๔ วันที่มีกัน (๑)
๔
วันที่มีกัน
การมาเดินเล่นเพื่อซื้อของที่อยากได้กลายเป็นอีกหนึ่งความสุขของแก้วเจ้าจอมไปแล้ว เพราะนอกจากซื้อของให้ตัวเอง เธอยังเลือกเผื่อสามีด้วยถึงเขาจะไม่ค่อยใช้ก็ตาม แต่แค่เห็นของสิ่งนั้นไปวางบนโต๊ะกระจกในห้องหอของเราก็พอแล้ว
ทว่าวันนี้มีเหตุให้ต้องมาซื้อของเพราะพรุ่งนี้จะมีการจัดงานการกุศล แล้วเธอก็ถูกเชิญให้ไปร่วมงานพร้อมสามีที่เป็นสปอนเซอร์หลัก จะน้อยหน้าคนอื่นไม่ได้จึงเตรียมทุกอย่างเสร็จสรรพ ขาดอย่างเดียวคือรองเท้าที่เข้าคู่กับชุด
ตอนแรกคิดจะมาเดินคนเดียวเหมือนทุกครั้ง แต่เพื่อนอย่างทิพรดาไม่มีบิน แถมยังเป็นคนชวนเธอออกมาข้างนอกอีกต่างหาก สร้างความประหลาดใจแก่ดาราคนสวยเป็นอย่างมาก ระหว่างทางจึงเอาแต่จ้องหน้าเพื่อนไม่เลิก พอถึงที่หมายก็ชวนคุย
“วันนี้แกว่างเหรอถึงยอมมาเดินซื้อของกับฉัน”
“อือ ไม่มีบิน แล้วก็ไม่อยากอยู่คนเดียว” พยักหน้าพลางเหลือบมองร้านแบรนด์ดังซึ่งแน่นอนว่าพนักงานแทบทุกคนรู้จักแก้วเจ้าจอมเป็นอย่างดี นอกจากจะเป็นนักแสดงชื่อเสียงโด่งดังแล้ว ยังเป็นลูกค้าประจำของทุกร้านอีกต่างหาก
ลูกคุณหนูที่ซื้อของแพงเป็นว่าเล่น บุพการีประเคนทุกอย่างให้ตามร้องขอ เพิ่งมีช่วงหลังที่เบาลงบ้างเพราะชอบปรัตยาแล้วฝ่ายชายไม่ชอบความฟุ้งเฟ้อ นั่นอาจเป็นแค่เหตุผลเดียวที่แอร์โฮสเตสสาวนึกชื่นชมสามีของเพื่อน
อย่างน้อยก็เปลี่ยนให้แก้วเจ้าจอมไปในทางที่ดีขึ้น ถึงต้องแลกด้วยความเจ็บช้ำเมื่อไม่ถูกรักก็ตาม
“เห็นไหม แกน่ะบอกว่าฉันอยู่คนเดียวไม่เป็น แกเองก็อยู่คนเดียวไม่ได้เหมือนกันนั่นแหละยังมาว่าคนอื่นอีก” กอดแขนเพื่อนสนิทเอาไว้ เธอเป็นคนติดการสัมผัสพอสมควร ยิ่งกับคนสนิทก็มักจะอยู่ใกล้เป็นพิเศษ
มีเพียงปรัตยาที่ห่วงเนื้อห่วงตัวกับหล่อนเหลือเกิน แตะนิดหน่อยก็มองตาขวางแล้ว ยกเว้นก็แค่ตอนร่วมรักบนเตียง ถึงมันจะเป็นแค่การปลดปล่อยความต้องการของเขาฝ่ายเดียว ส่วนเธอก็แค่เครื่องระบายอารมณ์เท่านั้น
แต่สำหรับแก้วเจ้าจอมก็ขอทึกทักว่ามันคือการร่วมรัก...
