ตอนที่5(ข้อตกลง)
บ้านส่วนตัวของเจ้าสัว
10:00น.
เวียงพิงค์
“นี่เธอ ท่านเจ้าสัวเรียกเธอน่ะ!”ฉันที่กำลังนั่งพับผ้าอยู่ก็ต้องเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าพี่สาวคนที่ทำงานอยู่ในบ้านหลังใหญ่นี้ ที่จริงเธอให้ฉันมาช่วยเธอพับผ้าที่เอาไว้เช็ดทำความสะอาดบ้านหลังนี้น่ะ
“อ้อค่ะ เดี๋ยวหนูผิงจะไปเดี๋ยวนี้คะ^_^”ฉันเอ่ยบอกเธอและเริ่มเก็บผ้าลงใส่ลังพลาสติกและเริ่มลุกขึ้นยืนจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยและค่อยๆเดินออกไปจากห้องเก็บของของที่นี้ มุ่งหน้าไปยังห้องรับแขกที่ฉันคิดว่าท่านเจ้าสัวน่าจะอยู่ที่นั้น บ้านหลังนี้หลังใหญ่มาก มีสองชั้นแหนะ ฉันมาอยู่ที่นี้สองวันแล้วยังเดินไม่ทั่วบริเวณบ้านเลย
“ท่านเจ้าสัวเรียกหนูผิงเหรอคะ? ”ฉันเอ่ยขึ้นพร้อมๆกับที่เห็นว่าท่านเจ้าสัวกำลังก้มหน้าอ่านเอกสารอะไรสักอย่างอยู่ในมือของเขาเขานั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่กลางห้องรับแขก
“ฉันบอกเธอให้เรียกฉันว่ายังไง? ”ดวงตาคมตวัดขึ้นมามองฉันพร้อมๆกับเอ่ยขึ้นด้วยนำ้เสียงเยือกเย็น ฉันรีบลนลานเรียกเขาใหม่
“ป๋าขาเรียกหนูผิงเหรอคะ? ”ฉันเอ่ยขึ้นคำพูดของฉันทำให้ท่านเจ้าสัวอมยิ้มขึ้นมาอย่างพึงพอใจ และเขาก็กระดิกนิ้วชี้เรียกให้ฉันเข้าไปหาเขา ฉันก็พยักหน้าและค่อยๆเดินเข้าไปหาเขา
“หนูอยากเรียกหมอเหรอหนูผิง? ”ทันทีที่ฉันเดินเข้าไปใกล้เขา เขาก็จับเอวฉันคว้าเข้าไปโอบกอดทันที ทำให้ฉันเสียหลักลงไปนั่งแนบชิดกับกายของเขา
“ค่ะ”ฉันไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปสบสายตากับเขา ฉันก้มหน้าลงและเอ่ยตอบเขา ลมหายใจอุ่นๆเป่ารดอยู่ตรงข้างแก้มของฉัน
“ถ้าอยากเรียนหมอและหนูอยากให้ป๋าช่วย หนูต้องทำยังไงหนูผิง”นำ้เสียงเจ้าเล่ห์เอ่ยกระซิบที่ข้างหูฉัน ทำให้ฉันสยิวหดคอแทบไม่ทัน ทำยังไงล่ะ ฉันจะต้องทำยังไงดี
“หนูต้องทำยังไงเหรอคะ? ”ฉันนั่งตัวรีบเอ่ยถามเขาไปด้วยนำ้เสียงสั่นๆเพราะไม่รู้จริงๆว่าฉันจะต้องทำยังไง
“ฟอดดดด ฟอดดดดด”สัมผัสหนักๆกดลงมาบนแก้มฉันสองฟอด ทำให้ฉันเบิกตาโตขึ้นด้วยความตกใจที่เขาหอมแก้มฉัน ใบหน้าฉันร้อนผ่าวขึ้นมาทันที
