5
ฉันเสียดายความรู้ความสามารถของแกจริงๆ แล้วถ้าวันหนึ่งวันใดคุณแดนเกิดทิ้งแกขึ้นมา แกจะทำยังไง แกอย่าลืมสิว่าแกแก่ขึ้นทุกวัน เวลาวารีไม่รอใคร พอแกอายุมากขึ้นถึงแกเรียนจบเกียรตินิยมเหรียญทองอันดับหนึ่ง เก่งที่สุดในภาควิชา แต่แกไม่มีประสบการณ์การทำงานเลย เด็กเก่ง ๆ ที่จบใหม่ก็เยอะ แกจะพลาดโอกาสดี ๆ ในชีวิตไปนะน้ำ” นิชาเตือนสติเพื่อน
“ขอบใจแกมากนะที่แกเตือนสติฉัน ฉันรักเขาเลยยอมทำตามที่เขาบอก แต่ฉันจะลองอดทนเอาความดีเข้าสู้อีกสักปี ถ้าไม่ไหวก็คงถอย”
“บริษัทของฉันยังยินดีรับแกเข้าทำงานนะ ปีนึงไม่เป็นไร แต่อย่านานหลายปี ถ้าแกเป็นแม่บ้านไม่มีงานทำ คุณค่าของแกจะยิ่งลดน้อยลงเรื่อย ๆ จะยิ่งโดนแม่ผัวกับน้องสาวของเขาโขกสับหาว่าแกไปเกาะเขากิน ไม่มีที่ไป”
“ฉันจะลองคุยกับคุณแดนดูว่าจะขอออกไปทำงานข้างนอกดู”
“ดีแล้ว แกต้องพึ่งพิงตัวเองให้ได้นะน้ำ ถึงใครจะทิ้งเราสักกี่คน แต่เราก็ยังยืนได้ด้วยลำแข้ง ไม่ต้องไปง้อใคร สวย ๆ แบบแกหาผัวใหม่ได้สบาย หรือไม่แกก็หาผัวใหม่ ผัวที่ดีคือผัวใหม่แกเชื่อฉัน เพราะแม่เขาไม่ชอบแก น้องเขาไม่ชอบแก เขาก็จะทำทุกอย่างเพื่อกลั่นแกล้งแกให้เลิกกับลูกชายของเขา แกเชื่อฉันไหมล่ะ” นิชาบอกเพื่อนอย่างห่วงใย
“ฉันรักคุณแดนจริง ๆ เรารักกันมานานแล้ว ฉันไม่หาผัวใหม่หรอก”
“แต่ถ้าเขาทำให้แกมีความสุขไม่ได้แกก็ต้องทนเหรอน้ำ”
“เขารักฉันมากนะ ปกป้องฉันทุกอย่าง ฉันคงรักใครไม่ได้อีก ฉันจะทนเพื่อเขาอีกสักครั้ง”
“ถ้าแกกับเขารักกันจริง ก็คงจะฝ่าฟันอุปสรรคไปได้ ฉันเป็นกำลังใจให้แกเสมอ แต่คุณแดนเขาจะหนักแน่นเข้าข้างแกไปตลอดชีวิตเลยเหรอ นั่นแม่เขาเลยนะ ยังไงเขาก็ต้องเห็นแม่เขาดีกว่าแกไหมล่ะ ฉันเห็นญาติฉันก็แบบนี้ แต่สุดท้ายก็เลือกแม่”
“ฉันก็ยังไม่รู้อนาคตเลย แต่ฉันตัดสินใจที่จะเป็นเมียเขาแล้ว อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด”
“ฉันรู้ว่าแกใจเด็ด แต่ถ้าคุณแดนเขารักษาแกเอาไว้ไม่ได้ เขาก็คงจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต” นิชารู้ว่าเพื่อนของเธอใจเด็ด ตัดสินใจทำอะไรลงไปแล้วจะไม่ลังเล และจะทำให้ได้ แต่ถ้าไม่ทำก็คือไม่ทำ เธอก็กลัวใจเพื่อนอยู่เหมือนกัน เธอพอรู้ว่าแดนไทยรักพรนัชชามาก แต่ถ้าเขาไม่เด็ดขาดเรื่องแม่กับน้องสาว แล้วพรนัชชาถอดใจขึ้นมา ทุกอย่างคงพัง
