บทย่อ
ในวันที่เธอกำลังตั้งครรภ์ชีวิตน้อยๆ อันเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา เขากลับไล่เธอออกจากชีวิตเหมือนผู้หญิงไร้ค่าคนหนึ่ง เธอรักเขานั้นคือเรื่องจริง แต่เขานั้นรักเธอจริงตามปากพูดไหม เธอชักไม่แน่ใจ เพราะแค่ความไว้วางใจที่จะสืบหาความจริงเขากลับไม่ทำ เธอทิ้งทุกอย่างเพื่อยอมเป็นเมียลับให้แก่เขา ยอมให้แม่และน้องของเขาโขกสับสารพัด หากเขาไม่เห็นค่า เธอก็พร้อมที่จะเดินออกมาไม่เหลียวหลัง แต่หากในวันที่เธอเข้มแข็ง ยืนหยัดได้ เขากลับมาอีกครั้งพร้อมขอโอกาส และครั้งนี้เธอไม่ใช่คนที่เป็นฝ่ายถูกเลือก แต่เธอจะเป็นฝ่ายเลือกว่าจะตัดสินใจเช่นไร และเธอจะไม่ยอมให้เขาทำร้ายเธอเป็นครั้งที่สองอีก ตัวอย่างบางช่วงบางตอน “มีที่หมายใหม่เร็วดีนะ นายเข้มคงชั่วคราวเพราะไม่รวยเท่านายพีรพลอะไรนั่นสินะ” ประโยคที่พูดขึ้นลอย ๆ ทางด้านหลังทำให้เธอหันขวับไปมอง ก่อนที่พรนัชชาจะเดินหนีออกไปจากหน้าห้องน้ำ ไม่อยากเสวนากับคนแบบเขาอีก แดนไทยตามมากระชากแขนของเธอเอาไว้ พรนัชชาก็สะบัดจนหลุด “อย่ามาแตะต้องตัวฉัน” ประโยคแสนห่างเกินนั้นทำให้แดนไทยหน้าตึง “ทำไมพูดกับผัวเก่าห่างเหินขนาดนั้นล่ะ” แดนไทยเอ่ยถามอย่างเยาะหยัน “ก็แค่ผัวเก่า เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว” เธอตอกกลับพลางเชิดหน้าขึ้น อย่างเย่อหยิ่ง แดนไทยถึงกับชะงักไป เพราะเธอดูเปลี่ยนไปมาก “ตกลงจะเอาคนนี้เหรอ แต่จริง ๆ ฉันก็รวยไม่แพ้นายพีนี่นะ ถ้ายอมมาเป็นนางบำเรอของฉัน ฉันจะให้มากกว่ามัน ให้แบบถึงใจทั้งเรื่องเงินและเรื่องบนเตียง ไม่ต้องลักลอบไปหานายเข้มอีก” เพี้ยะ!!! เสียงเพี้ยะดังขึ้น ใบหน้าของแดนไทยหันไปตามแรงตบ “นี่เธอกล้าตบฉันอย่างนั้นเหรอ” “นี่ยังน้อยไปกับปากโสโครกอย่างคุณ ฉันตัดสินใจถูกแล้วที่เดินออกมาจากชีวิตของคนที่ไม่เห็นคุณค่าของฉัน คุณรู้จักฉันมานานหลายปีแล้วแต่คุณไม่รู้จริงๆ น่ะเหรอคุณแดนไทยว่าฉันเป็นคนยังไง” “ฉันเคยคิดว่าเธอดีไง เลยเชื่อว่าเธอเป็นคนดี แต่ใจของคนเรายากแท้หยั่งถึง ความดีที่แสดงออกมาอาจจะเป็นการเสแสร้งแกล้งทำก็ได้ไม่ใช่เหรอ ฉันเชื่อในสิ่งที่เห็น ถ้าฉันไม่เชื่อนี่แหละแสดงว่าฉันทั้งบ้าและโง่”
1
“ชื่นใจจัง” แดนไทยหอมแก้มเมียรักฟอดใหญ่อย่างแสนคิดถึง
“อุ๊ย!” พรนัชชาอุทานออกมาเมื่อได้รับอ้อมแขนอันแสนอบอุ่นกอดรัดมารอบร่างน้อยของเธอ
“คุณแดนกลับมาเมื่อไหร่แล้วคะ”
“ฉันถึงบ้าน กลับมาก็มาหาน้ำเลยนะ” แดนไทย เขมกรหนุ่มวัยสามสิบห้าปีเอ่ยกับเมียสาวที่เขารักสุดหัวใจ
พรนัชชาเป็นเด็กสาวในบ้านที่เขาเห็นมาแต่เล็กแต่น้อย หล่อนเป็นลูกสาวแม่บ้านเก่าแก่ของครอบครัว
เขาหลงรักเธอจึงเฝ้าตามจีบตามหวงและได้เธอเป็นเมียในที่สุด แม้การได้เธอเป็นเมียจะไม่ถูกต้องนัก เพราะมารดาไม่ยอมรับเธอ ด้วยว่าเธอฐานะต่ำต้อยเป็นแค่เพียงลูกสาวแม่บ้านเท่านั้น เขาทนไม่ไหวอีกต่อไปเพราะมีผู้ชายมาตามจีบเธอมากมาย จึงจับเธอรวบหัวรวบหางเสียตั้งแต่ที่เธอเพิ่งเรียนจบปริญญาตรี
เขาได้เธอเป็นเมียในวันนั้น ถึงแม้ว่ามารดาจะไม่ยอมรับแต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับจนได้ เมื่อเขายื่นคำขาดว่าหากมารดาจะไล่พรนัชชาออกจากบ้าน เขาก็จะตามไปอยู่กับเธอด้วย แล้วจะไม่กลับมาเหยียบบ้านหลังนี้อีก
“คุณดูสิคะ ตาแดนกลับมาแทนที่จะมาไหว้พ่อแม่ กลับไปกกนังเมียยาจกนั่น” ดรุณีกระแทกก้นนั่งลงบนโซฟาราคาแพงด้วยท่าทีหงุดหงิดใจ
“เขาเป็นผัวเป็นเมียกันก็ต้องคิดถึงกันเป็นธรรมดา คุณให้ลูกไปทำงานต่างจังหวัดตั้งหลายวัน”
“คิดถึงยังไงก็ควรต้องมาหาพ่อแม่ก่อนไหมคะ”
“จริงด้วยค่ะคุณแม่ ไม่รู้จะรักจะหลงอะไรนักหนา สงสัยยายน้ำทำเสน่ห์ยาแฝดใส่พี่แดนแน่ ๆ เลยค่ะ” ดาริกาแสดงความคิดเห็น
“เสน่ห์ยาแฝดอะไรกัน เหลวไหล”
“คุณก็อีกคนนะคะ เข้าข้างนังนั่นอยู่ได้ เพราะคุณแอบกิ๊กกั๊กกับแม่ของมันก่อนที่จะแต่งงานกับฉันใช่ไหม”
“จะไปกันใหญ่แล้วคุณ เกดแก้วเขาตายไปตั้งนานแล้วนะคุณ”
“มันตายแล้ว แต่คุณก็ยังคิดถึงมัน ใช่ไหมล่ะคะ คุณตอบฉันมาสิ”
“ผมไปทำงานดีกว่า คุยกับคุณแล้วทะเลาะกันเสียเปล่าๆ” ดรัณเอ่ยขอตัวเพราะไม่อยากทะเลาะกับภรรยาอีก
“ดูคุณพ่อสิคะ ไม่เข้าข้างเราเลย” ดาริกากอดอกเม้มปากอย่างขัดใจแทนมารดา
“แม่อุตส่าห์ส่งตาแดนพี่ของเราไปเรียนต่อเมืองนอกเมืองนา นึกว่าจะได้กับสาวสวยไฮโซ ลูกคุณหนูมีชาติตระกูลฐานะทัดเทียมกัน ที่ไหนได้กลับมาคว้านังน้ำ นังลูกคนใช้เป็นเมีย ดีหน่อยนังนั่นยังไม่เรียกร้องอะไร ถ้าเพื่อน ๆ คุณหญิงคุณนายของแม่รู้ว่าพี่เราน่ะไปคว้าลูกคนใช้มาทำเมียแม่คงเอาปี๊บคลุมหัว” คุณดารุณีถอนใจอย่างหงุดหงิดเพราะลูกชายไม่ได้ดั่งใจ
“ดีที่มันเชื่อคุณแม่ ยอมเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่ในที่ของมัน ถ้ามันขืนบอกใคร ๆ หนูคนแรกละค่ะจะตบมันให้คว่ำเลย หน็อย... มีอย่างที่ไหนเป็นแค่ลูกคนใช้ กินบนเรือนขี้รดบนหลังคาริจะเอาลูกชายเจ้าของบ้านทำผัว น่ารังเกียจที่สุดเลยค่ะ ไม่เจียมกะลาหัว”
“แต่แม่หวั่นใจว่ามันอาจจะไม่หยุดแค่นี้แน่ ตอนนี้มันอาจจะแค่ทำเป็นยอมไปก่อน แต่ถ้าตาแดนรักมันหลงมัน เดี๋ยวมันก็มาเหยียบหัวเรา แม่สังหรณ์ใจว่าจะเป็นแบบนั้นจ้ะ”
“หนูก็คิดเหมือนคุณแม่ค่ะ เราจะต้องทำให้มันกระเด็นออกไปจากบ้านหลังนี้ค่ะ ไหน ๆ มันก็เรียนจบแล้ว จะอยู่เป็นภาระให้เราเลี้ยงดูอยู่อีกทำไม”
“เมื่อก่อนแม่ไม่ไล่มันไปเพราะจะให้มันอยู่คอยรับใช้ แต่แม่ไม่คิดว่าตาแดนจะไปคว้านังชั้นต่ำนี่มาเป็นเมีย”
“เราจะต้องหาทางเฉดหัวมันออกไปจากบ้านหลังนี้ค่ะคุณแม่ ทำให้มันทนไม่ได้ ให้มันไปเองโดยที่ไม่ให้พี่แดนตามมันไปด้วยนะคะ”
“ทำยังไงเหรอลูก แม่ยังคิดไม่ออกเลย”
“ก็กลั่นแกล้งมันไงคะคุณแม่ ให้มันทำงานหนัก ๆ เข้าไว้ เหนื่อยทนไม่ไหวก็ออกไปเองแหละ”
“ดีจ้ะ แต่ต้องทำตอนตาแดนไม่อยู่นะ ขานั้นรักเมียหลงเมียยิ่งกว่าอะไรดี ไม่เห็นหัวพ่อแม่”
“เรื่องนั้นหนูจะจัดการเองค่ะคุณแม่”
รุ่งเช้าของวันใหม่ สองแม่ลูกรอให้สองพ่อลูกออกไปทำงานกันก่อน จึงไปหาเรื่องพรนัชชาที่บ้านหลังน้อย
บ้านหลังน้อยหลังนี้เป็นบ้านหลังที่แดนไทยต้องระเห็จพาเมียรักมาอยู่ด้วย เพราะคุณดรุณีไม่ยอมรับพรนัชชา รังเกียจไม่อยากได้เป็นสะใภ้ จึงไม่อยากให้อยู่ร่วมบ้านด้วย
“สวัสดีค่ะ คุณแม่มาถึงที่นี่มีอะไรให้น้ำรับใช้เหรอคะ”
“ฉันไม่ใช่แม่ของแก อย่าสะเออะมานับญาติกับฉัน ฉันไม่ชอบ”
“ขอบโทษค่ะคุณผู้หญิง”
“แกควรรู้จักที่ต่ำที่สูงด้วย อย่าตีตัวเสมอเจ้านาย คนบ้านนี้เป็นเจ้านายของแกทุกคน ไม่ใช่ว่าลูกชายของฉันเอาแกมากกกอดนอนด้วยไม่กี่ครั้ง แล้วจะมาคิดว่าตัวเองเป็นเมีย เขาก็นอนกับผู้หญิงคนอื่นตามประสาผู้ชาย ถ้านับเป็นเมียเขาก็คงมีเมียเป็นร้อยแล้วกระมัง” ประโยคของแม่สามีที่ไม่ยินดีรับเธอเป็นสะใภ้ทำให้พรนัชชาต้องกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ
ทุกวันนี้เธอทนเพราะแดนไทย หากไม่เพราะรักเขาเธอคงหนีไปอยู่ที่อื่นแล้ว เขาเองก็บอกว่าให้เธออดทน ความดีจะชนะทุกอย่าง ชนะใจมารดาและน้องสาวของเขา
“น้ำขอโทษค่ะ”