“เขินอะไรขนาดนั้นหนูผิง มากกว่านี้ป๋าก็เคยทำมาแล้วนะ หนูจำไม่ได้เหรอ? ”ท่านเจ้าสัวขยับใบหน้ามามองฉันที่ก้มหน้าหลบสายตาเขา สายตาแวววาวและโครงหน้าหล่อของเขาทำให้ฉันใจเต้นแรงขึ้นมาทันที
“จำได้ไหม ว่าคืนนั้นหนูยั่วป๋ายังไง? ”ท่านเจ้าสัวขยับหน้าเข้ามาใกล้แนบชิดฉันมากกว่าเดิมและเอ่ยถามฉันขึ้น ฉันก็กระพริบตาปริบๆไม่กล้าตอบเขา ฉันอายหนิอายมากๆเลย ฉันไม่รู้ว่าคนพวกนั้นเอายาอะไรให้ฉันกิน มันร้อนรุ่มในร่างกายฉันไปหมด ฉันทำอะไรก็ไม่รู้ฉันไม่เคยทำแบบนั้นกับตัวเองมาก่อนเลยนะ
“ทำไมไม่ตอบล่ะ หรือว่าหนูผิงไม่อยากเรียนเเล้ว”ท่านเจ้าสัวเอ่ยขึ้นและเขาก็ขยับหน้าเขาออกห่างไป ฉันตกใจรีบหันกลับไปจ้องหน้าเขาทันที
“อยากค่ะ หนูผิงอยากเรียนหมอ”ฉันพูดอย่างรัวเร็ว ท่านเจ้าสัวหัวเราะหึๆอยู่ในลำคอ และยื่นมือมาลูบแก้มฉันอย่างแผ่วเบา
“สาวน้อยของป๋า งั้นหนูก็ต้องทำอะไรให้ป๋าพึงพอใจ ป๋าถึงจะให้หนูเรียนหมอ”ท่านเจ้าสัวเอ่ยขึ้น ฉันดวงตาเบิกโตขึ้นด้วยความดีใจ สายตาของท่านเจ้าสัวมองตำ่ลงไปที่หน้าอกของฉัน
“ลีลาเธอคืนนั้น ยังคงทำให้ฉันติดใจไม่หายเลย วันนี้ฉันมีเวลาแค่สองชั่วโมงในการอยู่ที่นี้ เธอก็ไปคิดหาวิธีที่จะทำให้ฉันยอมให้เธอเรียนหมอก็แล้วกัน....เพราะค่าใช้จ่ายในการเรียนหมอก็ไม่ใช่น้อยๆเลยนะ”
“หนูผิงต้องทำยังไงเหรอคะป๋า ป๋าช่วยบอกหนูผิงหน่อยได้ไหมคะ? ”ฉันพูดขึ้น ฉันไม่รู้จริงๆหนิ ว่าคนอย่างฉันจะไปทำอะไรให้ท่านเจ้าสัวพึงพอใจได้ ท่านเจ้าสัวยักคิ้วให้ฉันข้างหนึ่งและยิ้มมุมปากขึ้นมาเมื่อได้ยินคำถามของฉัน
พรึบ
“ทำแบบที่เราทำกันวันนั้น”ท่านเจ้าสัวพูดขึ้นในขณะที่เขายกร่างของฉันขึ้นมานั่งบนตักเขา ฉันกลัวตกจึงยื่นมือไปกุมชายเสื้อสูทสีดำของเขาไว้ทันที สายตาของฉันเหลือบไปเห็นสัญลักษณ์รูปมังกรที่ถูกปักด้วยด้ายสีแดงที่หน้าอกข้างซ้ายบนเสื้อสูทของท่านเจ้าสัว นี้มันสัญลักษณ์อะไรกันนะ
“มองหน้าป๋าอิหนู”เสียงทุ่มตำ่ของท่านเจ้าสัวทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าเขาอย่างไว
“ป๋าไม่เคยเกิดอารมณ์กับผู้หญิงคนไหน เพราะฉะนั้นป๋าอยากจะทดสอบความสามารของหนูผิง”ท่านเจ้าสัวพูดขึ้นทั้งๆที่ริมฝีปากของเขายังคงคลอเคลียอยู่ตรงริมฝีปากของฉัน
“จุ๊ฟ”ฉันเบิกตาโตขึ้นเมื่อท่านเจ้าสัวกดริมฝีปากของเขามาแนบชิดกับริมฝีปากของฉันอย่างแผ่วเบา ริมฝีปากของเขาช่างนุ่มนิ่มอะไรอย่างนี้นะ
“ป๋าจะไปรอหนูที่ห้องทำงานนะเพราะป๋ามีงานเยอะมาก หนูไปหาป๋าที่นั้นนะ ป๋าให้เวลาหนูผิงสิบนาที เตรียมท่าเด็ดๆไปมัดใจป๋าให้ได้น่ะครับ^_^”ท่านเจ้าสัวอุ้มร่างฉันและเขาก็ลุกขึ้นยืน ฉันรีบโอบแขนกอดคอท่านเจ้าสัวอย่างไวเพราะกลัวตก
“อึบ ลงได้ล่ะครับ อิหนู ทานข้าวเยอะๆมาดามน่ะทำอาหารอร่อย”ท่านเจ้าสัวปล่อยฉันลงบนพื้นให้ฉันยืนเอง
“ค่ะ”ฉันที่ยังตกใจไม่หายที่เขาอุ้มฉันได้อย่างสบายๆ ตัวฉันเบาขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย
“ป๋าคะ!”ฉันที่เพิ่งจะนึกได้ว่าฉันจะถามอะไรเขา ก็เอ่ยเรียกเขาที่กำลังเดินหันหลังจะออกจากห้องนี้ไป
“มีอะไรหนูผิง? ”ท่านเจ้าสัวหันหน้ากลับมาถามฉันอย่างสงสัย
“คือหนูผิงจะถามป๋าว่า พ่อของหนูผิงเป็นยังไงบ้างคะ”ฉันถามเขาไป เพราะตอนนี้ฉันเป็นห่วงพ่อเหลือเกิน ท่านจะได้ทานข้าวรึยัง ท่านจะเป็นห่วงฉันไหม
“พ่อของเธอน่ะเหรอ อืมมมม จะตอบว่าอะไรดีล่ะ”ท่านเจ้าสัวยกมือขึ้นมาลูบปลายคางตัวเองพลางทำหน้านึกคิด ฉันยิ่งร้อนรนเดินเข้าไปหาเขา
“ก็ถ้าหนูผิงทำตัวน่ารัก พูดง่ายๆไม่ดื้อ พ่อของหนูผิงก็จะอยู่สบาย แต่ถ้าหนูผิงดื้อไม่ยอมทำตามที่ป๋าบอกและขัดใจป๋า พ่อของหนูผิงก็จะอยู่ไม่สบาย”ท่านเจ้าสัวตอบฉันกลับมา คำพูดของเขาทำให้ฉันรู้ว่าชีวิตของพ่อขึ้นอยู่ที่ฉันคนนี้ ฉันจะทำหน้าที่ลูกให้ดีที่สุด ฉันจะไม่ดื้อกับท่านเจ้าสัวจะไม่ขัดใจท่าน
“นี่แสดงว่าหนูผิงยังไม่ได้อ่านกระดาษที่ป๋าให้หนูไปงั้นเหรอ? ”จริงสิ ฉันยังไม่ได้อ่านเลย กระดาษแผ่นนั้นยังวางอยู่บนโต๊ะในห้องนอนของฉันอยู่เลย
“ทำหน้าแบบนี้แสดงว่าหนูยังไม่ได้อ่าน”ท่านเจ้าสัวเอ่ยขึ้นด้วยนำ้เสียงดุๆแววตาของเขาแข็งกร้าวขึ้นมาทันที
“ป๋าอย่าทำหน้าแบบนั้นใส่หนูผิงสิคะ หนูผิงกลัว”ฉันเอ่ยขึ้นบีบมือตัวเองแน่น