เขาจำได้ว่าแดนไทยกับพรนัชชาแอบคบหากันมาตั้งแต่สมัยเรียน เพราะมารดาของแดนไทยหวงลูกชายมาก ไม่อยากให้คบหากับผู้หญิงที่มีฐานะต่ำต้อยกว่า แต่ทั้งสองก็ยังรักปักใจไม่เคยสนใจคนอื่น ๆ ที่เข้ามาในชีวิต ไม่ใช่เท่าแต่เพื่อนของเธอ แดนไทยเองก็เป็นหนุ่มเนื้อหอมสาว ๆ ทอดสะพานให้หัวกะไดบ้านไม่แห้ง ยิ่งไปเรียนเมืองนอก กลับมาเป็นหนุ่มนักเรียนนอกยิ่งแล้วใหญ่ คุณดรุณีก็ขยันหาลูกสาวเพื่อนคุณหญิงคุณนายให้ดูตัว แต่แดนไทยก็ยังคงรักเพื่อนของเธอ เธอก็ขอให้คนทั้งสองผ่านพ้นอุปสรรคครั้งนี้ไปให้ได้
พรนัชชาวางโทรศัพท์จากเพื่อนแล้วถอนใจเฮือกใหญ่ ประโยคเตือนสติของนิชาก็ทำให้เธอได้ฉุกใจคิด ถ้าขืนเธอยังอยู่ในบ้านหลังนี้แบบไร้ค่า คุณดรุณีคงจะคิดว่าเธอมาเกาะกิน ทั้ง ๆ ที่เธอสามารถทำงานบริษัทใหญ่ ๆ เงินเดือนสูงๆ ได้ ไม่จำเป็นต้องมาเป็นแม่บ้านของแดนไทยเพียงอย่างเดียวเช่นนี้
ข้อเสียของแดนไทยอย่างหนึ่งที่เธอรู้คือเขาขี้หึงมาก สาเหตุหนึ่งที่เขาไม่ต้องการให้เธอออกไปทำงานนอกบ้านเพราะเขาไม่ชอบให้ผู้ชายคนอื่นมาเกาะแกะเธอ แต่ถ้าภายในปีนี้เธอยังไม่ทำงานเป็นหลักแหล่ง ยังอยู่ให้แม่ของเขาโขกสับต่อไป เธอก็คงเป็นได้แค่ลูกคนใช้ต่ำต้อยไร้ค่าที่คิดจะเกาะลูกชายของท่านกิน โคตรดูไร้ค่า เธอเป็นผู้หญิงยุคใหม่ จะไม่ทำตัวไร้ค่าแบบนั้นเด็ดขาด ต้องขอบคุณนิชาเพื่อนรักของเธอที่เตือนสติเธอ เธอรักแดนไทยนั้นคือเรื่องจริง แต่เธอก็ต้องรักตัวเองให้มาก ๆ ด้วย
“มาแล้วค่ะคุณแม่” ดาริการีบวิ่งมาบอกมารดาที่นั่งรอลูกชายมาขอโทษอยู่บนเตียงอย่างเซ็ง ๆ
“มาแล้วเหรอ”
“มาแล้วค่ะ”
“คิดว่าจะไม่มาเสียอีก หึ!” คนพูดแกล้งทิ้งตัวลงนอนเหมือนรู้สึกไม่ค่อยสบาย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก... เสียงเคาะประตูดังขึ้น คุณดรุณีส่งสัญญาณให้ลูกสาวเมื่อปรับสีหน้าและแววตาเรียบร้อยแล้ว
“พี่แดนมีอะไรคะ” ดาริกาเอ่ยถามพี่ชายอย่างเหินห่าง ท่าทีบอกว่าไม่ค่อยอยากคุยด้วย
“คุณแม่นอนแล้วเหรอ”
“นอนแล้วค่ะแต่ยังไม่หลับ คงจะเจ็บที่โดนต่อยน่ะค่ะ”
“พี่ขอเข้าไปหน่อยนะ” ประโยคนั้นทำให้ดาริกาเลี่ยงให้พี่ชายเดินเข้ามา
“คุณแม่ครับ ผมกราบขอประทานโทษแทนน้ำด้วยนะครับ”
“หึ! ปล่อยให้แม่ถูกทำร้ายจนตายไปเถอะ จะมาขอโทษแม่ทำไม เดี๋ยวนี้แม่ไม่สำคัญอะไรแล้วนี่ เห็นแม่เป็นหัวหลักหัวตอ ทั้งแกทั้งพ่อของแกไม่ยอมไล่นังนั่นออกไป รักมันหลงมันเหมือนกันหมด”