อสูรหวงรัก

190.0K · จบแล้ว
รินธารา
66
บท
19.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“เฮียแฟรงก์ ช่วยพลอยหน่อยสิคะ” พลอยลดาพูดออกไปอย่างเกร็งๆ เพราะเธอกำลังหาข้ออ้างที่จะอ่อยแฟรงก์ให้สำเสร็จ “ช่วยอะไรก็รีบๆพูดมาสิ มายืนอ่อยอยู่ได้ ” แฟรงก์ตอบกลับไปก็แกล้งก้มอ่านเอกสารต่อแบบไม่สนใจ เพราะเขาเองก็ต้องหักห้ามใจไม่ให้คิดเกินเลยกับพลอยลดา ตามคำสัญญาที่ให้กับพิชชาภาและพี่ชายของเขาไว้ตั้งแต่3ปีก่อน “คือ พลอย เรียนไม่เข้าใจ เพราะว่าเคยเห็นของจริงแค่ครั้งเดียวเอง คือ เฮียแฟรงก์ช่วย อ่อ คือ ช่วยสาธิตวิธีช่วยตัวเองให้พลอยดูหน่อยได้ไหมคะ” พลอยลดาพูดตะกุกตะกะไป จนกระทั่งกลั้นใจพูดจนจบอย่างอายๆ ใช่สิเป็นใครจะไม่อายบ้างที่ต้องมาพูดแบบนี้ แต่ถ้าทำแล้วเธอจะไม่เสียเขาไปให้ใคร เธอยอมทำ เพราะเมื่อ4ปีก่อนเธอกับแฟรงก์เคยทำเรื่องอย่างว่ากันมาแล้ว และเธอก็เห็นมังกรของเขาส่วนเขาเองก็เห็นน้องสาวของเธอแล้ว แต่ติดที่เธอกับเขายังไม่ได้กันก็เท่านั้นเนื่องจากตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป วันนี้แหละ มันถึงเวลาที่เธอจะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อเอาเขาที่ควรจะเป็นของเธอคืนมาจากผู้หญิงพวกนั้น โดยเฉพาะแฟนของเขาที่พึ่งจะพามาเปิดตัวกับเธอ “อะไรนะ นี่เธอจะบ้าหรือไงพลอยลดา พี่ไม่มีเวลามาเล่นลิ้นกับพลอยหรอกนะ อีกอย่างเดือนเขาก็อยู่ที่นี่ พี่ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก” แฟรงก์ที่ได้ฟังถึงกับสะอึก เมื่อหญิงสาวของให้เขาช่วยตัวเองให้เธอดู เธอไม่รู้อะไรเลยหรือไงนะว่ามันไม่ควร ยิ่งตอนนี้ภารดีที่เขาพึ่งตัดสินใจคบกับเธอแบบจริงจังก็มาอเมริกากับเขาด้วย แถมยังพักอยู่บ้านหลังเดียวกันอีก แล้วเขาจะทำอะไรกับพลอยลดาได้ยังไง ไม่มีทาง เขาจะไม่แตะต้องเธอเด็ดขาด “พลอย พลอยไม่ได้เล่นนะคะ คือพลอยกำลังศึกษาเกี่ยวกับอวัยวะเพศหญิงกับเพศชาย แต่พลอยไม่เข้าใจจริงๆว่าผู้ชายเขามีวิธีปลดปล่อยยังไง เพราะไอ้ที่เฮียเคยทำกับพลอย พลอยก็จำไม่ได้แล้วด้วย พลอยไม่รู้จะให้ใครช่วยแล้วนอกจากเฮีย นะคะ ช่วยพลอยเถอะนะคะ ไม่งั้นพลอยต้องสอบตกแล้วได้กลับไทยแน่เลย พลอยสัญญาค่ะว่าพี่เดือนจะไม่รู้เรื่องของเรา ” พลอยลดาพูดบอกไปก็ทำหน้าเว้าวอนเขาแบบแกล้งๆ ยังไงวันนี้เธอจะต้องหาทางให้แฟรงก์มีอะไรกับเธอให้ได้ ไม่งั้นเธอต้องเสียเขาไปกับยัยป้าภารดีที่ตามติดเขามาถึงอเมริกาแน่ “แล้วทำไมไม่ตั้งใจเรียนห้ะ เธอนี่มันจริงๆ ทำพี่เดือดร้อนได้ทุกวี่ทุกวัน” แฟรงก์พูดออกไปอย่างหนักใจ ถึงเขาจะเคยคิดไม่ซื่อกับเธอ แต่ก็ใช่ว่าเขาจะมาชักว่าวต่อหน้าเธอโดยไม่รู้สึกอะไรไม่ได้ “ก็อาจารย์เขาเอาแค่รูปให้ดูแล้วก็อธิบายอะไรก็ไม่รู้ พลอยไม่เคยเห็นแล้วพลอยจะไปรู้ได้ไงเล่า ถ้าเฮียไม่อยากช่วยก็ไม่เป็นไร พลอยไปหาคนอื่นมาช่วยก็ได้” พลอยลดาบอกไปแบบงอนๆ เพราะรู้ว่ายังไงเขาก็ไม่ปฏิเสธแน่ “ไม่ต้อง เดี๋ยวพี่จะช่วยเอง กลับไปรอที่ห้องเราไป เดี๋ยวเสร็จงานแล้วพี่จะตามไป” แฟรงก์เอ่ยบอกออกไปอย่างปลงๆ เพราะเขาก็ไม่อยากให้เธอไปทำแบบนี้กับใคร นอกจากตัวเขา แฟรงก์ สุริยสิงห์ อายุ 28 ปี หนุ่มหล่อลูกครึ่งไทยอิตาลี่ทายาทคนรองของตระกูลสุริยสิงห์ เจ้าของธุรกิจเครื่องดื่มในไทยและอเมริการายใหญ่ เป็นคนเจ้าเลห์เจ้าแผนการและเจ้าชู้ระดับตัวพ่อ ที่ใครๆต่างก็รู้ว่าเขานั้นคือหนุ่มเจ้าสำราญที่จ่ายหนักเปย์เต็มที่เมื่อสาวๆให้บทรักกับเขาได้ถึงใจ จนทำให้มีสาวๆเข้าหาเขามากมาย แต่ชายหนุ่มก็ไม่เคยสนใจใครเลยจนกระทั่งมาเจอเด็กสาววัยใสที่ทำให้เขาต้องเสี่ยงคุกเสี่ยงตารางอย่าง พลอยลดา เด็กสาวที่เขาต้องคอยดูแลระหว่างที่เธอเรียนอยู่ที่อเมริกา พลอยลดา เซเบอรัส อายุ 19 ปี สาวน้อยวัยใสแต่แอบหัวดื้อไม่ยอมใคร เธอกำลังจะกลายเป็นคุณหมอในอนาคตเพราะเธอสอบชิงทุนไปเรียนที่อเมริกาได้ แต่เธอดันเจอสามีของคนที่ดูแลคอยแต่จะลวนลาม จนเธอต้องให้พี่สาวคนสวยอย่างพิชชาภามาจัดการให้ และแล้วเธอก็ได้ย้ายมาอยู่ในความดูแลของแฟรงก์ ซึ่งเป็นน้องชายของพี่เขยของเธอเอง แต่เหมือนจะหนีเสือปะจระเข้เพราะแฟรงก์ดันจ้องจะเจาะไข่แดงเธอแทบทุกเวลา แล้วแบบนี้ความฝันของเธอที่จะเป็นหมอจะสำเร็จหรือไม่เมื่อต้องมาเจอผู้ชายที่หื่นตัวพ่ออย่างเขา

