บทที่ 6 โลกมันกลม
“บ่นอะไรคะแม่ ไปจ่ายเงินให้พิ้งค์หน่อยสิคะ” พวงชมพูเดินตามแม่ของเธอให้ไปจ่ายเงินค่าเสื้อผ้าที่เธอเลือกไว้พวงชมพู ศักดิ์สิทธิ์ หรือพิ้งค์วัยสิบเก้าปีลูกสาวของชมพูนุชกับคำรณ ที่ทำตัวหรูหราเฉิดฉายในวงสังคมไฮโซในกรุงเทพเธอเลือกคบแต่เพื่อนไฮโซลูกท่านหลานเธอทั้งนั้น
“ซื้ออีกแล้วเหรอลูกที่ซื้อไปคราวก่อนน้องพิ้งค์ยังไม่ได้ใส่เลยนะคะ” ชมพูนุชแย้งลูกสาวเพราะมาคราวก่อนลูกสาวของเธอซื้อหมดไปหลายหมื่นยังอยู่เต็มตู้บางตัวก็ไม่ได้แกะป้ายราคาด้วยซ้ำ
“แม่คะ เสื้อผ้าคราวก่อนมันตกรุ่นไปแล้วนะคะ แม่จะให้พิ้งค์ใส่ให้เพื่อนๆหัวเราะเยาะน่ะเหรอคะ” นี่คือลูกสาวของเธอที่ใช้เงินเป็นเบี้ยยังดีที่ครอบครัวของเธอมีเงินและพ่อของพวงชมพูก็ระดับเศรษฐีเมืองเพชรจึงทำให้ลูกสาวของเธอได้ใจอยากได้อะไรก็ต้องได้เพราะมีปู่มีตายายตามใจจนทำให้หลานสาวเสียคนโดยที่ไม่มีใครรู้ว่าพวงชมพูอยู่กรุงเทพทำอะไรบ้างใช้ชีวิตยังไงเชื่อที่เธอบอก
“งั้นไปเถอะลูก” ชมพูนุชชวนลูกสาวไปจ่ายเงินเพราะไม่งั้นพวงชมพูจะหงุดหงิด
“เมื่อกี้แม่บ่นให้ใครคะ” พวงชมพูยังข้องใจที่เห็นแม่พูดบ่นอยู่คนเดียว
“อ่อ แม่เจอนังหนูลินน่ะ มันอวดเก่งปากดีมาเถียงแม่ฉอดๆจนน่าตบ พูดแล้วโมโหจริงๆ” ชมพูนุชพูดอย่างเจ็บใจที่ทำอะไรบุลิน
“ทำไมแม่ไม่โทรหาพิ้งค์คะ จะได้ตบปากให้แตกที่มาเถียงแม่น่ะ” พวงชมพูก็ไม่ชอบพี่สาวต่างแม่เพราะบุลินสวยหุ่นดีเรียนก็เก่งและยังเป็นเชียร์รีดเดอร์ของมหาวิทยาลัยชื่อดังที่เธอไม่สามารถเข้าเรียนได้ถึงแม้จะมีเงินก็ตามเธอจึงเข้ามหาวิทยาลัยเอกชนเรียนปีหนึ่งเกรดของเธอก็ร่อแร่เหลือเกินเทอมสองนี่จะรอดหรือเปล่าก็ยังไม่รู้
“อย่าไปยุ่งกับมันเลยลูกไปช้อปปิ้งกันดีกว่าค่ะ” จากนั้สองแม่ลูกก็ไปช้อปปิ้งและลืมเรื่องของบุลิน
บุลินกับวรเดชซื้อของที่ต้องการจนครบก็พากันไปนั่งกินไอศครีมร้านดังและคุยกันเรื่องที่เจอแม่เลี้ยงของเพื่อนที่มักจะมาหาเรื่องทุกครั้งที่เจอกันจนน่ารำคาญ
"แม่เลี้ยงแกนี่สุดยอดเลยว่ะหนูลิน เจอตรงไหนก็กัดก็พูดหาเรื่องตลอดเป็นผู้ใหญ่ประสาอะไรกันหาเรื่องเด็ก” วีรเดชพูดขึ้นเมื่อสั่งเครื่องดื่มกับเค้กเสร็จ
