บท
ตั้งค่า

อุ้มท้อง ที่ 2-2 กอดศพมารดาร่ำไห้

“แม่!”

เด็กหญิงพังประตูห้องขังออกมา มือเล็กๆ อาบไปด้วยเลือดสีแดงชาดเป็นแผลเหวอะหวะ ดวงตากลมโตแดงก่ำปูดโปนจากการร้องไห้อย่างหนัก เด็กหญิงกระโดดลงไปในหลุมศพแล้วกอดรัดร่างไร้ลมหายใจของมารดาเอาไว้แน่น

‘แม่จ๋าอย่าทิ้งข้า! อย่าทิ้งข้าไป! ฮือๆ’

เสียงหวีดร้องโหยหวนราวกับลูกสัตว์ป่าที่ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักสร้างความสะเทือนใจให้แก่เหล่าสาวใช้ตระกูลอวิ๋นไม่น้อย ทุกคนเบือนหน้าหนี ยกชายแขนเสื้อขึ้นเช็ดหยาดน้ำตา รู้สึกเจ็บจุกตื้อไปทั้งลำคอ

เกลียดชังความอยุติธรรมที่จงลู่เสียนได้รับมาตลอดชีวิต สาวใช้ตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่ถูกข่มขืนคร่าเกียรติและศักดิ์ศรีไปจนสูญสิ้น เสียสามีที่รักมากไปด้วยอุบัติเหตุที่ใครๆ ก็รู้ว่าแท้จริงแล้วเป็นฝีมือของใคร สาวใช้ที่ยอมถอยมาโดยตลอดไม่ว่าจะถูกกระทำย่ำยีสักเพียงใดเพื่อปกป้องลูกน้อยในครรภ์

ลู่เสียนคือสตรีที่มีความอดทนอย่างถึงที่สุด แล้วนี่นะหรือคือสิ่งที่คนดีๆ คนหนึ่งได้รับ

ดวงวิญญาณของลู่เสียนจะสงบสุขได้อย่างไรในเมื่อบุตรสาวที่รักยังเด็กเกินไปที่จะมีชีวิตรอดในจวนสกุลอวิ๋นเช่นนี้ ใครเล่าจะกางมือกางแขนปกป้องเด็กหญิงตัวน้อยให้พ้นภัยอันตราย นับจากนี้เส้นทางชีวิตของเด็กหญิงคงไม่ต่างจากตกนรกทั้งที่ยังมีลมหายใจ

หลังจากวันนั้น ‘ช่างเป่ย’ นอนซมด้วยพิษไข้กายและไข้ใจ ป่วยผ่ายผอมจนหนังหุ้มกระดูกไม่อาจลุกเดินได้ถึงสามเดือน จนประมุขอวิ๋นส่งหมอมาช่วยรักษา

นับว่ายังมีความเป็นบิดา เพราะใครต่างก็รู้ว่าช่างเป่ยหาใช่บุตรของสามีจงลู่เสียนที่ตายไป แต่ช่างเป่ยคือบุตรของประมุขอวิ๋นซือกู่ ด้วยมีลักษณะดวงตาและริมฝีปากที่เหมือนกับฮูหยินผู้เฒ่าอวิ๋นผู้ล่วงลับไม่ผิดเพี้ยน

วันคืนผันผ่านเด็กหญิงเติบโตขึ้นในฐานะ ‘สาวใช้’ และแทบไม่เคยมีใครเห็นหยาดน้ำตาของเด็กคนนี้อีกเลย ไม่ว่าจะถูกเหล่าคุณหนูคุณชายกลั่นแกล้งรังแกเพียงใดช่างเป่ยก็ไม่เคยร้องไห้ให้ใครเห็น

เหล่าคนครัว คนสวน และสาวใช้หลังจวนต่างรักและเอ็นดูช่างเป่ยเป็นอย่างมาก เด็กหญิงมักจะยิ้มแย้มและพูดคุยสนุกสนานเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเพื่อให้คนรอบข้างสบายใจ กระนั้นทุกคนก็รู้ดีว่า...

คนที่หัวเราะเสียงดังนั้นมักจะร้องไห้เงียบๆ เสมอ

“แม่...ข้าคิดถึงท่าน”

เจ้าสาวตัวน้อยนอนกระสับกระส่ายจมลงไปในห้วงอดีตแห่งฝัน หยาดน้ำตามากมายหลั่งรินออกมาอาบสองแก้ม นางกำลังฝัน...

ฝันว่ามารดามายืนส่งยิ้มกว้าง...

‘เป่ยเอ๋อร์...แม่ขอให้ลูกมีความสุขในวันแต่งงาน เวลานี้เจ้าได้ชื่อว่าเป็นภรรยาแล้ว ดังนั้นห้ามทำตัวเป็นเด็กเด็ดขาดเข้าใจหรือไม่คนเก่งของแม่’

น้ำเสียงหวานราวกับเสียงระฆังแก้วดังก้องกังวานไปทั้งหัวใจ หญิงสาวยื่นมือไขว่คว้าหมายกอดมารดา ทว่ามารดากลับถอยหลังห่างไกลออกไป

ห่างไกลออกไป...

“แม่! แม่! ได้โปรดอย่าทิ้งข้าให้อยู่คนเดียว ได้โปรดพาข้าไปด้วยเถอะนะเจ้าคะ ได้โปรด...”

แม่ทัพหม่าที่ยังคงนอนตาค้างไม่อาจข่มตาหลับ เขาขยับกายเพียงน้อยเพื่อนอนตะแคง มองคนข้างกายที่กำลังละเมอร้องไห้ด้วยความงุนงง ใบหน้าของนางเศร้าสร้อยจนเขารับรู้ได้ถึงความเจ็บปวด นางกระสับกระส่ายสะบัดกายร้อนหนาวอย่างไม่สบายตัว

“แม่นางๆ”

เขาเอ่ยเรียกหมายจะปลุกนางให้หลุดออกจากฝันร้ายที่ทำให้นางต้องร่ำไห้ ทว่าทันทีที่เขายื่นมือไปเขย่าที่ไหล่ นางกลับคว้ามือของเขาเอาไว้แน่น

“แม่จ๋า... ข้าคิดถึงแม่เหลือเกิน”

คนตัวเล็กตัวสั่นน้อยๆ น้ำเสียงเต็มไปด้วยแรงสะอื้นฮักก่อนจะโผเข้ากอดเขาเอาไว้แนบแน่นด้วยเข้าใจว่าเขาเป็นมารดาของนาง

ที่อกเสื้อ...

เขารับรู้ได้ถึงหยาดน้ำตามากมายที่ไหลรินรดลงมาจนเปียกชุ่ม ไหล่เล็กๆ ของนางสั่นเทิ้มสะอื้นฮัก

“ในที่สุดข้าก็ได้กอดแม่แล้ว แม่อย่าหนีข้าไปไหนอีกนะเจ้าคะ”

หม่าหยางเหวินได้แต่นอนตัวแข็งไม่กล้าขยับเขยื้อนกาย ยิ่งได้เห็นว่าบนใบหน้าเปื้อนหยาดน้ำตากำลังถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มยิ่งทำให้เขาไม่กล้าหักหาญปลุกนางให้ตื่นจากความฝัน

ฝันร้ายที่เวลานี้ได้กลายเป็นฝันดีเสียแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel