บทที่ 5
ซูมี่ที่เห็นบิดาเดินเข้าเรือนมาอย่างเร่งรีบนางก็เตรียมผ้าให้เขาได้เช็ดหน้าและรินน้ำไว้ให้เขาดื่มอย่างเอาใจ เพียงแค่ดูจากหน้านางก็รู้แล้วว่าบิดาของนางคงไปพบเรื่องใดมาแน่
"ท่านพ่อดื่มน้ำก่อนเจ้าค่ะ" ซูมี่ส่งถ้วยน้ำให้บิดา เมื่อเห็นบิดามองมาที่นางอย่างเห็นใจ
"มี่เออร์ เรื่องที่เจ้าพูดเป็นเรื่องจริง" เมื่อนางจางกุ้ยเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะแล้วต้าหลางจึงเล่าเรื่องที่ตนไปพบเห็นมา
นางจางกุ้ยยกมือขึ้นตบอก เพราะนึกไม่ถึงว่าชิงฉางที่เป็นถึงบัณฑิตมีความรู้จะกล้าทำเรื่องเช่นนี้และเขายังมีสัญญาหมั้นหมายกับบุตรสาวของนางอยู่ด้วย
กลายเป็นซูมี่ที่นางเหมือนไม่เดือดร้อนอันใดเหมือนเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวอันใดกับนาง
"แล้วจะทำเช่นใดดี" นางจางกุ้ยเอ่ยถามอย่างกังวล
"ไม่เห็นจะต้องกังวลเรื่องอันใดเลยเจ้าค่ะ ก็เพียงแค่ถอนหมั้นเท่านั้น"
"หากอาฉางไม่ยินยอมเล่า" ต้าหลางเอ่ยขึ้นอย่างกังวล
"เหอะ เขาคงอยากจะถอนหมั้นใจแทบขาด" ซูมี่ร้องเหอะออกมาเสียงดัง มีหรือคนอย่างชิงฉางมิอยากถอนหมั้น คงอยากหลุดพ้นจากนางเพื่อไปหมั้นหมายกับบุตรสาวของคหบดีเฉียวใจแทบขาด
"เช่นนั้นก็เรียกอาฉางมาพูดคุยเสียก่อนเถิด" ต้าหลางคิดไว้แล้วว่าวันนี้เขาจะต้องพูดคุยกับต้าหลางให้รู้เรื่อง
เมื่อถึงเวลาเกือบค่ำ ต้าหลางเห็นเรือนของชิงฉางจุดไฟ เขาจึงได้เดินไปหาชิงฉางที่เรือนเพื่อพูดคุยกับเขา
"ท่านลุงมีอันใดขอรับ" ชิงฉางมองต้าหลางอย่างแปลกใจ แต่เมื่อนึกว่าคงจะมาพบเขาเพื่อให้ไปง้อขอคืนดีดับซูมี่เขาก็อดที่จะยิ้มมุมปากไม่ได้
"อาฉาง ลุงมาพบเจ้าเพื่อพูดเรื่องหมั้นหมาย" ชิงฉางก้มหน้าลงเพื่อบดบังมิให้ต้าหลางเห็นสายตาของเขา
"ท่านลุง ตอนนี้ข้ายังไม่พร้อมขอรับ ข้า" ต้าหลางโบกมือเพื่อให้ชิงฉางหยุดพูดเสียก่อน
"ข้ามิได้มาเร่งรัดเจ้า ข้ามาพูดเรื่องถอนหมั้น" ชิงฉางเบิกตากว้างอย่างตกใจ เพราะไม่นึกว่าตระกูลซูจะกล้าถอนหมั้นกับเขาที่สอบผ่านซิ่วไฉมาแล้ว
"เพราะเหตุใดขอรับ" ชิงฉางเอ่ยถามเพราะไม่เข้าใจ
"เรื่องของคุณหนูเฉียวบุตรสาวคหบดีเฉียว พวกข้ารู้เรื่องแล้ว" ชิงฉางเหมือนโดนฟ้าผ่า เขายืนนิ่งไปเมื่อถูกผู้อื่นรู้เรื่องเข้า
"ทะ ท่านลุง หมายความว่าอย่างไรขอรับ" ต้าหลางถอนหายใจก่อนจะมองชิงฉางอย่างเสียความรู้สึก
เพราะเขานึกมาเสมอว่าชิงฉางก็เหมือนบุตรชายของเขาคนหนึ่ง หากไม่รักไม่ชอบในตัวบุตรสาวของเขาก็ควรจะพูดกันตามตรงมิใช่ทำเช่นนี้
"ที่เจ้าไปพบนางวันนี้ข้าเห็นหมดแล้ว" ชิงฉางพูดอะไรไม่ออก เขาได้แต่ก้มหน้ายอมรับ เมื่อต้าหลางบอกเรื่องที่ตนสมควรพูดไปหมดแล้วก็กลับเรือนของตนไป เพื่อเล่าเรื่องทั้งหมดให้ภรรยาและบุตรสาวฟัง