“ก็ไม่รู้เหมือนกันนะวีวี่ว่าเขาต้องการอะไรเพราะลินกับแม่ก็ไม่เคยไปยุ่งกับพวกเขานะยิ่งผู้ชายคนนั้นลินก็ยิ่งไม่สนใจต่างคนต่างอยู่ก็ดีแล้ว ขออย่าได้เจออีกเลยลินไม่อยากมีเรื่องน่ะ” บุลินไม่เคยสนใจหรือไปยุ่งเกี่ยวกับพ่อของเธออีกเลยหลังจากที่พ่อแม่ของเธอหย่ากัน แต่ปู่ของเธอเหมือนโบราณว่าไว้ เกลียดตัวกินไข่รักหลานแต่เกลียดแม่ของหลานชีวิตของเธอมีแค่ตายายแม่และพ่อเลี้ยงกับน้องชายก็พอแล้ว
“แหม แต่ฉันดูแล้วว่าแม่เลี้ยงแกสู้แกไม่ได้หรอย่ะนังชะนีหนูลิน” วีรเดชรู้ว่าเพื่อนเป็นคนอ่อนนอกแข็งในดูผิวเผินบุลินจะเรียบร้อยน่ารักนอบน้อมถ่อมตนแต่จิตใจของเธอเข้มแข็งสู้คนไม่ยอมแพ้หากผิดเธอก็ยอมรับผิดแต่ถ้าเธอไม่ผิดบุลินก็สู้สุดใจเพื่อความถูกต้อง
"นี่ยังดีนะเจอแค่แม่ถ้าลูกสาวอีกคนล่ะก็ อาจจะแรงกว่านี้ เฮ้อ ลินล่ะเบื่อจริงๆต่อไปเจอพวกนี้ที่ไหนต้องหลีกหนีไปให้ไกลๆน่าจะดีกว่า" ไม่ใช่ว่าเธอกลัวแต่เธอไม่อยากมีปัญหาเพราะถ้าตากับยายรู้ท่านจะไม่สบายใจหากเลี่ยงได้เธอก็จะทำเพื่อตากับยาย
"โลกมันกลมนะยะชะนีหนูลิน แกจะหลบพวกเขาไปได้ตลอดเหรอ ประจันหน้ากันไปเลยสิไม่ต้องหลบไม่งั้นแกก็จะหลบไปตลอดชีวิตนั่นมันไม่ใช่นิสัยของยัยหนูลินเพื่อนรักของวีวี่นะยะ" วีรเดชไม่ได้ยุให้เพื่อนมีเรื่องแต่เขาคิดว่ายังไงก็ต้องเจอกันอยู่ดีแค่จะเจอตอนไหนก็เท่านั้นเอง
"ลินก็พูดไปอย่างนั้นเองแหละวีวี่ รีบกินเถอะจะได้กลับบ้าน” บุลินบอกเพื่อนเพราะนี่ก็เย็นมากแล้วเธอไม่อยากถึงบ้านค่ำเกินไปเพราะพรุ่งนี้เธอจะเริ่มงานวันแรกด้วย
ตึกใหญ่สูงสิบชั้นด้านหลังติดภูเขาที่มีหน้าผาเป็นแผ่นใหญ่บางจุดปะปนต้นไม่น้อยใหญ่ด้านหน้าติดทะเลมีห้องพักหลายหลายระดับแต่หรูหราทุกห้องและห้องพักสุดหรูราคาแพงที่สุดของโรงแรมที่คนธรรมดาไม่มีทางได้เฉียดใกล้หรือเห็นความหรูหรานอกจากพนักงานที่ดูแลห้องพักและแม่บ้านทำความสะอาด
บนเตียงหลังใหญ่มีชายหนุ่มฝรั่งรูปร่างสูงใหญ่นอนหลับสนิทเพราะลงจากเครื่องมาเขาก็เดินทางมาที่ปรานบุรีทันทีถึงแม้เพื่อนรักจะชวนพักที่กรุงเทพก่อนแต่เขามีงานที่ต้องรีบทำและกลับไปดูการแข่งขันฟอร์มูล่าวันในอาทิตย์หน้าที่ประเทศโมนาโกบ้านเกิดของเขา
“ก๊อก ก๊อกๆ”
เสียงเคาะประตูดังขึ้นและถูกเปิดออกด้วยฝีมือของครูสลูกน้องคนสนิทที่มาปลุกเจ้านายตามคำสั่งเพราะเมื่อคืนมาถึงดึกแล้วเจ้านายก็สั่งให้เขาปลุกตอนแปดโมงเช้า
“คุณเดฟครับ แปดโมงเช้าแล้วครับ” ครูสเรียกเจ้านายเบาๆ
“อืม ขออีกห้านาทีนะครูส” เดฟหรือเดม่อน เบนฟอร์ด หรือชื่อไทย ภูผา วิวัฒน์ภักดี วัย 30ปี หนุ่มหล่อพ่อรวยระดับมหาเศรษฐีอับดับท็อปไฟว์ของประเทศโมนาโกที่มีธุรกิจในมือมากมายตกทอดมาจากบรรพบุรุษสู่ลูกหลานสืบทอดต่อกันไป เดม่อนชื่นชอบความเร็วพอๆกับสาวสวยเซ็กซี่เร้าใจปราดเปรียวเหมือนรถเฟอรารี่ที่เขาขอบขับ เดม่อนเป็นลูกชายคนโตของคุณโรเจอร์กับคุณวนิสา เบนฟอร์ด ที่ตอนนี้ดูแลกิจการของครอบครัวเกือบทั้งหมดต่อจากพ่อที่วางมือให้ลูกชายสานต่อ
เดม่อนตอบลูกน้องแล้วพลิกตัวนอนคว่ำหน้าอวดแผ่นหลังแข็งแกร่งจนถึงบั้นเอวสอบที่รับกับไหล่กว้างสมส่วนที่สาวๆชื่นชอบนักหนาแต่ไม่ได้เข้าถึงตัวเขาได้ง่ายเพราะลูกน้องจะสแกนสาวทุกคนให้เจ้านายเพื่อความปลอดภัย
“ได้ครับ เดี๋ยวผมจะเตรียมชุดไว้ให้นะครับ” ครูสพูดจบก็เดินไปที่ห้องแต่งตัวเตรียมเสื้อผ้าให้เจ้านายของเขาเมื่อเสร็จก็เดินออกจากห้องไปรอที่ห้องรับแขกซึ่งห้องนี้ก็เหมือนจะเป็นห้องส่วนตัวที่เดม่อนมาพักทุกครั้งด
“เจ้านายยังไม่ตื่นหรือครูส” อีธานคู่หูของครูสที่เป็นคนเข้าไปปลุกเจ้านายขณะที่เขาก็จัดการเรื่องเอกสารที่คุณไอรานำมาให้เมื่อเช้าเพื่อให้ดูรายละเอียดของบัญชีและแผนการตลาดที่จะต้องปรับปรุงเพื่อให้แขกที่มาพักชื่นชอบในบริการและประทับใจจะได้คิดถึงทะเลของเมืองไทยและกลับมาพักผ่อนที่ โรงแรม ภูผาวิลล่า แอนด์ รีสอร์ท
“ตื่นแล้วล่ะ ไหนงานที่นายยังไม่ได้อ่าน” ครูสนั่งลงตรงข้ามเพื่อนมองกองเอกสารสี่กองใหญ่ที่คุณไอราและเลขานำขึ้นมาให้
“สองกองนั่นไง คุณไอเก่งนะสามารถดูแลงานได้อย่างเรียบร้อยไม่เห็นมีจุดไหนน่าเป็นห่วงเลย จะมีก็แค่ลูกค้าลดไปห้าเปอร์เซ็นต์ก็ยังถือว่าดีเพราะบางโรงแรมลูกค้าลดลงไปกว่าสามสิบสี่สิบเปอร์เซ็นเพราะโดนพิษเศรษฐกิจเล่นงาน” อีธานพูดไปขณะอ่านรายละเอียดไปด้วย