2
สำหรับเภา ณศรินทร์คือคนดีมาก คิดดี ทำดี มีใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ โอบอ้อมอารี ดูแลคนในบ้านแม้ว่าจะถูกรังเกียจก็ตาม จนบางครั้งเภาแอบสงสัยว่า ณศรินทร์ทนอยู่ที่นี่ทำไม ทั้งที่ไปจากบ้านหลังนี้ได้ทุกเมื่อ โดยไม่มีใครเหนี่ยวรั้ง หากเป็นหล่อน คงเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า ไปใช้ชีวิตโดยไม่มีความเกลียดชังโอบล้อมรอบตัว คงมีความสุขมากกว่านี้แน่นอน
ณศรินทร์วางถาดไม้ลงบนโต๊ะรับแขก ยกถ้วยชาวางลงตรงหน้าปนัดดา พร้อมของว่าง ปนัดดาเจ้าของอาณาจักรไร่ชวนชม ไม่แม้แต่มองหน้าคนยกของมาให้ นางยกถ้วยชาร้อนขึ้นมาจิบ เมื่อวางลงบนจานรอง นางถึงได้มองหน้าณศรินทร์
“เรื่องห้องออย แกจัดการเสร็จหรือยัง” เป็นคำถามเดียวกับกรชวิลที่ถามณศรินทร์เมื่อเช้านี้ คนถูกถามหน้าเศร้า แต่ก็ฝืนความรู้สึก ตอบออกไปด้วยน้ำเสียงปกติ
“เสร็จเรียบร้อยตามคำสั่งแล้วค่ะ เหลือที่พี่ยักษ์สั่งเพิ่ม ให้เอาดอกคาร์เนชั่นจัดใส่แจกันไปวางในห้องออยค่ะ เอยเอาของว่างให้คุณป้าเสร็จก็จะไปเอาดอกไม้ที่สวนค่ะ”
“แหม ยักษ์นี่รู้ใจออยเหลือเกิน” ปนัดดาพูดยิ้มๆ “อยากให้ลงเอยกันเร็วๆ จัง ฉันจะได้มีหลานสักที”
หัวใจณศรินทร์สั่นไหวคล้ายมีพายุความเจ็บปวดก่อตัว พัดพาความร้าวรานใจให้อยู่ในนั้น หาทางออกไม่ได้ จำต้องกล้ำกลืนความรู้สึกไว้ในหัวใจแสนช้ำสุดกำลัง เจ็บแค่ไหน เผยออกมาให้ใครรู้ ใครเห็นไม่ได้
“เอยขอตัวไปเอาดอกไม้ก่อนนะคะ” การเลี่ยงไปจากตรงนี้คือทางเดียว เพราะเกรงว่าจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้
“จะไปก็ไปสิ ฉันก็ไม่อยากให้แกอยู่ตรงนี้นักหรอก เกะกะลูกตา” ณศรินทร์ใจเศร้าหนักขึ้นหลายเท่า “อ้อ...เย็นนี้ไม่ต้องเสนอหน้ามาร่วมโต๊ะอาหารนะ ฉันไม่อยากเสียบรรยากาศ นานๆ ออยจะกลับมาบ้าน ฉันอยากมีความสุข”
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ณศรินทร์ไม่ได้นั่งร่วมโต๊ะอาหารกับเจ้าของบ้าน หล่อนถูกจำกัดพื้นที่ ไม่ให้มีส่วนร่วมกับกิจกรรมใดใดทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นงานวันคล้ายวันเกิด ช่วงเทศกาลสำคัญ หรืองานวันรวมญาติ หล่อนเป็นคนนอกแม้อยู่ร่วมบ้านเดียวกัน
“ค่ะคุณป้า” น้ำเสียงตอบแสนเบา ขยับตัวเดินออกไปจากห้องโถงใหญ่ หัวใจกลัดหนอง เศร้าโศกเหลือแสน พอพ้นประตูบ้านน้ำตาที่กลั้นไว้นาน ไหลรินผ่านแก้มหล่อนรีบปาดมันทิ้ง ราวกับกลัวว่าจะมีใครมาเห็น แล้วหล่อนจะตอบคำถามไม่ได้ว่า ร้องไห้ทำไม
บ้านหลังนี้รัก เอ็นดู ให้ความเมตตากรุณาอรัญญาหรือออย น้องสาวต่างบิดาของณศรินทร์มาก ประเคนทุกอย่างที่อยากได้โดยไม่ปริปากบ่น ข้าวของเครื่องใช้ เครื่องนุ่งห่มล้วนเป็นของแบรนด์เนม กระเป๋าราคาสามสี่แสนก็ซื้อให้ ของขวัญชิ้นใหญ่มอบให้ในวันเรียนจบพยาบาลคือ รถบีเอ็มดับบลิวรุ่นใหม่ราคาเกือบเจ็ดล้าน คนซื้อให้อรัญญาคือกรชวิล ไม่พอยังได้เงินหนึ่งล้านบาทจากปนัดดา อีกคนที่ให้คือกรชีวิน ลูกชายคนเล็กปนัดดา เขาซื้อกระเป๋าแบรนด์หรูให้หนึ่งชุด