“ถ้าไม่อยากให้ป๋าทำหน้าแบบนั้นหนูผิงก็ไปอ่านข้อตกลงของเราซะและไปหาป๋าที่ห้องทำงานของป๋าในสิบนาทีต่อจากนี้!”ท่านเจ้าสัวพูดแค่นั้นและเดินหันหลังให้ฉันออกไปทันที ฉันเมื่อมองตามแผ่งหลังของท่านเจ้าสัวที่เดินลับหายขึ้นบันไดไปแล้ว ฉันก็รีบวิ่งขึ้นห้องนอนและวิ่งแยกไปอีกทางกับที่ท่านเจ้าสัวไปทันที เพื่อไปยังห้องนอนของฉัน
“อ่ะ ยังอยู่ เห้อ โล่งอกไปที”ฉันรีบวิ่งไปหยิบกระดาษสี่เหลี่ยมและเริ่มอ่านข้อความในกระดาษทันที มันถูกเขียนด้วยปากกาสีดำลายมือสวยงามมีระเบียบเรียบร้อยสะอาดสะอ้านบ่งบอกได้ว่าคนเขียนนิสัยเรียบร้อยแค่ไหน
ข้อตกลงเขียนโดยเจ้าสัว จักภัทร.......
ถึงหนูผิง เวียงพิงค์ เธอมาอยู่ที่นี้ในสถานะภรรยาลับของฉัน ฉันจะรับเลี้ยงดูเธออย่างเงียบๆเรื่องของเราจะมีคนรู้เพียงไม่กี่คน เธอห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกให้ใครรู้เด็ดขาด และข้อต่างๆที่เธอต้องปฏิบัติต่อฉันมีดังนี้
1.เวลาอยู่ในบ้านหลังนี้ทำเสมือนอยู่กินกันฉันท์สามีภรรยาแต่พออยู่ข้างนอกต้องทำเหมือนคนไม่รู้จักกัน
2.ห้ามขัดใจฉันเป็นอันขาด ต้องน่ารักกับฉันแค่คนเดียวด้วย
3.ฉันอยากได้เธอเวลาไหนร่างกายของเธอต้องพร้อมตลอดเวลา
แค่3ข้อนี้แหละ เดี๋ยวคิดออกค่อยบอกมาเขียนใหม่ น่ะอิหนูของป๋า^_^
“อะไรของเขากันนะ ฉันเป็นภรรยาลับๆของเขาเนี่ยน่ะ เมียน้อยรึเปล่า? ”ฉันพึมพำกับตัวเอง ฉันต้องยอมรับชะตากรรมของตัวเอง ขอแค่ฉันได้เรียนหมออย่างที่ฉันตั้งใจไว้ ไม่ว่าเขาจะให้ฉันอยู่ในสถานะไหนฉันก็ยอม
“ต้องน่ารักกับเขาคนเดียว แล้วอยู่บ้านแบบนี้ฉันจะไปน่ารักกับใครล่ะ เหงาจะแย่แล้ว?”ฉันพูดขึ้นพลางย่นจมูกลง เหงาจริงๆนะ ให้ฉันนอนอยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยมเงียบๆแบบนี้ทั้งวันเลย
“อยากได้ฉันเวลาไหน ร่างกายฉันต้องพร้อม งื้อ ทำไมป๋าเขาหื่นอย่างนี้ล่ะ หนูผิงกลัวนะคะเนี่ย”ฉันพูดขึ้นพลางทำตาปริบๆหน้าตาก็หล่อเหลาขนาดนั้น เขาน่าจะมีผู้หญิงเข้าหาอยู่ไม่น้อย ทำไมเขาต้องมาหื่นกับฉันด้วยเนี่ย และแถมวันนั้นที่เขาทำกับฉัน ฉันยังไม่หายเจ็บดีเลยนะ เมื่อกี้ก็ลืมตัวเผลอวิ่งมาอย่างไวซะด้วยสิ
