5
“เจ้าคือฟ่านหรันซีสินะ... เฮ้อ เป็นถึงลูกสาวท่านแม่ทัพใหญ่ เหตุใดถึงอ่อนแอ ถูกผู้อื่นทำร้ายได้”
ฟ่านหรันซีถลึงตาใส่เขา ใครทำนางเจ็บก่อนหน้านี้ ดูเหมือนน้อยไปเมื่อเทียบกับหลี่สิงหยาง บุรุษผู้นี้ต้องชดใช้สิ่งที่สูญเสียไปแก่นาง
“คุณชายเจ้าคะ บ่าวขอพาคุณหนูกลับจวนตอนนี้เลย”
หวานหว่านที่ได้รับการคลายจุดรีบยอบตัว และเตรียมพร้อมพาเจ้านายตนไปจากสถานการณ์ชวนอึดอัด
“บังอาจ เจ้ารู้หรือไม่ว่าเบื้องหน้าเจ้าคือผู้ใด” เสียงตวาดนั้นดังมาจากผู้ติดตามหลี่สิงหยาง และเขาหันไปมองแวบหนึ่ง ก่อนโบกมือไล่ไปให้พ้นๆ หน้า
หวานหว่านยิ่งเห็น และได้ยินเช่นนั้น นางจึงไม่รอช้า ใช้ตัวกันฟ่านหรันซีแล้วพยายามพาเดินเลี่ยงหลบ แต่คนตัวสูงสืบเท้าติดตาม ก่อนใช้เท้าขัดขาสาวใช้ จนนางล้มคว่ำ
“ข้ายังพูดไม่จบ อย่าคิดพาผู้อื่นหนี”
ฟ่านหรันซีกำหมัดแน่น โกรธที่เขากล้าทำร้ายคนของตน นางกวาดตามองหาอาวุธที่พอจะใช้ต่อกรกับปีศาจผู้นี้ ทว่าสุดท้ายกับไม่มีสิ่งใดเลย
“ดูเหมือนคุณหนูสามฟ่าน...มีความหลังกับข้า และนั่นยิ่งทำให้รู้ว่า ระหว่างข้ากับเจ้า ต้องมีเวลาปรึกษาเรื่องอื่นๆ กันอย่างลับๆ เพียงลำพังสองคน”
ฟ่านหรันซีส่ายหน้าปฏิเสธ จากนั้นนางก็จ้องเขาราวกับอยากรู้ว่าอีกฝ่ายคือบุรุษบัดซบที่ภายหน้าจะกลายเป็นราชันย์อำมหิตหรือไม่
“บอกตามตรง ข้าไม่ติดใจที่ในยามนี้หากเจ้ามีสมองเล็กเท่าเม็ดถั่ว ขอเพียงปากเจ้า เต้าหู้สองก้อน และส่วนหวานฉ่ำ ตอบรับสัมผัสแข็งแกร่งของข้าได้ สตรีตระกูลฟ่านย่อมให้กำเนิดทายาทที่ดี”
หลี่สิงหยางทำให้ฟ่านหรันซีนิ่งค้าง เขากล้าพูดเรื่องต่ำช้าเช่นนี้ได้อย่างไร
หญิงสาวสูดลมหายใจลึก และกล่าวช้าชัดทีละคำ
“ทะ ท่าน ไม่คู่ควรกับซีซี”
******************
จวนแม่ทัพฟ่าน
เมื่อกลับมาที่เรือนของตน ฟ่านหรันซีเอาแต่เงียบ หากนับว่าดีที่นางกินข้าว และของว่างรวมถึงยาด้วย
“เสี่ยวซี... คนผู้นั้นทำให้เจ้าหมางใจหรือไม่” ฟ่านอันเฟิงห่วงใยน้องสาว ยิ่งนางกลายเป็นสตรีที่สูญเสียความทรงจำ เขาก็ดูแลเป็นพิเศษ กระนั้นภาระชายหนุ่มมีมากเหลือเกิน ทั้งยามนี้ดินแดนชิงซานยังถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษ เนื่องจากคนจากแคว้นต้าอู่จะสร้างคุกหลวงแห่งใหม่ไว้คุมขังนักโทษทางการเมือง ดังนั้นต้องมีการย้ายเจ้าหน้าที่บางส่วนมาประจำที่นี่ รวมถึงการให้ขุนนางในท้องที่สับเปลี่ยนไปยังเมืองหลวง เรื่องนี้สร้างความไม่สบายใจแก่ฟ่านอันเฟิง เพราะมีรายชื่อของเขาอยู่ในนั้น
“ใครหรือ เฟิงเกอ” น้องสาวถาม สีหน้านางสดใส แต่ดวงตาดูเหนื่อยล้าราวกับพบเรื่องราวมากมายก่อนหน้านี้
“เขา...”
ฟ่านอันเฟิงถามแล้ว ก็ลังเลที่จะเอ่ยถึงผู้ที่มาจากแคว้นต้าอู่
“ปีศาจจากต้าอู่ ใช่หรือไม่”
พอนางเอ่ยถึงจุดนี้ ฟ่านอันเฟิงก็หัวเราะร่วน ใช่หลี่สิงหยางสมควรเป็นเป็นปีศาจ
“ขะ ข้าวาดยันต์คุ้ม ภะ ภัยแล้ว ขะ เขาไม่มารังแกขะ ข้าอีก”
ฟ่านหรันซีว่าแล้วจึงอวดรูปตัวอักษรโบราณของตนกับพี่ชาย นางเขียนมันลงกระดาษสีแดงแล้วพับเก็บไว้ในถุงหอมที่ห้อยไว้ข้างเอว
“ซีซี มะ ไม่ กลัว”
นางยืนยันอย่างนั้น พี่ชายก็โล่งใจขึ้นมาได้บ้าง
“หากเขาไม่คิดร้ายต่อเจ้าก็คงดี ทว่าองค์ชายห้าผู้นี้ ผีเห็นยังขยาด เทพเซียนก็ไม่คิดเข้าใกล้ ข้าไม่เข้าใจว่าเหตุใด ฮ่องเต้ถึงส่งเข้ามาคุมการก่อสร้างคุกแห่งใหม่ รวมถึงดูแลเรื่องคดีของขุนนางต้องโทษ ดูเหมือนผืนดินชิงซาน ต้องพบเรื่องเลวร้ายไม่เว้นวันแน่”
พี่ชายอฺธิบายเช่นนี้ ฟ่านหรันซีก็ประติดประต่อเรื่องต่างๆ เข้าได้ด้วยกัน นี่คือช่วงเวลาก่อนที่นางจะถูกจับขึ้นเกี้ยวไปเข้าหอกับหลี่สิงหยาง ผิดแต่เขาไม่ได้มาคุมการก่อสร้างใดๆ ที่ดินแดนชิงซาน และคนที่ทำหน้าที่นี้แต่แรกคือองค์ชายคนอื่น พร้อมขุนนางกังฉิน
“ซีซี จะช่วยเฟิงเกอ” นางกล่าวเช่นนั้น ด้วยล่วงรู้สิ่งที่จะเกิดขึ้นในภายหน้า ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หญิงสาวต้องเดินทางออกจากดินแดนชิงซาน เพื่อไปเข้าหอกับหลี่สิงหยางนั่นเอง