เราได้สัมผัสกันและกัน เสียงลมหายใจของเขาที่ดังข้างหู ลิ้นหนายามไล่เลียไปตามร่างกาย มือสากที่เล้าโลมให้ความรู้สึกอ่อนระทวย ทุกอย่างซึ่งประกอบเป็นชายหนุ่ม หล่อนหลงใหลทั้งหมดโดยไม่มีข้อยกเว้น
“ฉันอยู่คนเดียวบ่อย แต่ช่วงนี้อยากมีเพื่อน” ไม่รู้ว่านั่นคือข้ออ้างหรือเปล่า คนฟังก็คร้านจะสนใจจึงพยักหน้าแล้วชวนเข้าร้านน้ำหอม เพราะถึงตนจะมีน้ำหอมในตู้เกือบร้อยขวดและยังไม่หมดสักขวด แต่ก็ต้องการซื้อเอาไว้เพื่อจะได้มิกซ์กลิ่นให้แตกต่างในแต่ละงาน
“ดีแล้ว ฉันจะได้มีเพื่อนช็อปปิ้ง” ยิ้มกว้างแล้วทักทายพนักงานที่เดินเข้ามาถามไถ่อย่างคุ้นเคย นางฟ้าบนเครื่องบินจึงส่ายหน้าแทบจะกรอกตามองบน จำยอมเดินตามเพื่อนเพื่อเลือกน้ำหอมที่ตนไม่ได้ต้องการ ที่บ้านมีเยอะจนใช้ไม่หมดจะเอาไปแจกอยู่รอมร่อ
จึงขอเตือนสติคนใช้เงินเป็นเบี้ยบ้าง ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะรวยล้นฟ้าแต่ก็ไม่ควรเอาเงินมาหว่านกับของไม่จำเป็นหรือเปล่า
“กลับไปทำงานเถอะ จะได้ไม่มีเวลาเอาเงินมาผลาญเล่น”
“เงินมีเยอะแยะ ผลาญเล่นเท่าไหร่ขนหน้าแข้งก็ไม่ร่วงหรอกน่า...พรุ่งนี้ต้องไปงานการกุศลกับพี่ใหญ่ว่าจะซื้อชุดกับรองเท้าใหม่ แกเลือกช่วยฉันหน่อยนะ”
ออกจากร้านน้ำหอมมาได้ก็เดินดูของไปเรื่อยกระทั่งถึงร้านรองเท้าที่ตัวเองตั้งใจจะมาดู จึงรีบจูงกึ่งลากเพื่อนเข้าไปข้างในด้วยกัน
ทิพรดาได้ยินอย่างนั้นก็ส่ายหัวทันที ไม่รู้ว่าคิดผิดหรือเปล่าที่มากับเพื่อนสาวผู้รักการช็อปปิ้งเป็นชีวิตจิตใจ รองเท้าของแก้วเจ้าจอมก่อนแต่งงานมีไม่ต่ำกว่าร้อยคู่ ตอนนี้ไม่ต้องคิดเลยว่าจะมีเยอะขนาดนั้น ดีแล้วที่ได้แต่งงานกับมหาเศรษฐี
ถ้าแต่งกับคนอื่นไม่รู้อีกฝ่ายจะมีเงินปรนเปรอเพื่อนของหล่อนหรือเปล่า ใช้เงินเก่งจนตนอยากกุมขมับ
“ที่มีก็เต็มตู้”
“ไม่เหมือนกัน ออกงานก็ต้องของใหม่สิ” เดินดูรองเท้าที่วางไว้บนชั้นด้วยแววตาครุ่นคิด กลัวว่าจะไม่เข้ากับชุดที่เตรียมเอาไว้
ขณะที่เพื่อนสนิทก็นั่งคอยท่าแล้วพูดคุยกันเป็นปกติ ทั้งร้านมีแค่พวกหล่อนสองคนและพนักงานที่คอยให้บริหารอย่างดีเยี่ยม นำน้ำมาเสิร์ฟถึงที่แล้วปลีกตัวออกไปให้ลูกค้าได้เลือกสรรด้วยตัวเอง
“เช่า”
“ไม่เอา ไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร” หันมาปฏิเสธเพื่อทันควัน เล่นเอาคนฟังต้องกรอกตามองบนแล้วหยิบน้ำเปล่าขึ้นมาดื่ม คบกันเกือบสิบปีรู้จักเพื่อนสนิทของตนเป็นอย่างดี แต่ก็อดไม่ได้ที่จะแนะนำให้ประหยัดบ้าง
ถึงแก้วเจ้าจอมจะหาเงินเองแล้วก็มีหุ้นของบริษัท ก็ใช่ว่าจะไม่หมดสักหน่อย ยิ่งใช้เงินแบบนี้เชื่อเลยว่าคงไม่เหลือในบัญชีเข้าสักวัน ถึงกระนั้นพูดไปก็เหนื่อยเปล่า ลูกสาวเศรษฐีพันล้าน อีกทั้งสามียังเป็นประธานบริษัทระดับหมื่นล้าน
คงไม่มีวันที่เพื่อนของเธอจะตกต่ำหรอก
“เรื่องมาก” นั่งมองดาราสาวสวยเลือกรองเท้าพลางแสดงความคิดเห็นบ้าง จนมาถึงคู่ส้นสูงสีดำพื้นแดง มีความพิเศษตรงที่ความระยิบระยับของรองเท้า พอเห็นแล้วก็นึกชอบทันทีจนคว้ามาถือเอาไว้ ก่อนถามความคิดเห็นของเพื่อนเหมือนทุกครั้ง
“รองเท้าคู่นี้สวย! ขอลองก่อนนะ” กำลังจะวางบนพื้นเพื่อลองสวมว่าเข้ากับเธอหรือเปล่า แต่พอเห็นขนาดของเท้าก็หน้าเศร้าทันที เจอของถูกใจแต่กลับไม่ใช่ขนาดที่ใส่อยู่ทุกวัน เธอจึงเรียกพนักงานเพื่อนถามว่ามีขนาดที่ตนสามารถใส่ได้หรือเปล่า
“มีไซส์ 38 ไหมคะ”
กระพริบตาปริบด้วยความหวัง แต่พอเห็นรอยยิ้มอ่อนของอีกฝ่ายใจก็แป้วทันที ยิ่งได้ยินคำตอบก็เสียดายมากกว่าเดิม คอตกจนต้องนั่งลงข้างทิพรดาแล้วใช้ไหล่เพื่อนเป็นที่ซบ มองดูรองเท้าที่ตัวเองถูกใจสายตาละห้อย
เหมือนจะไม่มีวาสนาร่วมกันหรือเปล่า
แต่เธออยากได้นี่น่า...