บทย่อ
“พิงไม่ต้องการจัดงานแต่ง ไม่ต้องการจดทะเบียนสมรส” ดวงตาเฉี่ยวคมค่อยๆ ไล่สายตามองสำรวจเรือนร่างอรชรอย่างพิจารณาเมื่อได้ยินคำต่อรอง ชรัณไม่ใช่คนธรรมดาที่เธอจะล้อเล่นด้วยง่ายๆ ถ้าทำให้โกรธหรือไม่พอใจ เขาสามารถสั่งลูกน้องให้ฆ่าปิดปากเธอได้ทันที “พิงกำลังล้อเล่นอยู่หรือเปล่า?” นิ้วเรียวยาวเคาะลงบนโต๊ะทำงานอย่างใจเย็น ก่อนที่เธอจะเป็นฝ่ายรีบหลบตาพร้อมกับเนื้อตัวที่สั่นเทาบ่งบอกว่ากำลังหวาดกลัวเขามากแค่ไหน “พิงพูดจริงค่ะ ชรัณต้องการแค่ตัวพิงไม่ใช่หรอกหรอ” “ไม่ยอมจดทะเบียน ไม่ยอมให้จัดงาน แล้วมันจะเรียกว่าแต่งงานได้ยังไง?” “พิงคิดว่างานแต่งหรือทะเบียนสมรสคงไม่จำเป็น ชรัณคงคิดเหมือนกันใช่ไหม” “แต่สิ่งที่พิงทำมันไม่ต่างอะไรจากการขายตัวเลยนะรู้ไหม” ถึงแม้จะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่ทำเอาคนที่ได้ฟังถึงกลับรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก “ชรัณจะคิดแบบนั้นก็ได้ เพราะมันคือเรื่องจริง” “ถ้าพิงต้องการแบบนั้น ผมก็ทำให้ได้” “เงินก้อนนั้นมันสำคัญกับพิงมากจริงๆ ขอให้พิงเถอะนะ” “เข้ามาใกล้ๆ สิ แล้วผมจะให้เงินตามที่พิงต้องการ” “…..” หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่อย่างชั่งใจพลางเหลือบสายตามองไปยังเงินสดกองโตจำนวนหลายสิบล้านที่วางอยู่ข้างชายหนุ่ม เธอไม่เคยต้องรู้สึกหนักใจขนาดนี้มาก่อน… “อยากได้เงินมากไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงไม่เข้ามาหาผม” เมื่อความจำเป็นบีบบังคับให้ต้องเอาตัวเข้าแลกเพื่อครอบครัว พักพิงจึงตัดสินใจเดินเข้าไปหาชายหนุ่มทั้งน้ำตาอย่างไม่มีทางเลือก
EP.1 ผู้หญิงของชรัณ
“สวัสดีครับคุณน้า”
“เป็นไงมาไง นั่งก่อนสิลูก” พรพรรณยิ้มกว้างจนแก้มปริเมื่อเห็นว่าคนที่มาใหม่คือ ‘ชรัณ ปัทมพิสุทธิ์’ ชายหนุ่มหน้าตาดีที่มาติดพันลูกสาวของเธอ
นอกจากชรัณจะมีหน้าตาที่หล่อเหลาแล้ว เขายังมีชาติตระกูลเก่าแก่ที่ดังระดับประเทศ เป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียวของคุณหญิงดาหลากับท่านทูตไมตรี ส่วนเรื่องฐานะคงไม่ต้องพูดถึงเข้าขั้นมหาเศรษฐีก็ว่าได้