นิยายรักโรแมนติกนักศึกษาประธานรักวัยรุ่นเศรษฐีมีลูกรักหวานๆโรแมนติก18+

1. ทุนเรียนหมอ

อสูรหวงรัก เป็นภาคต่อจากเรื่อง ทาสสวาทอสูรเถื่อน

บทที่1

ณ บริษัท เฟริส์เฮ้าท์ อินดัชเตอรี่กำจัด เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของไทย และเป็นบริษัทที่ผลิตและนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยี่ห้อดังหลายชนิด ตั้งตระง่าอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพที่มีความสูงถึงห้าสิบชั้น กำลังวุ่นวายกับการจัดงานต้อนรับรองผู้บริหารคนใหม่ โดยเหล่าพนักงานต่างพากันไปยืนเรียงแถวต้อนรับรองผู้บริหารอยู่ตรงทางเข้าจนสุดทางที่ลิฟต์

จากนั้นก็มีรถสปอร์ตคันหรูขับเข้ามาจอด พนักงานคนหนึ่งก็เดินเข้าไปเปิดประตูให้ ก็มีผู้ชายตัวสูงใหญ่ใส่ชุดสูทหรูหราก้าวลงมาจากรถ พร้อมกับถอดแว่นตาออกอย่างสมาร์ท จนพนักงานผู้หญิงถึงกับอือฮากันเสียงดังเมื่อเห็นรองผู้บริหารคนใหม่ที่มีหน้าตาหล่อเหลาคมคายราวกับเทพบุตรก็ไม่ปาน

“ยินดีต้อนรับนะครับคุณแฟรงก์ ไม่เจอกันหลายปียังหล่อเหมือนเดิมเลยนะครับ” ทีรวัตรทนายประจำตระกูลสุริยสิงห์เอ่ยพูดออกไปด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นมิตร พร้อมกับส่งมอบช่อดอกไม้ให้กับทายาทคนรองของของตระกูลสุริยสิงห์

“ครับลุงวัตร ขอบคุณที่มาต้อนรับผมนะครับ บอกให้พนักงานกลับไปทำงานเถอะครับลุง เดี๋ยวผมจะขึ้นไปพบพี่ฟราน” แฟรงก์ตอบกลับไปอย่างขอบคุณ เพราะเขานั้นนับถือทีรวัตรเหมือนญาติคนหนึ่ง เพราะตั้งแต่พ่อของเขาเสีย ก็ได้ลุงวัตรนี่แหละที่คอยช่วยแม่และพี่ชายของเขาบริหารงานบริษัท จนกระทั่งเขากลับมาเมืองไทย

“ครับคุณแฟรงก์ งั้นเชิญเลยครับ” ทีรวัตรเอ่ยพูดไปก็ยิ้ม พร้อมกับเดินนำพาเจ้านายคนใหม่ขึ้นไปยังชั้นของผู้บริหาร ตามคำสั่งของนายใหญ่ของสุริยสิงห์

พอทีรวัตรพาแฟรงค์มาจนถึงห้องทำงานของผู้บริหารก็เคาะประตูห้องก่อนจะพาเข้าไปด้านในห้องทำงาน ก็เจอกับเมทีลูกชายของเขา กำลังนั่งคุยอยู่กับฟรานติโน่

“มาแล้วเหรอ กว่าฉันจะลากคอแกกลับมาทำงานได้ เล่นเอาฉันเหนื่อยเลยนะ” ฟรานติโน่เอ่ยพูดเล่นออกไป พร้อมกับมองไปที่น้องชายด้วยสายตาจดจ้องอย่างคาดโทษ เพราะน้องชายของเขาเรียนจบมาหลายปีแล้ว แต่กลับไม่ยอมกลับมาช่วยเขาทำงานที่นี่ เขาจึงสั่งให้ลูกน้องไปลากตัวมันกลับมาเพื่อช่วยเขาบริหารกิจการ

“โห...เฮียฟราน ผมก็แค่อยากเที่ยวรอบโลกอ่ะ ถ้ากลับมาทำงานผมก็ไม่ได้ไปไหนแบบเฮียน่ะสิ ขอผมเที่ยวต่ออีกสักปีสองปีไม่ได้เหรอ” แฟรงก์เอ่ยพูดออกไปพร้อมกับเข้าไปนั่งเก้าอี้ตรงข้ามพี่ชายอย่างไม่เกรงกลัว เพราะรู้ดีว่าพี่ชายก็แค่ขู่เขาเล่นๆเท่านั้น

“ไม่ได้ แกต้องกลับมารับผิดชอบสิ่งที่ป๊ารัก แกจะผิดสัญญาหรือไง ตอนนี้บริษัทเรากำลังไปได้ดี เพราะฉะนั้นแกก็ควรมาบริหารงานที่นี่กับฉันได้แล้ว อย่าเอาแต่เที่ยวไปวันๆ” ฟรานติโน่เอ่ยพูดออกไป เพราะตั้งแต่พ่อเขาตายไปเมื่อหกปีก่อน เขาก็เรียนจบพอดี จากบริษัทที่เกือบจะล้มละลายเขาก็ทำให้มันกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้งจนถึงทุกวันนี้ เขาจึงอยากให้น้องชายมาเรียนรู้งานตั้งแต่ตอนนี้

