EP.15 ความคิดถึง
บนรถ…
“เพื่อนผมทำให้พิงรู้สึกอึดอัดหรือเปล่า?” ชรัณหันไปถามหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ ในขณะที่กำลังนั่งรถกลับที่พัก
“ไม่อึดอัดเลยค่ะ เพื่อนๆ ของชรัณน่ารักทุกคนเลย โดยเฉพาะคุณเจย์ชวนพิงคุยสนุกมาก” คนตัวเล็กพูดเสียงเจื้อยแจ้วสดใสพอชรัณพาออกมาเปิดหูเปิดตาเลยรู้สึกคลายเหงาได้บ้าง
“ผมรู้สึกดีนะที่คุณเข้ากับเพื่อนผมได้”
“ท่าทางของพวกคุณสนิทกันมาก รู้จักกันมานานแล้วเหรอคะ?”
“ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมแล้ว”
“ไม่น่าเชื่อมาก่อนเลยนะว่าชรัณไม่เคยมีแฟนมาก่อน” คนตัวเล็กพูดแซวเพราะเจมีไนน์เป็นคนเล่าให้เธอฟังว่าตั้งแต่เกิดมาชรัณยังไม่เคยมีแฟนมาก่อน อาจจะมีแค่คนคุยผ่านๆ แต่ไม่ได้จริงจัง
“ผมไม่ชอบตามใจใคร ไม่ชอบการถูกผูดมัดเลยชอบการอยู่คนเดียวมากกว่า”
“…..” พอได้ยินแบบนั้นถึงกลับหยุดนิ่งไป ถ้าเป็นแบบที่เขาพูด ชรัณคงไม่ได้คิดจริงจังกับเธอเหมือนกัน
“แต่ตอนนี้ผมเปลี่ยนไปแล้วนะ” มาเฟียหนุ่มพูดขึ้นอย่างรู้ทันว่าพักพิงกำลังคิดอะไรอยู่
“ผมอยากอยู่กับพิง อยากให้พิงมาเป็นแม่ของลูกผม”
“…..”
“แล้วตอนนี้คุณรู้สึกยังไงกับผม?”
“ตอนนี้พิงยังไม่ได้รู้สึกอะไร”
จากใบหน้าหล่อเหลาที่เคยยิ้มให้ค่อยๆ หุบลงเมื่อได้ยินหญิงสาวบอกแบบนั้น ระยะช่วงเวลาที่แสนสั้น เธอยังไม่สามารถรักเขาได้จริงๆ
“ขอเวลาให้พิงอีกสักหน่อยนะคะ”
“ผมเข้าใจ ของแบบนี้มันต้องใช้เวลา” ถึงแม้จะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแต่สายตาของเขากลับแข็งกร้าวจนเธอรู้สึกสับสนว่าตัวตนที่แท้จริงของชรัณนั้นเป็นแบบไหนกันแน่
“นายจะให้ผมไปส่งที่เพนท์เฮาส์หรือบ้านใหญ่ดีครับ” เสียงของลูกน้องคนสนิทดังแทรกขึ้นมาช่วยให้บรรยากาศก่อนหน้านั้นผ่อนคลายลงได้บ้าง
“ไปเพนท์เฮ้าส์”
“รับทราบครับนาย”
เวลาต่อมา…
ชรัณทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาพลางกอดอกหลับตาลงด้วยความเมื่อยล้า พักหลังมานี้เขาโหมงานหนักเกือบจะทุกวันเลยทำให้รู้สึกเหนื่อยมากกว่าปกติ
“กลับมาเหนื่อยๆ อยากแช่น้ำอุ่นๆ ไหมคะ เดี๋ยวพิงไปเตรียมไว้ให้”
“คุณก็คงเหนื่อยเหมือนกัน ไม่ต้องทำอะไรให้ผมหรอก”
“พิงเต็มใจทำค่ะ ไม่เหนื่อยเลย”
“คนดีของผม” ถึงแม้จะเหนื่อยกับงานมากแค่ไหนแต่สิ่งที่ต้องการมากที่สุดคือตัวของพักพิง
แค่ได้กลิ่นกายหอมอ่อนๆ จากตัวเธอก็รู้สึกผ่อนคลายจะว่าเขาเสพติดเธอก็คงไม่แปลก
“อืมม~” เล็บสวยจิกลงบนลงท่อนแขนแกร่งอย่างแรงเมื่อชรัณตะโบมจูบเธอด้วยความเร่าร้อน
เรียวลิ้นสากโลมเลียตวัดดูดดึงที่ริมฝีปากบางจนเปียกแฉะเต็มไปด้วยน้ำลายของกันและกัน
“ชรัณจูบพิงบ่อยไปแล้วนะ”
“ตอนนี้ผมอยากเอาคุณจะแย่ ไม่รู้ตัวเลยหรือไง”
“รู้ค่ะ แต่ไม่ให้ทำ”
“เด็กดื้อ!” มือหนาเลื่อนไปบีบพวงแก้มใสด้วยความมันเขี้ยว ตอนนี้แค่รอให้ถึงเวลาที่เธอพร้อมจะเป็นของเขาอีกครั้ง
“ก็วันนั้นคุณทำแรง พิงยังเจ็บตรงนั้นไม่หายเลย”
“กลัวเป็นด้วยเหรอ?”
“กลัวสิคะ คุณน่ะน่ากลัวจะตายไป” ใบหน้าแสนหวานค่อยๆ เห่อร้อนขึ้นมาด้วยความเขินอายเมื่อสมองคิดประมวลผลย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ที่มีอะไรกับชรัณครั้งแรก
ถึงแม้เขาจะอ่อนโยนและสุภาพกับเธอ แต่พออยู่บนเตียงกับเปลี่ยนเป็นคนละคนจนน่าแปลกใจ
“ครั้งแรกก็แบบนี้แหละ ถ้าเอากันบ่อยๆ เดี๋ยวก็ชิน”
“เห้ออ ชอบพูดอะไรแบบนี้อยู่เรื่อยเลย ไม่อยากคุยกับคุณแล้ว” พูดจบเธอก็รีบเดินออกไป จะเหลือแค่เพียงชายหนุ่มที่ยังนั่งอมยิ้มอยู่เพียงคนเดียว
“…..”
ก๊อก! เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับลูกน้องคนสนิทที่เดินเข้ามาหาผู้เป็นนายด้วยใบหน้าเคร่งเครียด
“มีเรื่องมารายงานครับนาย”
“ว่ามา”
“ผู้กองปลื้มและลูกน้อง เอาหมายศาลบุกไปค้นที่โกดังเราครับ”
“แล้วมันเจออะไรไหม?”
“ไม่เจออะไรครับ คุณเซปไหวตัวทันสั่งให้ลูกน้องมาย้ายของออกไปได้ทันเวลาพอดี”
“มันคงอยากมาทวงของมันคืนสินะ” ชรัณยกยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ เพราะเหตุการณ์ที่เขาโทรไปซ้ำเติมในวันนั้น ผู้กองปลื้มเลยมาเอาคืนเขาด้วยวีธีนี้
“ผู้กองคนนี้ฝีมือไม่ธรรมดาเลยนะครับ ขนาดคุณซานกับคุณหยางที่ว่าแน่ ยังโดนเล่นงานจนต้องหนีหัวซุกหัวซุนออกไปนอกประเทศตั้งหลายปี”
“…..” นิ้วเรียวยาวเคาะลงบนโต๊ะอย่างใจเย็น เขารู้ถึงกิตติศัพท์ของผู้กองคนนี้ดีว่าไม่ทำธรรมดา ครั้งที่แล้วก็เกือบทำให้พวกเขาเข้าคุกเข้าตารางมาแล้ว
“ปล่อยคุณพิงไปเถอะครับ ไม่งั้นมันกัดเราไม่ปล่อยแน่” ลูกน้องคนสนิทพูดด้วยความหวังดี เขารู้ว่าเจ้านายเลือกเอาพักพิงมาอยู่ด้วยมันเป็นเพราะอะไร
“ถ้ามึงกลัวเดือดร้อนก็ไสหัวลาออกไปซะ!”
“แต่ผมเป็นห่วงนายน้อยนะครับ”
“ไม่ต้องมาเป็นห่วงกู! ถ้ามันยังไม่หยุดเดี๋ยวกูจะเป็นคนจัดการมันเอง”
“…..”
“มีอะไรกันหรือเปล่าคะ?” เสียงหวานเอ่ยทักขึ้น ทำให้คนบทสนทนาก่อนหน้านั้นต้องจบลงไป
“พวกมึงออกไปก่อน”
“ดึกแล้วนะคะ ยังต้องทำงานอีกเหรอ” พักพิงถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของทั้งเจ้านายและลูกน้อง
“ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่พิงเตรียมน้ำให้ผมเสร็จแล้วเหรอ?”
“พิงจะออกมาถามว่าวันนี้ชรัณจะใช้ครีมอาบน้ำกลิ่นไหน จะได้เอาออกมาเตรียมไว้ให้ค่ะ”
“ใช้กลิ่นเดียวกับคุณ”
“งั้นไปอาบน้ำกันค่ะ” ร่างบางเดินเข้าไปหาก่อนจะถอดเสื้อผ้าเปลี่ยนเป็นชุดคลุมสีดำให้มาเฟียหนุ่มเหมือนที่ทำอยู่ทุกวัน
“เดี๋ยวนี้เวลาถอดเสื้อผ้าให้ผมไม่เขินแล้วเหรอ”
“เริ่มชินแล้วค่ะ” ริมฝีหนายกยิ้มมุมปากด้วยความเอ็นดูก่อนจะจุมพิตลงที่หน้าผากของเธอด้วยความหวงแหน
เช้าวันต่อมา…
“จะไปไหนครับ?”
หญิงสาวหยุดชะงักไปชั่วขณะเมื่อลูกน้องของชรัณเดินมาขวางหน้าประตูในขณะที่เธอกำลังจะเดินออกไป
“ไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตมาทำอาหารเช้าค่ะ”
“นายทราบหรือยังครับ?”
“ชรัณหลับอยู่ พิงไม่อยากปลุกค่ะ”
“ถ้างั้นเดี๋ยวผมตามไปด้วยครับ”
“ไม่ต้องตามพิงมานะ พี่อยู่เฝ้าชรัณเถอะค่ะ อีกหน่อยเขาก็คงจะตื่นแล้ว ถ้าตื่นมาแล้วไม่เจอใครเดี๋ยวจะโวยวายอีก”
“…..” ชายฉกรรจ์ทำสีหน้าครุ่นคิดเพราะที่พักพิงพูดมามันก็มีส่วนถูก ขืนเจ้านายตื่นขึ้นมาไม่เจอใครคงจะกลายเป็นเรื่องเป็นราว
“พิงเป็นแค่คนธรรมดาไม่ได้มีศัตรูที่ไหน ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ”
“…..”
ตึกตัก! ตึกตัก! หญิงสาวเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเมื่อรู้สึกว่ามีคนเดินตามหลังในขณะที่กำลังเดินกลับเพนท์เฮ้าส์หลังจากซื้อของเสร็จ
“พักพิง!”
คนตัวเล็กรีบหันขวับไปตามสัญชาตญาณเมื่อได้ยินน้ำเสียงอบอุ่นที่คุ้นเคย
“พี่ปลื้ม” ดวงตากลมโตเอ่อรื้นไปด้วยน้ำตาแห่งความคิดถึง ไม่ผิดแน่ๆ คนตรงหน้าคือคนที่เธอคิดถึงและเป็นห่วงมากในตอนนี้
“มาหาพี่มา” ผู้กองหนุ่มมองแฟนสาวที่มีสีหน้าลังเลจนเห็นได้ชัดในสายตาคู่นั้นมันดูโหยหาเขามากแต่ทว่าร่างกายของเธอกลับหยุดนิ่งไม่ยอมเดินเข้ามาหา
“…..”
“มาหาพี่สิพิง เดินมาหาพี่ ผู้ชายคนนั้นเขาไม่ได้หวังดีกับพิงเลยนะ”
“…..” ใบหน้าแสนหวานหันซ้ายมองขวาด้วยความหวาดระแวง ก่อนจะเดินเข้าไปหาแฟนหนุ่มที่อยู่ห่างออกไปแค่ไม่กี่เมตร เธอคิดถึงเขามากเหลือเกิน…
“คุณพักพิง! นายน้อยเรียกหาแล้วครับ” พักพิงสะดุ้งตัวโยนด้วยความตกใจจนใบหน้าซีดเผือดเมื่อได้ยินเสียงลูกน้องคนสนิทของชรัณที่แอบเดินตามมาอย่างห่างๆ
“พะ…พิงจะรีบไปหาชรัณเดี๋ยวนี้ค่ะ”