เรื่องที่เกิดขึ้นต้าหลางเพียงบอกให้ชิงฉางส่งหนังสือหมั้นหมายและเทียบชะตาของซูมี่คืนมา แต่ผ่านมาสองวันชิงฉางก็ยังมิได้นำมาคืน
ซูมี่นางยังใช้ชีวิตปกติ ยังนำผ้าไปซักที่ริมแม่น้ำ และยังไปช่วยบิดามารดาทำนาที่ท้ายหมู่บ้าน แต่วันนี้นางเจอสตรีในหมู่บ้านมองมาที่นางพร้อมพูดกระซิบกระซาบกัน
"เสี่ยวมี่ เจ้ากับบุตรชายท่านป้าฝูลอบคบกันจริงหรือไม่" ซูมี่หันไปมองสตรีที่พูดกับนางอย่างแปลกใจ
"เจ้าพูดเรื่องอันใด ข้าไม่เห็นจะรู้เรื่อง" ซูมี่ขมวดคิ้วตอบกลับ
"เหอะ สตรีร้ายกาจเช่นเจ้าหากพึงใจกับอาเต๋อเจ้าก็ควรจะถอนหมั้นกับพี่ฉางเสียก่อน" ซูมี่มองไปที่เสี่ยวเผ่ยอย่างงงงวย
"เจ้าพูดให้ข้าฟังอีกรอบ" ซูมี่ลุกขึ้นยืนแล้วเท้าสะเอวอย่างมีอารมณ์
เสี่ยวเผ่ยจึงเล่าให้ซูมี่ฟัง เมื่อวานเสี่ยวเจียเห็นซูมี่อยู่กับอาเต๋อที่ชายป่าท้ายหมู่บ้านเหมือนทั้งคู่ลอบพบกัน ซูมี่ที่ได้ยินเช่นนั้นนางก็โมโหจนเกือบขาดสติ เพราะนางอยู่ที่เรือนกับมารดาอยู่ตลอดจะไปอยู่ที่ชายป่าท้ายหมู่บ้านได้อย่างไร
"เช่นนั้นไปกับข้า" ซูมี่ฉุดกระชากลากเสี่ยวเผ่ยเดินไปที่เรือนของเสี่ยเจียท่ามกลางสายตาของชาวบ้านและยังมีคนติดตามนางเพื่อไปดูเหตุการณ์อีกมากมาย
"เสี่ยวเจีย เจ้าเปิดประตูเรือนประเดี๋ยวนี้"ซูมี่ตบที่ประตูเรือนอย่างแรง จนคนที่อยู่ในเรือนต้องรีบออกมาเปิดประตู
"เจ้าพูดว่าข้าลอบพบกับอาเต๋อ ใช่หรือไม่" ซูมี่ผลักเสี่ยวเผ่ยไปหาเสี่ยวเจียก่อนที่จะชี้หาถามนาง
"ข้าเห็นด้านหลัง มิใช่เจ้าหรือ" เสี่ยวเจียก้มหน้าลงเอ่ยเสียงเบา
"เหอะ เช่นนั้นเจ้ารอข้าประเดี๋ยว" ซูมี่รีบเดินไปที่เรือนของป้าฝู แล้วตามอาเต๋อให้มาที่เรือนของเสี่ยเจียอย่างรวดเร็ว
ระหว่างทางนางเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้อาเต๋อฟัง พร้อมทั้งถามว่าหญิงสาวที่เขานัดพบเป็นใคร เมื่อรู้ตัวว่าเป็นใคร ซูมี่ก็แทบอยากจะสบถออกมา
"อาเต๋อเจ้าพูดออกมา ว่าสตรีที่เจ้านัดพบเป็นใคร" อาเต๋อบอกซูมี่อย่างหวาดๆ เพราะตอนที่เดินมาที่เรือนของเสี่ยเจียเขาก็โดนนางทุบหลังมาหลายที่แล้ว
เพราะสตรีที่เขานัดพบเป็นแม่หม้ายที่สามีเพิ่งตายลงเมื่อเดือนที่แล้ว รูปร่างก็ไม่ได้เหมือนกับซูมี่เลยแม้แต่น้อย เมื่อมีการยืนยันเกิดขึ้นเขาก็ไม่อยากจะพูดเรื่องนี้ให้ชาวบ้านได้รับรู้ และหากมารดารู้นางต้องทุบตีเขาเกือบตายแน่
อาเต๋อที่โดนสายตาของซูมี่จ้องมองอย่างดุดันก็พูดออกมาด้วยเสียงอันเบา เมื่อเช้าบ้านได้ยินชื่อของแม่หม้ายต่างก็ยกมือขึ้นตบอกอย่างตกใจ เพราะสามีของนางเพิ่งจะเสีย นางก็แอบลอบนัดพบบุรุษเสียแล้ว