“เออๆ เฮียจะให้ผมทำงานอะไรก็ว่ามาเลย น้องคนนี้พร้อมจะรับใช้แล้วครับ” แฟงก์เอ่ยพูดออกไป ก่อนจะทำหน้ากวนๆใส่พี่ชาย สงสัยงานนี้เขาจะหนีไม่รอดซะแล้ว

“ฉันจะให้แกมาเป็นรองผู้บริหาร แล้วงานของแกหลักๆก็คือดูแลบริษัทเครื่องดื่มในเครือของเราทั้งหมด ฉันจะให้ลุงวัตรเป็นคนสอนแก ไปได้แล้วเห็นหน้าแกแล้วฉันรำคาญ” ฟรานติโน่เอ่ยพูดไปก็ถอนหายใจ เพราะไม่รู้ว่าน้องชายของเขาจะได้เรื่องแค่ไหน

“ครับๆ มาวันแรกก็ได้ลุยงานเลย ดีจริงๆเนอะ” แฟรงค์พูดไปก็ยิ้มแห้งๆ ก่อนจะหันไปหาผู้เป็นลุง แล้วเอ่ยพูดไป

“ไปเถอะครับลุง ปล่อยให้เฮียเขาอยู่กับงาน เอ้ย อยู่กับพี่ทีดีกว่าครับ” แฟรงก์พูดออกไปอย่างแกล้งๆ เพราะพี่ชายของเขาจริงจังกับงาน จนแทบจะไม่สนใจอะไรแม้กระทั่งผู้หญิง ดีนะที่พี่ทียังหาสาวๆมาให้พี่ชายของเขาได้ปลดปล่อยบ้าง ไม่งั้นเขาคงคิดว่าพี่ชายของเขาเป็นเกย์แน่ๆ

หลังจากนั้นแฟรงก์ก็เริ่มเข้ามาบริหารและผลิตเครื่องดื่มชนิดใหม่ขึ้นมานำเสนอบอร์ดผู้บริหารและมันก็เป็นที่น่าสนใจและผลิตเครื่องดื่มชิ้นแรกของแฟรงก์ก็ผ่านการอนุมัติจากฟรานติโน่และคณะบอร์ดผู้บริหาร

ด้านพลอยลดาสาวน้อยหน้าหวานที่กำลังโตเป็นสาวก็เดินถือซองเอกสารตอบรับของมหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนียที่เธอได้ทำการสมัครสอบคณะแพทย์ศาสตร์ไปและตอนนี้ทางมหาวิทยาลัยก็ตอบรับเธอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“พ่อคะ แม่คะ พลอยมีอะไรจะให้พ่อกับแม่ดูด้วยค่ะ” พลอยลดาเดินเข้าไปในห้องทำงานของร้านนวดของพ่อแม่ของเธออย่างดีใจ จนพ่อแม่ของเธอเงยหน้าขึ้นมาแล้วทำหน้าสงสัย

“อะไรกันลูก ยิ้มหน้าบานเชียว ไหนเอามาให้แม่ดูสิ” พิริมาเอ่ยถามลูกสาวก็รับซองเอกสารจากลูกสาวมาแล้วมาอ่านอย่างพิจารณา ก่อนจะเงยหน้ามองลูกสาวอย่างอึ้งๆ

“นี่ลูกแม่สอบติดหมอเหรอ คุณคะ ลูกเราสอบติดหมอค่ะ” พิริมาถามลูกสาวไป ก็หันไปบอกสามีที่นั่งมองเธอสองคนอยู่

“หนูเก่งไหมคะแม่” พลอยลดาพูดไปก็เข้าไปกอดผู้เป็นแม่ทันที เธอฝันอยากเป็นหมอมานานแล้ว และเธอก็จะต้องทำมันให้ได้ และตอนนี้มันก็กำลังจะเป็นจริง

“เก่งที่สุดเลยลูกแม่ แม่ภูมิใจในตัวหนูมากเลยรู้ไหม แล้วนี่ได้ที่ไหนลูก” พิริมากอดลูกสาวอย่างยินดี ก่อนจะเอ่ยถามลูกสาวต่อ

“ได้ของมหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนียค่ะแม่ อยู่รัฐแคลิฟอร์เนีย เมืองลอสแองเจลิสค่ะ แต่อาทิตย์หน้าต้องไปจ่ายเงินแรกเข้าเพื่อยืนยันสิทธิ์ก่อนค่ะ” พลอยลดาบอกไปก็กอดแม่อย่างดีใจ แต่พิริมาก็ทำหน้ากังวลใจและหันไปมองหน้าสามีทันที เพราะตอนนี้สถานะทางการเงินของครอบครัวกำลังแย่

“เก่งๆมากลูกๆ ถ้าจ่ายเมื่อไหร่ก็มาเอาเงินที่พ่อก็แล้วกันนะลูก” โจเซฟเอ่ยพูดไปก็ลุกขึ้นไปแล้วกอดลูกสาวและภรรยาด้วยใบหน้ากังวล ยังไงเขาก็ต้องหาเงินไปใช้หนี้ และต้องหาเงินมาส่งลูกสาวของเขาเรียนหมอให้ได้

จากนั้นสามพ่อแม่ลูกก็พูดคุยกันต่ออย่างดีใจ ก่อนจะบอกให้พลอยลดารอพิชชาภาซึ่งเป็นหลานสาวของเธอที่เลี้ยงมาตั้งแต่เด็กๆมารับพลอยลดากลับไปบ้าน เพราะเธอกับโจเซฟจะต้องไปหาเงินมาใช้หนี้ของเสี่ยกำธร

ด้านพิชชาภาพอกลับจากมหาวิทยาลัยก็มาที่ร้านเพื่อมารับน้องสาว เธอเข้ามาหาน้องสาวในห้องทำงานของน้าทั้งสอง ก่อนจะยืนมองน้องสาวที่กำลังใจจดใจจ่อกับหน้าจอคอมพิวเตอร์ จนไม่รู้ว่าตอนนี้เธอยืนอยู่ในห้องด้วย

“ยัยพลอย อ่านอะไรอยู่น่ะ ไม่สนใจพี่เลยนะเรา” พิชชาภาพูดออกไปก็เดินเข้าไปหาน้องสาวที่กำลังมองจ้องไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์

“กรอกใบตอบรับค่ะพี่พิช ตอนนี้พลอยได้ทุนไปเรียนต่อที่อเมริกาแล้วนะคะ พี่พิชดีใจกับพลอยไหม” พลอยลดาสาวน้อยลูกครึ่งตากลมโตเอ่ยบอกพี่สาวด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข เพราะเธอกำลังจะได้ไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยชื่อดังในประเทศอเมริกา

“จริงเหรอ ไหนพี่ดูหน่อยสิ” พิชชาภาตอบไปอย่างดีใจ เพราะเธอเห็นพลอยลดาสมัครขอทุนของมหาวิทยาลัยนี้ไว้ตั้งนานแล้ว ในที่สุดน้องสาวของเธอก็จะได้ไปเรียนแพทย์ที่นั่น

“น้องสาวของพี่เก่งที่สุดเลย แล้วบอกน้าพิมกับน้าโจหรือยัง ท่านคงจะดีใจแย่เลยที่พลอยสอบติดหมอที่นั่น” พิชชาภาเอ่ยถามออกไป

“ค่ะ พลอยบอกพ่อกับแม่แล้ว ท่านก็ดีใจเหมือนพี่นี่แหละ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าพลอยจะไปจ่ายเงินแรกเข้าแล้ว พ่อกับแม่ก็บอกว่าให้ไปเอาเงินที่ท่าน พลอยดีใจที่สุดเลยค่ะพี่พิช ในที่สุดพลอยก็จะได้ไปเรียนหมอที่นั่น” พลอยลดาบอกพี่สาวไปก็กอดเอวพี่สาวแน่นอย่างดีใจ

จนพิชชาภาคิดหนักเกี่ยวกับเรื่องของพลอยลดา เธอรู้ว่าพลอยลดาได้ทุนไปเรียนต่อก็จริงแต่ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายมากสมพอควร แล้วน้าของเธอจะไปหาเงินมาจากไหนกัน เธอต้องหาทางช่วยให้น้องสาวของเธอไปเรียนต่อให้ได้ ในเมื่อน้าเธอส่งเธอเรียนได้ เธอก็ต้องส่งน้องสาวเธอเรียนให้จบได้เหมือนกัน