“ยังบวมอยู่เลย หนูผิงจะไหวเหรอคะเนี่ย? ”ฉันพึมพำกับตัวเองเบาๆในขณะที่กำลังถอดเสื้อผ้าชุดกระโปรงที่ฉันใส่เป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวยาวคลุมปิดแค่ขาอ่อนของฉันเอง พอฉันจะจับใจความได้ว่าเมื่อกี้ที่ท่านเจ้าสัวพูดว่าให้ฉันไปหาเขาที่ห้องทำงานและต้องทำให้เขาพึงพอใจในตัวฉันเพื่อฉันจะได้เรียนหมออย่างที่ใจหวัง และเวลาที่จะสอบหมอก็เหลือแค่สามวัน สามวันที่จะถึงนี้ ฉันใช้เวลาทั้งหมดของตัวเองเพื่อการสอบในครั้งนี้ และเงินก้อนหนึ่งเพื่อไปใช้สมัครในการสอบมหาลัยDLมหาลัยชื่อดัง ฉันตั้งใจว่าถ้าฉันสอบติดคณะแพทยศาสตร์ฉันจะทำงานและเรียนไปด้วยเพื่อจะได้หาเงินมาจ่ายค่าเทอม เพราะมหาลัยที่นี้เป็นมหาลัยอินเตอร์ค่าเทอมแพงมาก
“เพื่อคณะแพทยศาสตร์ หนูผิงจะสู้กับป๋าให้ถึงที่สุด!!!”ฉันพูดขึ้นและเริ่มหันหลังสำรวจร่างกายของฉัน และแกะยางที่มัดผมยาวๆของฉันให้สยายปล่อยผมยาวๆไปกับแผ่นหลังของฉัน และสะบัดผมให้ดูเซ็กซี่ ฉันก็ทำไม่เป็นหรอกเห็นพี่แพรวาทำแบบนี้บ่อยๆและเธอก็สวยดี
“สู้เว้ย!ท่านเจ้าสัวหล่อขนาดนั้น หนูผิงจะกลัวอะไร!!”ฉันพูดปลอบใจตัวเองและนึกถึงใบหน้าขาวใสริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่อของท่านเจ้าสัว ผู้ชายอะไรหล่อไปหมดทุกส่วน เพอร์เฟคมากๆอีกตั้งหาก ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆและค่อยๆเดินออกจากห้องนอนของฉันมุ่งหน้าไปยังห้องทำงานของท่านเจ้าสัวที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งทันที
ก๊อกๆๆๆ
“หนูผิงเหรอ เข้ามาได้เลย”เสียงของท่านเจ้าสัวตะโกนตอบกลับมา ฉันจึงยื่นมือไปบิดลูกบิดประตูและเดินเข้าไปในห้องที่เปิดแอร์เย็นเฉียบและมองไปยังโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้องทำงานก็พบกับร่างของผู้ชายที่นั่งกระตุกยิ้มมุมปากมองมาที่ฉันอยู่ สองมือใหญ่ผสานกันไว้ตรงหน้าเขาสายตาคู่คมจับจ้องมองมาที่ฉัน ภายใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวของฉันนี้ฉันไม่ได้สวมอะไรไว้เลย
แปะๆๆๆ
“เหอะ นางยั่วของป๋านี้น่ารักจริงๆถูกใจป๋ามาก”ท่านเจ้าสัวเอ่ยขึ้นพร้อมกับปรบมือให้ฉัน ใบหน้าของฉันร้อนผ่าวขึ้นมาด้วยความเขินอายและค่อยๆก้าวขาเรียวยาวของฉันเข้าไปหาเขาที่โต๊ะทำงานของเขา เอาวะเพื่ออนาคตฉันต้องทำได้ หนูผิงสู้ๆๆๆๆ