ต่างกับณศรินทร์ลิบลับ หล่อนไม่เคยได้รับของกำนัลจากใครทั้งสิ้น ความรัก ความเอาใจใส่ดูแล ความเมตตาไม่เคยได้รับเช่นกัน บุญเท่าไหร่ที่ปนัดดาส่งเสียให้ร่ำเรียนหนังสือ และให้อาศัยอยู่ที่นี่ ด้วยเหตุผลเดียวคือ อรัญญาขอร้องไว้ ไม่เช่นนั้นหล่อนคงไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้
วันนี้อรัญญากลับมาไร่ชวนชมในรอบหกเดือน ห้องนอนของหล่อนถูกปรับเปลี่ยนใหม่หลายอย่าง เตียงนอน ที่นอน หมอน ผ้าปูที่นอน ทีวี แอร์ แม้กระทั่งผ้าม่านก็ถูกเปลี่ยน ณศรินทร์เป็นคนดูแลเรื่องเครื่องนอน ที่เปลี่ยนตามใจคนสั่ง ทำไปสะท้อนใจไปว่า ห้องนอนห้องนี้ต่างกับห้องนอนของตนราวฟ้าแลเหว
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ณศรินทร์อิจฉาอรัญญา ที่ได้ทุกอย่างมากกว่าตน หล่อนถือว่า เป็นการชดเชยความผิดของพเยาว์ มารดาตนที่ทำให้ครอบครัวน้องสาวร้าวฉาน จนถึงขั้นแตกแยก โดยไม่คำนึงถึงจิตใจตัวเองว่า เจ็บร้าวทรวงในมากแค่ไหน ในความเศร้า เหงาและทุกข์ กลับมีความหวังเล็กๆ เท่าเม็ดทรายว่า คนในบ้านหลังนี้จะหันมองตนบ้าง แค่เพียงเสี้ยวหนึ่งก็ยังดี
ก่อนไปเอาดอกคาร์เนชั่น ณศรินทร์ไปยังสถานที่แห่งหนึ่งก่อน ที่นั่นคือ ต้นราชาวดีที่หล่อนปลูกไว้เมื่อห้าปีก่อน เป็นดอกไม้ที่หล่อนชอบมากที่สุด มันออกดอกให้ณศรินทร์ชื่นชมเสมอ แล้วทุกครั้งที่มันออกดอก หล่อนจะมาเก็บดอกไม้ไปไว้ในห้อง นอกจากดอกไม้มีรูปทรงสวย กลิ่นหอมยังโดดเด่น หอมมากและหอมนาน เป็นความหอมอันเย้ายวน นำไปวางไว้ตรงชั้นไม้ข้างที่นอน กลิ่นหอมจะคลุ้งไปทั่วห้อง สูดดมแล้วชื่นใจ
จุดที่ณศรินทร์ปลูกต้นราชาวดีที่ชื่นชอบ อยู่ด้านริมซ้ายมือสุดของสวนดอกไม้ ที่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมาตรงจุดนี้สักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะถ่ายรูปกันกลางสวนที่มีจุดให้ถ่ายรูป ใกล้กันมีลำธารสายเล็ก ด้านหลังจะเป็นวิวภูเขา ลมพัดโชยเอื่อย หอบความเย็นของลมหนาวเข้าปะทะกาย
วันนี้ณศรินทร์ตั้งใจตัดดอกไม้ไปไว้ในห้อง แต่เมื่อเดินมาถึงต้นราชาวดี หล่อนยิ้มเมื่อเห็นมันออกดอกบานสะพรั่ง ส่งกลิ่นหอมมาแต่ไกล ณศรินทร์ยืนสูดดมความหอมเข้าไปเต็มปอด มีความสุขใจอย่างบอกไม่ถูกกับการมายืนอยู่ตรงนี้ ชวนให้รู้สึกว่า ตนอยู่กับตัวเอง อยู่กับต้นไม้ ใบหญ้าที่ไม่มีพิษมีภัย ไม่ทำให้หล่อนเจ็บปวดรวดร้าวจิตใจ
ขณะณศรินทร์กำลังเก็บดอกไม้ บุรุษร่างสูงใหญ่คล้องกล้องถ่ายรูปเดินเข้ามาใกล้หล่อน ยกกล้องถ่ายรูปขึ้นมาถ่ายภาพสาวสวยชุดเดรสกระโปรงยาวเลยเข่ามาเล็กน้อย ไว้หลายภาพ โดยที่ณศรินทร์ไม่รู้ตัว
“นางแบบคนนี้สวยจัง”
เสียงดังอยู่ใกล้ๆ ทำให้ณศรินทร์หันมองต้นเสียง หล่อนคลี่ยิ้มกว้าง เมื่อรู้ว่า เจ้าของเสียงคือใคร
“พี่เอ็ม” หล่อนทักทายตามประสาคนคุ้นเคย ก้าวเดินไปหา “กลับมาเมื่อไหร่คะ”
“เมื่อเช้านี้ครับ” พงษ์พัฒนาตอบ “วันนี้เอยสวยมากเลย พี่แอบถ่ายไว้ตั้งหลายรูป”
เป็นคำชมที่เรียกความเขินให้คนฟังมาก เพราะน้อยครั้งหล่อนจะได้ยินประโยคนุ่มละมุนหัวใจ