ตอนที่ 10 เหมือนกันทั้งพ่อทั้งลูก(ต่อ)
“ไปค่ะไป หนูอยากไปเที่ยวไร่”
จันทร์เจ้าปรบมือฉีกยิ้มกว้างให้เขาอย่างดีใจจนพิมพ์ดาวปฏิเสธไม่ออก ในเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ เธอก็ต้องหนักแน่นและต้องไม่เผยพิรุธให้เขารู้
“ถ้างั้นก็ได้ค่ะ แต่พี่จะจัดวันไหนคะ ดาวจะได้เตรียมตัวถูก”
“วันที่ 5 เดือนหน้า เดี๋ยวใกล้ๆ วัน พี่จะบอกอีกที แต่ดาวไม่ได้ทำคนเดียวหรอกนะ เดี๋ยวพี่จะให้แม่บ้านมาช่วยด้วย”
“ขอบคุณค่ะ” พิมพ์ดาวยิ้มน้อยๆ ให้เขา แต่ใจคนมองกลับเต้นตึกตัก นานแค่ไหนแล้วนะที่ใจเขาไม่ได้เต้นแรงแบบนี้
วันรุ่งขึ้น
พิมพ์ดาวก็ไปทำงานให้เขาตามปกติ แต่แปลกที่วันนี้กลับเจอเขานอนซบอยู่บนโซฟา เธอยืนเก้ๆ กังๆ ไม่รู้ว่าจะเข้าไปถามเขาดีไหม แต่เขาก็ดูเหมือนจะหลับลึก เธอจึงเลือกที่จะเดินเลี่ยงเขาเข้าไปทำความสะอาดในห้องนอนเขาก่อน
“ดาวช่วยไปซื้อยาแก้ปวดหัวให้พี่หน่อยสิ” เขาที่ดูเหมือนจะหลับกลับชะโงกหน้าขึ้นมาพูดกับเธอด้วยเสียงแหบแห้ง
“เอ่อ ค่ะ..พี่จะเอาอะไรอีกไหมคะ” หน้าซีดๆ ของเขาทำให้เธออดที่จะห่วงเขาไม่ได้
“พี่ขอแค่ยาก็พอ” เขาฟุบหน้าลงบนโซฟาอีกครั้ง เธอจึงรีบออกไปซื้อยา ดูแล้วเขาคงจะยังไม่ได้กินอะไร เธอจึงซื้อของมาทำอาหารง่ายๆ ให้เขาทานก่อนกินยา
“พี่ตะวันลุกมาทานข้าวต้มร้อนๆ ก่อนทานยานะคะ”
กลิ่นหอมๆ ของอาหารกับเสียงหวานๆ ของเธอปลุกเขาให้ลืมตาตื่นอีกครั้ง
“แต่พี่ยังไม่หิว ขอแค่ยาแก้ปวดก็พอ” ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาแล้วที่เขาปวดหัวจนแทบจะระเบิด
“ทานข้าวก่อนค่ะ เดี๋ยวดาวเอายาให้”
พิมพ์ดาวถือถ้วยข้าวต้มมาวางไว้ตรงหน้าเขา หนึ่งตะวันมองถ้วยข้าวต้มกับหน้าของพิมพ์ดาวแล้วก็ปฏิเสธไม่ออก ถึงจะไม่หิวแต่ก็เกรงใจคนทำ เขาตักข้าวต้มเข้าปากสองสามคำพอเป็นพิธี
“พี่อิ่มแล้วล่ะครับ”เขาวางช้อนและเอ่ยบอกเธอ
“ทานเพิ่มอีกหน่อยนะคะ จะได้หายเร็วๆ”
เห็นเขาไม่สบายแบบนี้เธอก็อดที่จะห่วงเขาไม่ได้ แล้วยิ่งหากเขาไม่ยอมกินอะไรเลยแล้วจะหายได้ยังไง และหากเขายังไม่หาย เธอก็คงไม่สบายใจที่ต้องทิ้งเขาไว้ตามลำพังแบบนี้
“พี่ปวดหัว” เขามองเธอหน้าตางอง้ำ
หน้าตาแบบนี้ของเขาเหมือนจันทร์เจ้าตอนที่ไม่อยากจะทานข้าวหรือเวลาไม่ได้ดั่งใจยังไงยังงั้น หากจันทร์เจ้าเป็นเด็ก หนึ่งตะวันก็คงจะเป็นเด็กโค่งดีๆ นี่เอง
“เฮ้อ... มาค่ะดาวป้อน” พิมพ์ดาวนั่งลงเป่าข้าวต้มให้เขาเหมือนกับที่เคยทำให้จันทร์เจ้า
ลูกเป็นยังไงพ่อก็ต้องเป็นยังงั้นสินะ เอาใจยากเหมือนกันทั้งคู่!
