขาเหมาะสมกัน สวยหล่อและเก่งด้วยกันทั้งคู่

แรกเริ่มภากรรู้สึกสบายใจกับความสัมพันธ์คราวนี้ พลอยชมพูดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องพึ่งพาเขาสักอย่าง เพราะเธอเองก็มีพร้อมทั้งทรัพย์สมบัติ หน้าที่การงาน และบริวารอยู่แล้ว

หากพอคบหากันนานขึ้น ภากรก็ได้ทบทวนความสัมพันธ์ของตนกับคนรัก เขาจึงได้ตระหนักว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ

เขาต้องการความรักที่ได้อยู่ใกล้ชิดกัน ดูแลและเอาใจใส่กัน แต่เขากลับไม่อยากได้สิ่งเหล่านี้จากพลอยชมพู

เมื่อความต้องการของตัวเองยังคงย้อนแย้ง ภากรจึงไม่กล้าเดินหน้าจากสิ่งที่เป็นอยู่ นึกไม่ออกว่าความสัมพันธ์ของเขากับพลอยชมพูจะไปบรรจบกันตรงจุดไหน...ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ คิดเรื่องนี้ทีไรมันทำให้ปวดหัวทุกที

คุณเครือวัลย์สะดุดกับท่าทางหมดอาลัยตายอยากของลูกชายคนโต นางงุนงงและสงสัย

“ตกลงว่าเรากับหนูพลอยยังคบกันดีอยู่หรือเปล่า พอแม่ถามเรื่องนี้ ทำไมถึงมาถอนหายใจเฮือกๆ ใส่แม่”

“ขอโทษทีครับ ผมแค่คิดอะไรเพลินไปหน่อย”

“ถามตรงๆ เถอะ รักกันดีอยู่ไหม อย่าคิดว่าแม่ไม่รู้นะ เราสองคนอยู่กันคนละทิศละทาง มีเวลาให้กันบ้างหรือเปล่า แล้วตอนนี้หนูพลอยทำอะไรอยู่ที่ไหน โค้ดรู้หรือเปล่า”

“พลอยดูแลตัวเองได้นะแม่”

ภากรบอก เขาไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าเหตุผลนี้สามารถเป็นคำตอบให้แม่ได้หรือเปล่า...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel