EP.2 ลูกหนี้ที่รัก
ร้านกาแฟ…
รถยนต์โรลส์-รอยซ์สีดำเงาเคลื่อนตัวมาจอดที่หน้าร้านเบเกอรี่เล็กๆ แห่งหนึ่งในตรอกคับแคบ การปรากฏตัวของชรัณในแต่ละครั้งนับเป็นที่สนใจของคนที่ผ่านไปมา เนื่องจากรถหรูมีราคาแพงและชายฉกรรจ์ที่คอยเดินประกบซ้ายขวาสามารถเรียกความสนใจของผู้คนที่อยู่แถวนั้นได้เป็นอย่างดี
ดวงตาเฉี่ยวคมวาดสายตามองหาใครบางคนก่อนริมฝีปากหนาจะยกยิ้มด้วยความพอใจ เมื่อเห็นเป้าหมายคือพักพิงที่ยืนขายของอยู่ในร้าน
“พวกมึงรออยู่ตรงนี้แหละ เดี๋ยวกูมา”
“ทำไมไม่ให้พวกผมตามเข้าไปด้วยล่ะครับนายน้อย”
“ไม่ต้องตามมา กูไม่อยากให้เป็นจุดสนใจ เดี๋ยวพักพิงจะรู้สึกอึดอัด”
“ครับนาย”
สองขาแกร่งก้าวเข้ามาในร้านด้วยความคุ้นชิน เขามาหาเธอที่ร้านค่อนข้างบ่อยอาทิตย์ละสองถึงสามครั้ง
“พักพิง”
“ชรัณ!” เสียงหวานร้องเรียกคนที่เข้ามาใหม่ด้วยความตกใจเพราะเขาคือคนที่เธอไม่ได้อยากเจอเลยสักนิด เวลาชรัณมาที่นี่เธอมักจะหลบหนีไปอยู่หลังร้านอยู่เป็นประจำ
“ปิดร้านหรือยัง วันนี้ผมมารับพิงไปทานข้าวเย็นด้วยกัน”
“พะ…พอดีพิงยังไม่ปิดร้านเลย ขอโทษด้วยนะชรัณ”
“งั้นก็แปลว่าถ้าปิดร้าน พิงจะไปกับผมใช่ไหม?” ชรัณถามอย่างมีความหวัง ก่อนจะถอดแว่นตาสีชากรอบหนาออกจากใบหน้าเพื่อให้มองเห็นคนตรงหน้าชัดขึ้น
“เอ่อ…”
“ผมรอได้นะ นานแค่ไหนก็รอ”
“ขอโทษนะชรัณ แต่วันนี้พิงมีนัดกับแฟนแล้ว”
“…..” ชายหนุ่มใช้ลิ้นดิ้นกระพุ้งแก้มด้วยหงุดหงิดเมื่อได้ยินคำตอบ พักพิงคือผู้หญิงคนแรกที่เขาสนใจและเธอก็เป็นคนเดียวที่กล้าปฏิเสธคนอย่างเขา
“มีอะไรกันหรือเปล่าพักพิง?” เสียงปริศนาดังขัดจังหวะของคนทั้งสอง พักพิงถึงกลับถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นว่าเป็นผู้กองปลื้ม ว่าที่คู่หมั้นของเธอ
“พี่ปลื้มมาพอดีเลย พอดีชรัณเขาผ่านมาทางนี้ เลยแวะมาหาน่ะค่ะ ไม่ได้มีอะไร”
“พิงโอเคใช่ไหม?” ปลื้มถามแฟนสาวด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นสีหน้าลำบากใจของพักพิง
“โอเคค่ะ ว่าแต่วันนี้เราจะไปทานข้าวที่ไหนกันดี?”
“งั้นไปร้านโปรดของพิงดีไหม เดี๋ยวพี่โทรไปจองโต๊ะไว้ให้”
“ดีเลยค่ะ งั้นพิงขอเก็บร้านแป๊บนึงนะคะ”
“ได้ครับ เดี๋ยวพี่รอนะ”
ชรัณยืนมองคนทั้งสองแบบเงียบๆ ทั้งๆ ที่เขาเพรียบพร้อมมากกว่าผู้ชายคนนั้นเป็นไหนๆ แต่กลับไม่ได้หัวใจของเธอ
พลั่ก! ว่าที่คู่หมั้นเซถลาถอยหลังออกไปเมื่อถูกชรัณเดินชนเข้าอย่างแรงแบบตั้งใจ
“เดินชนแล้วหนี ไม่คิดจะขอโทษเลยหรือไง!”
“แล้วจะทำไม!” ชรัณเดินย้อนกลับไปถามก่อนจะยืนจ้องหน้าปลื้มด้วยสายตาเรียบนิ่ง
“หรือมึงมีปัญหาอะไรกับกู?”
“…..”
ควันบุหรี่พวยพุ่งออกจากปากของชายหนุ่มครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง ชรัณได้แต่นั่งมองภาพชายหญิงทั้งสองที่เดินออกจากร้านกาแฟแล้วหายขึ้นรถไปด้วยกัน ท่าทางสนิทสนมของคนทั้งคู่มันทำให้เขารู้สึกรำคาญใจ
“เอาไงต่อครับนาย คุณพักพิงเธอออกไปกับไอ้ผู้กองคนนั้นแล้ว”
“ปล่อยไปก่อน ถ้าพักพิงตกเป็นเมียของกูเมื่อไหร่ กูจะจัดการเธอให้สาสมที่กล้ามาอวดดีกับคนอย่างกู!”
“…..”
“พวกมึงคอยดูแล้วกัน อีกไม่นานเกินรอ ผู้หญิงคนนี้ต้องเป็นฝ่ายคลานเข่าเข้ามาหากูเอง”
“.….”
บ้านกรกุล
“กลับมาแล้วค่ะ วันนี้พิงซื้อน้ำเต้าหู้ร้านโปรดมาฝากแม่กับพลอยด้วยนะ”
“มานั่งตรงนี้ก่อนสิพิง แม่ซื้อชุดสวยๆ มาให้แกกับน้องด้วยนะ เป็นยังไง ชอบไหม?”
พักพิงมองไปยังข้าวของแบรนด์เนมที่วางอยู่บนโต๊ะมากมาย ทั้งๆที่ฐานะทางบ้านในตอนนี้กำลังเข้าขั้นวิกฤตแล้วแม่ไปเอาเงินจากไหนมาซื้อข้าวของพวกนี้
“แต่ชุดพวกนี้ราคาแพงมาเลยนะ แม่ไปเอาเงินมาจากไหน?”
“ฉันก็มีเงินของฉัน แกจะไปรู้อะไร” พรพรรณตอบอย่างอารมณ์ดีเธอมองสิ่งของที่เพิ่งซื้อมาด้วยแววตาเป็นประกาย นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้ใช้เงินมือเติบแบบนี้
“บอกพิงมาก่อนว่าแม่เอาเงินนี่มาจากไหน!?”
“แม่โทรไปยืมชรัณมา”
“มะ…แม่!”
“อาทิตย์หน้าน้องแกมีนัดต้องไปหาหมอ ลืมไปแล้วหรือไง”
“เอาเงินพิงก็ได้ ไม่เห็นจะต้องไปยืมเขาเลย” พักพิงพูดอย่างหมดหนทาง ถึงแม้ว่าเงินเก็บที่มีจะไม่ได้มากมาย แต่ถ้าแม่ใช้แบบประหยัดมันก็พอจะทำให้อยู่แบบมีกินมีใช้ได้ไม่ลำบาก
“ลำพังเงินแกมันไม่พอกินพอใช้หรอก”
“แม่ไปยืมเงินชรัณมาเท่าไหร่ พิงจะเอาไปคืนเขาให้หมดเลย”
“…..”
“พิงถามว่าแม่ไปเอาเงินชรัณมาเท่าไหร่?”
“สามล้าน”
“สะ…สามล้าน!”
“…..”
พักพิงเข้ามาในนั่งห้องของตัวเองอย่างหมดอาลัยตายอยาก เงินเก็บที่มีคงไม่พอใช้หนี้ชายหนุ่มด้วยซ้ำ เธอครุ่นคิดและตัดสินใจอยู่นานก่อนจะกดโทรหาชรัณในรอบหลายเดือน
(ว่าไงที่รัก กำลังคิดถึงพอดี ว่าแต่พิงไม่ได้โทรหาผมนานแค่ไหนแล้วนะ)
“พิงเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ต้องให้แม่พิงยืมเงิน” เสียงหวานบอกอย่างไม่พอใจมากนัก เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอคอยตามใช้หนี้ให้แม่หลายต่อหลายครั้ง แต่ละครั้งแม่มักจะเอาไปใช้ในสิ่งที่ไม่มีประโยชน์เพื่อรักษาหน้าตาในสังคมของตัวเอง
(แม่พิงเป็นคนบอกผมเองว่าจะเอาเงินไปรักษาน้องคุณที่ป่วยอยู่ ผมสงสารก็เลยให้ยืมไป แถมยังไม่คิดดอกแม้แต่บาทเดียว พิงควรจะขอบคุณผมมากกว่านะ)
“ขอเวลาให้พิงหน่อยแล้วกัน เดี๋ยวพิงจะรีบหามาคืนให้หรือชรัณจะคิดดอกเบี้ยก็ได้”
(ไม่เป็นไรเลยที่รัก เงินแค่สามล้านผมไม่ได้ซีเรียสอะไรเลยนะ)
“…..”
(ไปกินข้าวด้วยกันสักมื้อสิ เดี๋ยวผมยกหนี้ให้หมดเลย)