บทที่ 6 ความลับของอาจารย์สุดเฉิ่ม(2)
เมื่อทุกอย่างพร้อมตัวเลขที่อยู่บนหน้าจอก็ถูกกดอัดเรียบร้อย มือบางทั้งสองข้างโอบอุ้มทรวงอกขนาดใหญ่ที่ฝ่ามือของเธอปิดได้แค่จุกสีสวยเท่านั้น เธอนั่งทับขาแบะขาเรียวออกกว้างข้างเปิดให้เห็นชุดชั้นในพร้อมเนื้ออวบที่โผล่ออกมาดูน่าค้นหา ใบหน้าเย้ายวนภายใต้หน้ากากตอนนี้ไร้ความเขินอายใดเพราะความเป็นมืออาชีพ ริมฝีปากอวบอิ่มจือปากแสดงท่าทางเย้ายวนเกินต้านสองมือที่ประคองเต้าอวบยังไม่ขยับไปไหน เธอทำท่าสุดเซ็กซี่เพื่อให้กล้องจับประมาณห้านาทีก่อนจะลุกมากดปิดกล้องแล้วสวมเสื้อคลุมเหมือนเดิม
กุนณฉัตรเปิดดูคลิปที่เพิ่งถ่ายพร้อมรอยยิ้มที่แสนจะพอใจ เธอส่งคลิปเข้าไปที่โน๊ตบุ๊คแล้วจัดการตัดต่ออีกเล็กน้อย พอทุกอย่างเสร็จสิ้นไม่ต้องรอช้าเธอก็ส่งรูปเข้าไปกระตุ้นบรรดาผู้ติดตามอีกครั้งและครั้งนี้ก็เป็นที่น่าพอใจมากกว่าเดิม ยอดวิวเพิ่มอย่างรวดเร็วพร้อมกับคอมเมนต์และยอดการสมัคร เธอมองทุกอย่างด้วยความพอใจ ถึงจะอ่านไม่ครบทุกคอมเมนต์แต่เธอก็รู้ว่าทุกคนยังรอเธออย่างคาดหวัง เธอมองคนที่เข้ามาดูเพื่อมองหาคนที่คุ้นเคยและติดตามเธอมาตั้งแต่ครั้งที่เธอเปิดแอคเคาท์ลับครั้งแรก แต่เหมือนว่าวันนี้เขาไม่ได้ว่างเข้ามาดูเธอ เพราะตั้งแต่ลงรูปแรกเธอยังชื่อเขาปรากฏ
ทำไมเธอรู้สึกแปลก ๆ เหมือนจะเสียดายที่เขาจะไม่ได้เข้ามาดูในครั้ง แต่เธอก็ไม่ถึงกับกล้าหาญที่จะส่งข้อความตามเขา บางทีเขาอาจจะไม่ว่างก็ได้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังมองหาโปรไฟล์รูปรอยสักพยัคฆ์ที่หน้าอก
ติ๊งง!!
เสียงข้อความที่เข้าทำให้เธอรีบปิดดูและสิ่งที่เห็นก็ทำเอาเธอยิ้มกว้างออกมา "วันนี้คุณคนสวยเซ็กซี่จังเลยครับ" เพราะมันเป็นข้อความจากคนที่เธอรอคอย
กุนณฉัตรยิ้มกับโทรศัพท์และพิมพ์ตอบกลับด้วยรอบยิ้มที่มีความสุข "ขอบคุณค่ะ" เธอพิมพ์เสร็จและกดส่งรอคอยข้อความต่อไปของเขาละยิ่งทำให้เธอใจเต้นแรงรอคอยรอคอยข้อความต่อไปและเธออยากถามเขาว่าหายไปไหนมา ทำไมถึงเพิ่งเข้ามาแต่ก็ไม่กล้าแต่แทนที่จะได้รับข้อความตอบกลับทุกอย่างกลับเงียบไป เขาหายไปแล้วและเธอก็เข้ามาสู่ความรู้สึกวูบโหวงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
วันนี้เขาคนนั้นมาแปลกมาเพียงข้อความเดียวและหายไปเลย เป็นเธอเสียอีกที่กำลังกระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูกเธอคิดอย่างเสียดายเพราะเธอหวังว่าเขาจะเป็นคนหนึ่งที่เข้ามาร่วมกิจกรรมในคืนนี้ เธอแอบหวังไม่น้อยว่าเขาจะเป็นคนชนะในการโดเนทในค่ำคืนนี้
ตอนนี้กุนณฉัตรเริ่มเป็นกังวลแต่ถึงอย่างนั้นเรื่องเงินก็เป็นตัวแปรสำคัญตอนนี้ถ้ามันมากพอที่จะทำให้สามารถรักษาพ่อเธอได้ใครก็ตามที่ชนะใครครั้งนี้ก็ได้ครั้งแรกของเธอไปซึ่งมันยังเป็นตอนที่เธอจะเฉลยในตอนนี้เพราะเธอตั้งใจแล้วว่าจะพูดออกมาในตอนที่เห็นตัวเลขของผู้ชนะเท่านั้น
...