หนึ่งตะวันนั่งมองเธอเป่าข้าวให้เขาเหมือนเด็กก็อดที่จะแอบขำไม่ได้ตอนนี้เธอคงลืมไปแล้วล่ะมั้งว่าเขาเป็นผู้ชาย ถึงได้กล้ามานั่งใกล้แบบนี้
“อ้าา” เธอยื่นช้อนมาจ่อปากเขา พร้อมกับบอกให้เขาอ้าปากเหมือนเด็กๆ แต่เขาก็อ้าปากตามอย่างว่าง่าย เวลาป่วยมีคนดูแลแบบนี้ก็ทำให้รู้สึกดีไม่น้อย
“เห็นไหมคะ แป๊บเดียวหมดถ้วยเลย เก่งมากเลยค่ะ”
เธอยิ้มกว้างพร้อมกับชมเขาเหมือนเด็ก
นี่เธอคงเอาวิธีที่ใช้กับจันทร์เจ้ามาใช้กับเขาสินะ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันได้ผลจริงๆ ไหนๆ ก็ถูกมองว่าเป็นเด็ก เขาก็จะสนองตามที่เธอคิด
“ยาค่ะ” เธอยื่นยายื่นน้ำให้เขา
“พี่ไม่ชอบกินยา” หนึ่งตะวันเบือนหน้าหนีเหมือนเด็ก
“เอ๊ะ พี่นี่ยังไง เมื่อกี้ยังถามหายาอยู่เลย” เธออดที่จะว่าเขาไม่ได้ที่ชอบทำตัวเหมือนเด็ก
“แต่พี่ไม่ชอบกินยา” อยากจะรู้จริงๆ ว่าเธอจะใช้วิธีไหนในการป้อนยาเขา
“กินยาก่อนนะคะ จะได้หายไวๆ เดี๋ยวดาวทำขนมอร่อยๆ มาให้ทานช่วยล้างปากนะคะ” พิมพ์ดาวบอกเขาเสียงอ่อนเสียงหวาน
หนึ่งตะวันกลั้นขำจนตัวงอ ไม่คิดว่าเธอจะเอาขนมมาล่อเขา
“อ๊ะ.. กินก็กิน”
“เก่งมากค่ะ” และก็เป็นอีกครั้งที่เธอชมเขาเหมือนเด็กหลังจากที่เขากินยาเสร็จ
“นอนพักนะคะ จะได้หายไวๆ”
หนึ่งตะวันนอนมองเธอเก็บถ้วยชามอยู่เงียบๆ เธอเป็นแม่ที่ดีและคงจะเป็นภรรยาที่ดีด้วยเช่นกัน แต่เท่าที่พีทเล่าให้ฟัง เธอไม่เคยเปิดใจให้ใครเลย ไม่ว่าผู้ชายพวกนั้นพร้อมที่จะดูแลเธอกับลูกแค่ไหน เธอสวย เธอสมบูรณ์แบบในสายตาของเขา แต่ผู้ชายแบบไหนกันล่ะ ที่จะทำให้กำแพงน้ำแข็งที่เกาะกุมหัวใจเธอละลายลงได้ ยอมรับว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ใจแข็งจริงๆ ที่ก้าวผ่านทุกอย่างมาได้ตามลำพัง