นั่นเป็นเพียงเบื้องหน้าที่สังคมรับรู้ แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าเบื้องหลังของเขามันเน่าแฟะขนาดไหน
ถึงแม้จะมีทุกอย่างเพรียบพร้อมแต่ชรัณยังคงชื่นชอบในการทำธุระกิจผิดกฏหมายทุกชนิด ด้วยหน้าฐานะสังคมและอิทธิพลของผู้เป็นพ่อ เลยทำให้เขารอดคุกรอดตารางมาได้จนถึงทุกวันนี้
“พักพิงอยู่ไหมครับ?” ดวงตาเฉี่ยวคมวาดสายตามองไปรอบบ้านเพื่อมองหาคนที่ต้องการเจอ ‘พักพิง’ คือหญิงสาวที่เขาชอบและหมายปองมานาน
“น้องอยู่บนห้อง เดี๋ยวน้าให้คนไปตามให้นะ”
“พอดีผมไปทำงานเพิ่งกลับจากญี่ปุ่น เลยมีของฝากเล็กๆ น้อยๆ ติดมือมาให้คุณน้ากับน้องๆ”
“ขอบใจมากนะที่ยังคิดถึงกัน ไปไหนมาไหนมีของฝากให้น้าตลอดเลย” พรพรรณรีบรับสิ่งของจากชายหนุ่มเมื่อเห็นว่ามันคือข้าวของราคาแพงเช่นพวกน้ำหอมหรือกระเป๋าแบรนด์เนมเป็นต้น
“คุณแม่ให้คนไปตามหนูมีธุระอะไร…” ใบหน้าจิ้มลิ้มราวกับตุ๊กตาค่อยๆ หุบยิ้มลงหลังจากที่เห็นชรัณนั่งคุยกับแม่ของเธอด้วยความสนิทสนม เธอรู้สึกไม่ชอบขี้หน้าเขาเอาเสียเลย
“ชรัณมาหา มานั่งคุยกับพี่เขาก่อนสิ”
“เอ่อ…”
“นั่งลงพักพิง! อย่าเสียมารยาท”
“…..” คนตัวเล็กจำใจต้องนั่งลงข้างชรัณอย่างไม่มีทางเลือก เขาคือคนที่แม่อยากได้มาเป็นลูกเขยมากที่สุด
ตั้งแต่ที่พ่อของเธอล้มป่วยและตายลงไป ครอบครัวที่เหลือกันแค่สามคนก็เริ่มระหองระแหงเงินมรดกที่พ่อทิ้งไว้ให้ก่อนตายก็เริ่มหดหายลงไปทุกวัน ซ้ำน้องสาวยังมาป่วยเป็นโรคร้ายที่ต้องใช้เงินรักษาครั้งละมากมาย แม่เลยอยากให้เธอลงเอยกับชรัณ เพราะอยากให้ฐานะทางบ้านกลับมาร่ำรวยอู้ฟู่เหมือนเดิม
“ไม่เจอกันแค่อาทิตย์เดียว พิงดูสวยขึ้นนะ” ชรัณจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความหลงใหล ตั้งแต่เจอเธอครั้งแรกก็รู้สึกตกหลุมรักจนอยากได้เธอมาครอบครอง โดยรู้อยู่แก่ใจว่าพักพิงมีแฟนที่เป็นนายตำรวจใหญ่ เธอไม่เคยสนใจหรือชายตาแลเขาเลยสักนิด
แต่แล้วไง ใครสนกัน! ถ้าเขาอยากได้ ยังไงก็ต้องได้ ต่อให้ต้องใช้วิธีสกปรกมากขนาดไหนก็จะทำ ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์แย่งเธอไปได้ทั้งนั้น
“ชรัณมาหาพิงมีธุระอะไรหรือเปล่า?”
“พอลงจากเครื่อง ผมก็รีบมาหาพิงเลย พอดีว่าคิดถึงน่ะ”
“…..” หญิงสาวรู้สึกกระอักกระอ่วนใจทุกครั้งที่ต้องอยู่ด้วยกัน
“ของฝากจากญี่ปุ่น หวังว่าพิงคงชอบ”
“มันแพงเกินไป พิงไม่ขอรับไว้นะเอากลับไปเถอะ” คนตัวเล็กบอกปฏิเสธเมื่อเห็นสิ่งของที่ชายหนุ่มยื่นให้
“แต่ผมตั้งใจซื้อมาให้พิงแล้ว ยังไงพิงก็ต้องรับไว้” เธอสะดุ้งด้วยความตกใจเมื่อชรัณถือวิสาสะเอาข้าวของพวกนั้นยัดใส่มืออย่างไม่เต็มใจ
“เอาไปสิ”
“ขอบคุณค่ะ”
“…..”
“ชรัณมันดูรักแกหลงแกมากเลยนะ ดูของที่มันซื้อมาให้แต่ละอย่างสิ มีแต่ของดีๆ แพงๆ ทั้งนั้น” พรพรรณสายตาลุกวาวเป็นประกายหลังจากที่ชายหนุ่มนั้นกลับไปแล้ว เธอรู้สึกรำคาญใจที่เห็นว่าพักพิงไม่มีท่าทางสนใจชรัณแม้แต่น้อย
“เมื่อไหร่แกจะยอมตกลงปลงใจกับมันสักที ครอบครัวเราจะได้สบาย”
“แต่พิงไม่ได้รักเขาแม่ก็รู้”
“แกอย่าโง่ไปหน่อยเลยพักพิง ความรักของแกมันกินได้ที่ไหน ลำพังแค่ไอ้ผู้กองจนๆ คนนั้น มันทำให้ครอบครัวเราสบายไม่ได้หรอก”
“…..”
“มันต้องแบบชรัณ ชาตินี้ทั้งชาติพวกเราก็ใช้เงินมันไม่หมด!”
“แต่พิงรักพี่ปลื้ม พี่ปลื้มเขาเป็นคนดี เราสองคนวางแผนว่าจะหมั้นกันปลายปีนี้แล้วนะคะ”
“หยุดพูดจาไร้สาระ แม่ไม่มีวันยอมรับไอ้ผู้กองจนๆ คนนั้น แกจะไปไหนก็ไป! อย่ามาทำตัวน่ารำคาญแถวนี้”
“…..” คนตัวเล็กถึงกลับคอตกก่อนจะรีบเดินออกมาอย่างโต้แย้งไม่ได้
“ทำไมทำหน้าแบบนั้น พี่โดนแม่ดุมาอีกแล้วใช่ไหม”
‘แพรพลอย’ น้องสาวคนเล็กถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นพักพิงเดินกลับเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าไม่สู้ดี
“เมื่อกี้พลอยเห็นรถพี่ชรัณจอดอยู่หน้าบ้าน เขากลับไปแล้วเหรอ”
“กลับไปแล้ว”
“แล้วเรื่องพี่ปลื้มเป็นยังไงบ้างคะ”
“ก็ดี เย็นนี้พี่มีนัดไปกินข้าวเย็นด้วยกัน”
“พี่ปลื้มดูเป็นผู้ชายที่อบอุ่นมาก พี่พิงคงมีความสุขมากเลยใช่ไหม” แพรพลอยมองพี่สาวด้วยสายตาอบอุ่น ถ้าพักพิงมีความสุข เธอก็มีความสุขด้วยเหมือนกัน
“มีความสุขดี แต่แม่…”
“พี่ไม่ต้องไปสนใจแม่หรอก เห็นใครรวยหน่อยก็ชอบเขาไปซะหมด”
“แล้วพลอยเป็นยังไงบ้าง อาการวันนี้โอเคหรือเปล่า?”
