คนคิดไม่ซื่อ
ญาดาสาวน้อยผู้มีรอยยิ้มสดใสตั้งแต่เล็กจนโตเธอมีชายที่รักภายในใจเพียงคนเดียว อัคคีพี่ชายแสนดีที่เป็นเพื่อนเล่นและคอยปกป้องเด็กน้อยญาดาตั้งแต่เด็กจวบจนชายหนุ่มต้องย้ายไปเรียนต่อในเมืองจึงได้แยกจากกัน แต่ถึงกระนั้นญาดาก็ยังคอยถามไถ่เรื่องราวชีวิตของอีกฝ่ายอยู่ตลอด
ยามนี้เธอไม่ได้เป็นเด็กน้อยที่คอยให้เขาปกป้องอีกแล้ว ตอนนี้เธอเป็นสาวเต็มตัวที่สำคัญสวยจนมีหนุ่มๆตามจีบไม่ขาด
หลังรู้ข่าวว่าพี่ชายข้างบ้านอกหักเพราะโดนสาวทิ้งเป็นช่วงที่ปิดเทอมฤดูร้อนพอดี จึงถือโอกาสกลับมาเที่ยวเล่น เป้าหมายคือมาปลอบใจคนอกหัก และหวังจะได้พัฒนาสานสัมพันธ์กับพี่ไฟชายที่เธอแอบชอบมานานแต่ไม่มีโอกาสได้เลื่อนสถานะจากสักที
เพราะอายุน้อยกว่าเขาหกปีเลยได้เป็นแค่น้องสาว เธอก็ทำได้แค่แอบรักเขาอยู่ฝ่ายเดียว ต้องทนเห็นเขามีความรักกับผู้หญิงคนอื่นครั้งแล้วครั้งเล่า ครั้งนี้จึงอยากจะลองทำทุกวิถีทางสลัดคำว่าน้องสาวออกจากหัวเขาแล้วให้มองเธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง
“น้องดามาแล้วเหรอคะ”
ชายหนุ่มร่างสูงสง่าในชุดเสื้อยืดสีขาวทับในกางเกงยีนสีดำ เป็นชุดธรรมดาที่มองแล้วช่างน่าดึงดูดสายตา ยิ่งอยู่บนตัวของเขาแล้วกับดูดีไร้ที่ติไปหมด ยิ่งหากมองความสมบูรณ์แบบผ่านหน้าอกกว้าง มัดกร้ามนูนแน่นดันเด่นผ่านเสื้อยืดตัวที่เขาสวมใส่ ออกมาโชว์สายตาภายใต้นั้นคงสมบูรณ์แบบไม่น้อย ดเพราะอาชีพครูสอนฟิตเนสทำให้ชายหนุ่มมีเรือนแน่นกำยำสมบูรณ์แบบอย่างที่บุรุษเพศควรจะมี
ยิ่งอยู่ภายใต้ใบหน้าหล่อคมเข้มของเขาแล้วยิ่งทำให้จำของหุ่นแข็งแรงดูดีขึ้นอีกเป็นสิบเท่า เรียกได้ว่าครบเครื่องในคนเดียวกัยนี่มันเทพบุตรชัดๆ
“สวัสดีค่ะพี่ไฟ” เสียงหวานสดใสกล่าวทักทายพร้อมๆกับร่มคันโตถูกยื่นมากลางบังแดดให้
“สวัสดีค่ะ วันนี้อากาศร้อนมากกางร่มกันไว้ก่อนดีกว่า เดี๋ยวจะไม่สบายได้”
เสียงทุ้มนุ่มแสนอบอุ่นบอก เขามักดูแลเธอเช่นนี้เสมอตั้งแต่จำความได้ ไม่ว่าผ่านไปนานแค่ไหนเขาก็คือพี่ไฟคนเดิมของเธอ
“ขอบคุณค่ะ”
คนตัวเล็กตอบขณะลอบมองใบหน้าหล่อที่ทอดมองไปยังเบื้องหน้า ญาดาเอาแต่จ้องมองไม่ละสายตาจนเกือบโดนรถชนเข้าหากเขาไม่ดึงเธอหลบได้ทันเสียก่อน
“เดินมองทางหน่อยสิคะ เดี๋ยวก็โดนรถชนเอาหรอก มัวแต่มองอะไรหืม” เสียงทุ้มอบอุ่นบอกเสียงดุแต่ไม่จริงจัง เพราะแบบนี้ไงเธอถึงได้ชอบ
-ก็มองพี่ไฟนั่นแหละ- ญาดาคิด
ใบหน้าสวยรูปไข่อมยิ้มพอใจเมื่อครู่เขาดึงเธอมาแนบชิดแนบอกกว้างจนสัมผัสได้ถึงความแน่น เป็นการใกล้ชิดกันที่สุดตั้งแต่ต่างคนต่างแยกกันไปใช้ชีวิตเมื่อนานมาแล้ว ญาดาค่อยๆเงยหน้าขึ้นลอบมองก็เห็นพี่ชายที่รักกำลังหลี่ตามองจ้องเธออยู่ ทั้งสายตาอ่านไม่ออกที่เขามองมาทำใจดวงน้อยเต้นแรงเธอกำลังประหม่า
ความหวั่นไหวเกิดขึ้นเพียงแค่ได้สัมผัสร่างกายชายหนุ่มเท่านั้นสาวน้อยก็เริ่มทำตัวไม่ถูกใบหน้าสวยแดงก่ำ
“รีบขึ้นรถเถอะอากาศร้อนจนหน้าน้องดาแดงหมดแล้ว”
ญาดารีบยกมือขึ้นแนบใบหน้าก่อนเบือนหน้าหนีกลัวเขาจะรู้ว่าเธอกำลังคิดไม่ซื่อ
อัคคีขับรถพาสาวน้อยเดินทางจากสนามบินตรงมายังบ้านสไตลโมเดินท์สองชั้นผสมผสานไม้กับปูนเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ของตนเอง เพราะบ้านเก่าของหญิงสาวไม่มีคนอยู่นานแล้ว หากจะให้เธอไปพักคนเดียว มารดาของเธอก็ไม่สบายใจ จึงจะฝากฝังเด็กสาวไว้กับอรนุชเพื่อนรักแล้ว แต่ก็มีเหตุที่ทำให้ไม่อยู่บ้าน จนต้องเป็นหน้าที่ของอัคคีที่ต้องดูแลหญิงสาวแทนระหว่างที่มารดาของเขายังไม่กลับ
“น้องดาจะอยู่ที่นี่นานเท่าไหร่เหรอคะ” เสียงทุ้มถาม
“หนึ่งเดือนค่ะ”
“รู้ใช่มั้ยคะว่าต้องพักที่บ้านพี่”
“ค่ะคุณแม่บอกแล้ว”
“เดี๋ยวถึงบ้านแล้ว พี่ยังมีสอนต่ออีกสองชั่วโมง คุณแม่พี่ไม่อยู่บ้าน น้องดารอที่บ้านคนเดียวได้มั้ยคะ”
“ให้ดาไปที่ยิมกับพี่ไฟด้วยได้มั้ย ดาอยากออกกำลังกายพอดี”
“เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ” จะปล่อยให้หญิงสาวอยู่บ้านคนเดียว เขาก็ไม่ไว้วางใจ
“งั้นถ้าถึงบ้านแล้ว ดาขอเอาของขึ้นไปเก็บ แล้วเปลี่ยนเป็นชุดออกกำลังกายก่อนนะคะ”
“ได้สิคะ”