“พี่ก็ดีใจกับเราเหมือนกัน ถ้าไปแล้วต้องตั้งใจเรียนให้มากๆนะ” พิชชาภาพูดไปก็กอดตอบน้องสาวอย่างอบอุ่น ก่อนจะช่วยน้องสาวกรอกแบบฟอร์มต่างๆให้สมบูรณ์ หลังจากนั้นทั้งสองก็อยู่ดูแลร้านจนร้านปิด ก่อนจะเดินทางกลับบ้านไปอย่างปลอดภัย

พอเช้าของอีกวันโจเซฟและพิริมาก็มาพูดคุยกันถึงเรื่องที่เขาจะส่งลูกสาวไปเรียนต่อ เนื่องจากตอนนี้เขายืมเงินใครไม่ได้เลยสักคน ขนาดเพื่อนที่เขาไปคุยด้วยเมื่อวานก็ยังไม่มีเงินมากพอที่จะให้เขายืม จนตอนนี้เขาต้องกลุ้มใจหนักกว่าเก่า

“พิมว่าเราให้ลูกเรียนหมอที่ไทยก็ได้นะคะ อย่างน้อยค่าใช้จ่ายมันก็ไม่มากเท่ากับเมืองนอก” พิริมาบอกกับสามีไปเสียงอ่อน เพราะเธอก็อยากจะให้ลูกสาวไปเรียนต่อที่เมืองนอก แต่ตอนนี้เธอไม่มีเงินมากพอที่จะส่งพลอยลดาไปจริงๆ

“ผมก็คิดว่าอย่างนั้น อย่างน้อยเราขายร้านไปเราก็ยังจะพอมีเงินส่งยัยพิชกับยัยพลอยให้เรียนจบได้ ผมจะคุยกับลูกเรื่องนี้เอง คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะคุณพิม” โจเซฟเอ่ยบอกไป เพราะตอนนี้ไม่มีทางไหนแล้วที่จะรั้งธุรกิจของเขาไว้ได้

“อย่าขายร้านเลยนะคะน้าพิมน้าโจ” พิชชาภาที่ยืนฟังอยู่เอ่ยพูดออกไป ก่อนจะเดินเข้าไปหาน้าทั้งสองที่กำลังพูดคุยกันด้วยความตึงเครียด

“ยัยพิช เราไม่ต้องมายุ่งเรื่องนี้ ปล่อยให้น้ากับน้าพิมจัดการเรื่องนี้เอง เรายังเด็กเราไม่รู้อะไรหรอก” โจเซฟได้ยินหลานสาวพูดก็หันไปมองพร้อมกับทำหน้าตกใจ ก่อนจะเอ่ยพูดออกไปอย่างใจแข็ง

“ไม่ค่ะ พิชไม่ยุ่งเรื่องนี้ไม่ได้ น้าโจกับน้าพิมเลี้ยงพิชมาจนโตนะคะ ยังไงพิชก็ไม่ยอมให้สิ่งที่น้าสองคนรักต้องพังลงแน่ค่ะ ส่วนเรื่องเรียนของยัยพลอย พิชจะเอาเงินที่พิชเก็บไว้มาส่งน้องเองค่ะ อย่างน้อยก็พอจะให้ยัยพลอยใช้ได้ในช่วงแรกๆที่ไปที่นั่น” พิชชาภาเอ่ยบอกไป เพราะเธอมีเงินเก็บที่เธอไปช่วยเจ้หงส์ฟ้าเจ้าของร้านพรีเวดดิ้งที่มักจะจ้างเธอให้ช่วยออกแบบชุดแต่งงานและการตกแต่งรูปแบบงานแต่งงานอยู่

“ส่วนเรื่องร้าน ถ้าน้าโจกับน้าพิมหาเงินไม่ได้จริงๆ พิชจะยอมไปเป็นเมียน้อยเสี่ยกำธรเองค่ะ” พิชชาภาเอ่ยบอกไป เพราะเงินตั้งสิบล้านเธอจะไปหามันได้จากที่ไหนในเวลาแค่สองอาทิตย์

“ไม่ได้ น้าไม่ยอม” พิริมาเอ่ยพูดออกไปอย่างรวดเร็วแบบไม่ต้องคิด เพราะเธอเลี้ยงพิชชาภามากับมือ เธอจะไม่ยอมส่งหลานสาวไปลงนรกแบบนั้นเด็ดขาด ต่อให้ต้องขายร้านไปเธอก็ยอม

“น้าก็ไม่ยอมให้เราทำแบบนี้เหมือนกัน น้ากับน้าพิมเลี้ยงเรามาไม่ได้จะให้ไปเป็นเมียน้อยของใคร น้าตัดสินใจที่จะขายร้านแล้ว ดังนั้นเราก็ไม่จำเป็นต้องไปเป็นเมียน้อยไอ้เสี่ยนั่น เลิกคิดเรื่องนี้ไปเลยนะ” โจเซฟเอ่ยพูดด้วยเสียงจริงจังอย่างไม่พอใจ เพราะเขากลัวว่าหลานสาวจะทำมันขึ้นมาจริงๆ

“เรามีหน้าที่เรียนก็เรียนไป ส่วนเรื่องยัยพลอยกับเรื่องร้านน้าสองคนจะจัดการเอง เข้าใจไหม” พิริมาเอ่ยย้ำบอกกับหลานสาวออกไป

“เข้าใจค่ะ แต่ว่าพิชขอให้น้องได้ไปเรียนต่อที่นั่นนะคะ มันเป็นความฝันของยัยพลอย พิชไม่อยากให้น้องต้องมาผิดหวังทั้งที่น้องก็ได้โอกาสแล้ว พิชมีเงินเก็บประมาณหกแสนค่ะ พิชจะให้ยัยพลอยเอาไปใช้เรียนต่อ แล้วพิชก็จะไปของานพี่หงส์ฟ้าทำเพิ่ม พิชจะช่วยน้าโจกับน้าพิมส่งน้องเรียนเองค่ะ” พิชชาภาบอกออกไปด้วยสีหน้าจริงจัง เพราะเธออยากจะให้น้องสาวได้ทำตามความฝันของแกเอง เหมือนที่เธอได้ทำตามความฝันของตัวเองสำเร็จเพราะมีน้าทั้งสองคอยช่วย

“ยัยพิช น้าขอบใจเรามากนะที่รักและห่วงน้องแบบนี้” พิริมาพูดไปก็น้ำตาไหลอย่างซาบซึ้งที่หลานสาวของเธอรักและห่วงใยลูกสาวของเธอจากใจจริงแบบนี้ เธอดีใจเหลือเกินที่เห็นพิชชาภารักลูกสาวเธอแบบนี้ ต่อไปถ้าเธอตายไปเธอก็คงไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว เมื่อลูกสาวของเธอมีพี่สาวแบบพิชชาภาคอยดูแล

“ขอบคุณอะไรกันคะน้าพิม แค่นี้มันยังไม่ได้ครึ่งขอน้าพิมกับน้าโจที่ต้องเลี้ยงเด็กดื้อแบบพิชมาเลยค่ะ” พิชชาภาบอกไปก็ยิ้มให้น้าทั้งสอง ก่อนจะกอดกันกลมด้วยความรักใคร่

“น้ากับน้าพิมรักเรานะยัยแสบ” โจเซฟเอ่ยพูดไปด้วยความซาบซึ้งเช่นกัน เขาดีใจที่เห็นพิชชาภารักและเป็นห่วงลูกสาวของเขา ไม่เสียแรงที่เขาและพิริมาเฝ้าเลี้ยงดูเด็กสาวให้เติบโตมาด้วยความรักและความเอาใจใส่ เธอจึงกลายเป็นคนมีน้ำใจแบบนี้

หลายวันผ่านไป

พิชชาภาก็ยอมขายตัวให้กับฟรานติโน่เพื่อเอาเงินมาใช้หนี้ให้กับครอบครัว ตามที่เขาได้มาเสนอให้กับเธอเอาไว้ และเขาก็ขอให้เธออยู่กับเขาหนึ่งเดือนเพื่อแลกกับเงินสิบล้านที่เขาจะทุ่มให้เธอ เธอจึงยอมตกลงรับเป็นนางบำเรอของเขาตลอดหนึ่งเดือน

และต่อมาไม่นานเธอก็เสียพรหมจรรย์ให้เขาไปเป็นที่เรียบร้อย จนเธอต้องแบกร่างกายโทรมๆกลับมาพักที่บ้าน เพราะฟรานติโน่เล่นจัดหนักจัดเต็มใส่เธอจนเธอสลบไป พอเขาให้หมอมาตรวจหมอก็สั่งให้งดมีเพศสัมพันธ์ชั่วคราว เธอจึงขอเขากลับมาทำธุระที่บ้านให้เรียบร้อย