เพนท์เฮาส์แห่งหนึ่ง
"นายครับ ผมได้ข้อมูลมาแล้วครับตอนนี้คุณพ่อของคุณกุนณฉัตรนอนอยู่ที่ห้องฉุกเฉินครับโรงพยาบาลครับ เกิดจากเป็นลมหมดสติล้มหัวฟาดพื้นในขณะที่กำลังทำงานอยู่ ครูที่อยู่ในเหตุการณ์เป็นคนพามาและติดต่อคุณกุนณฉัตร ส่วนการที่เป็นหมอตรวจพบว่ามีภาวะหัวใจล้มเหลวการรักษาต้องมีการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจตอนนี้คุณกุนณฉัตรยื่นเรื่องขอรับบริจาคหัวใจแล้วครับเพียงแค่รอคิว ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้ตอนไหน" ฤชารายงานจบก็ยืนนิ่งรอรับคำสั่งต่อไป
"ติดต่อโรงพยาบาลให้ด่วนเลยครับเคสนี้ผมรับผิดชอบเอง ขอบคุณครับ" เสียงพูดติดเครียดสั่งการลูกน้อง
"ครับ" ฤชารับคำก่อนจะเดินออกไปจากห้องทำงานเจ้านายในเพนท์เฮาส์ เรื่องคำสั่งที่ได้รับเขาไม่แปลกใจเท่าไรนักทันทีที่ลูกน้องกึ่งบอดี้การ์ดเดินออกไป ตฤณก็พิงหลังลงไปที่พนักพิงอย่างแรงเขายกนิ้วชี้ขึ้นนวดขมับ ก่อนจะล้วงเอาบุหรี่ออกมาสูบ คิ้วเข้มขมวดมุ่นอย่างไม่พอใจนัก
"แบบนี้สินะเหตุผลที่ต้องมาทำแบบนี้อีก..พี่กั้ง!" เสียงพูดที่แฝงไปด้วยการสะกดอารมณ์ ถึงแม้อยากจะช่วยเท่าไรแต่เรื่องแบบนี้ก็ไม่น่าออกตัวแรงได้ อยู่ ๆ จะบอกว่าเขาจะออกค่าใช้จ่ายเรื่องค่ารักษาพยาบาลพ่อของเธอยิ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าเธอไม่ได้บอกด้วยซ้ำว่าตอนนี้พ่อของเธออยู่โรงพยาบาลมีเพียงทางเดียวคือคืนนี้เขาต้องจ่ายให้มากหน่อย แต่นั่นไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเขาเพราะสำหรับกุนณฉัตรเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา
แต่ปัญหามันอยู่ที่เขา
ตฤณในวัยยี่สิบสองปีกำลังคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับกุนณฉัตรตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่ใช่ว่าเขาและเธอไม่รู้จักกันเขารู้จักเธอดีทีเดียวพี่สาวข้างบ้านที่น่าสงสาร ครอบครัวแตกร้าวแม่มีชู้แล้วเลือกที่จะไปกับชู้ทิ้งเด็กสาวที่กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อไว้กับพ่อ ตอนนั้นเขาเป็นเพียงเด็กตัวเล็กแคระแกร็นร่างกายอ่อนแออายุเพียงสิบสี่ปี
เขาและเธอเรียนโรงเรียนเดียวกันเขาและสนิทกันมากเขาตามติดเธอไม่ไปไหนเราสองคนไม่เคยมีความลับต่อกัน เธอพูดเรื่องที่แม่ทำส่วนเขาก็รับฟังด้วยความสงสารแต่ตอนนั้นเขาเองก็ทำอะไรไม่ได้เพียงแค่นั่งเป็นเพื่อนปล่อยให้เธอระบายสิ่งที่อัดอั้นออกมา
ในตอนนั้นเป็นเพียงแค่เด็กกำพร้าเพราะแม่ป่วยเสียชีวิตไปแล้วมีแค่ยายเป็นคนเลี้ยงแต่อยู่ ๆ วันหนึ่งก็มีคนแปลกหน้าน่ากลัวมาที่บ้านเช่าขนาดเล็กของเขาและบอกว่าคนที่ได้ว่าพ่อเป็นคนให้มารับแต่เขาไม่อยากไปและออกไปหาเธอในเย็นวันหนึ่ง เขาพาเธอเดินไปที่สวนสาธารณะและพูดเรื่องของเขาให้เธอฟังบ้างรวมถึงกล้าสารภาพรักกับเธอตามความรู้สึกที่เขามีให้เธออย่างแท้จริงและเขาก็บอกกับเธออย่างชัดเจนว่าเขาไม่ต้องการที่จะไปกับคนพวกนั้นถึงแม้ว่าจะรู้ดีว่าพ่อตัวเองนั้นร่ำรวยมีอำนาจแค่ไหนก็ตาม แต่สิ่งที่เขาได้รับจากเธอคือการต่อว่าและคำพูดสั่งสอนซึ่งเขายังจำได้ดี
'เตเธอควรจะไปกับเขาแล้วลืมพี่ไปซะ เธอต้องมีชีวิตที่ดีใช้ชีวิตให้เต็มที่เชื่อพี่นะ นี่เป็นโอกาสที่ดีของเธอแล้ว'
'ไม่ไปผมจะอยู่ที่นี่กับพี่ พี่ตกลงคบกับผมเถอะนะ'