“โอเคค่ะ สบายมาก”
“พลอยต้องเข้มแข็งนะ” มือเล็กยื่นไปลูบหัวน้องสาวอย่างอ่อนโยนโรคที่แพรพลอยป่วยคือมะเร็งเม็ดเลือดขาวที่มีความเสี่ยงสูง โอกาสรักษาให้หายขาดมีเพียงร้อยละ60 ซึ่งค่าใช้จ่ายในการรักษาแต่ละครั้งมีราคาสูงมาก
“พลอยสู้อยู่แล้ว ยังไงก็ไม่ยอมตายๆ ง่ายหรอก ถ้าพลอยตายแล้วพี่จะอยู่กับใคร”
“เด็กน้อยของพี่”
หลายวันต่อมา…
“ดอกไม้จากคุณชรัณครับ” พักพิงวางมือจากการทำขนมเมื่อมีพนักงานส่งของหอบดอกไม้ช่อโตมาให้เธอถึงในร้านกาแฟ
หลังจากที่เรียนจบเกี่ยวกับด้านอาหาร เธอจึงศึกษาลงทุนเปิดร้านคาเฟ่เล็กๆ ที่มีทั้งกาแฟและเบเกอรี่ ผลตอบแทนทางธุรกิจก็ถือว่าค่อนข้างดี
“เนื่องในโอกาสอะไรคะ?”
“ไม่ทราบครับ แต่คุณชรัณฝากทางร้านเอามาให้คุณ”
“ถ้างั้นฉันขอไม่รับนะคะ ฝากเอากลับคืนไปให้เขาด้วย”
“รับไว้เถอะพิง ชรัณเขาอุตส่าห์มีน้ำใจ” ผู้เป็นแม่ถึงกลับหน้าเสียเมื่อลูกสาวตัวดีปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย
“ฝากไปบอกคุณชรัณด้วยนะว่าไม่ต้องส่งอะไรมาให้ฉันอีก กลับไปได้แล้วค่ะ”
“ครับ”
“..…”
“นี่แกเสียสติไปแล้วหรอยัยพิง ทำไมแกถึงไม่รับของพวกนั้น” พรพรรณโวยวายออกมายกใหญ่ เธอรู้สึกเสียดายที่ลูกสาวไม่ยอมรับสิ่งของนั้นไว้
“หนูไม่ได้ต้องการอะไรจากเขา ถ้าเป็นเงินจากการทำผิดกฎหมายขึ้นมา มีหวังเราต้องเดือดร้อนแน่ๆ”
“จะเอาเงินมาจากไหนก็เรื่องของมัน บ่อเงินบ่อทองขวางอยู่ข้างหน้าทำไมไม่รีบขว้าไว้ แกมันโง่มากรู้ตัวบ้างไหม! นังลูกไม่รักดี”
พลั่ก!
“…..” ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่นเมื่อถูกผู้เป็นแม่ผลักศรีษะจนหงายเงิบ เธอได้แต่ยืนเงียบไม่กล้าตอบโต้ เพราะไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูเหมือนว่าจะขัดใจแม่ไปซะทุกอย่าง
หลายวันต่อมา
ก๊อก! ก๊อก! ใบหน้าคมคายหยุดชะงักเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูรบกวนในขณะที่เขากำลังประชุมงานสำคัญกับลูกค้า
“ขออนุญาตครับนายน้อย”
“ผมขอตัวสักครู่นะ” ชรัณละสายตาจากคนนับสิบตรงหน้า ก่อนจะเดินตามลูกน้องออกจากห้องประชุม
“เป็นยังไงบ้าง พักพิงเธอว่ายังไง?”
“คุณพักพิงไม่ยอมรับดอกไม้จากนาย แถมยังฝากมาบอกว่าไม่ต้องส่งอะไรไปให้เธออีก”
“เหอะ” เสียงทุ้มต่ำหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยัน เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิดเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พักพิงปฏิเสธแต่ด้วยความอยากได้และอยากเอาชนะ ยังไงเขาก็ไม่ยอมลามือจากเธอง่ายๆ
“อยากรู้เหมือนกันว่าจะใจแข็งกับกูไปได้นานสักแค่ไหน”
“…..”
“เย็นนี้เตรียมรถให้พร้อม กูจะไปหาเธอ”
“รับทราบครับนาย”